10 มีนาคม 2552

จับตาหุ้นเด่นวันนี้ 10-2-52

STOCKFOCUS: จับตาหุ้นเด่นวันนี้

*ROBINS
-ผู้บริหาร เผยปี 52 ตั้งงบลงทุน 1.36 พันลบ.ขยาย 2 สาขา-ปรับปรุงสาขาเดิม เตรียมจัดโปรโมชั่นรับการใช้เช็คเงินสด 2,000 บาท

*TWZ
-เอ็มดี หวังปี 52 กำไรฟื้นกลับมาดีเท่าปี 50 ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 4.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 3.3 พันล้านบาทในปี 51 พร้อมแตกไลน์ธุรกิจใหม่รับผลิตโทรมือถือ

*MAJOR
-ประธานกรรมการบริหาร ระบุว่าปี 52 ยังเดินหน้าลงทุน 1,000 ล้านบาทขยายสาขาโรงภาพยนตร์ 3 สาขา พร้อมทั้งขยายธุรกิจโบว์ลิ่งไปยังประเทศอินเดียตามแผนงาน อัดกิจกรรมการตลาดถี่ควบขายตั๋วล่วงหน้ากระตุ้นรายได้ งัดกลยุทธ์เพิ่มราคา 10% โรงเฉพาะเรื่อง มั่นใจสิ้นปีโกยยอดขายตั๋วแตะ 30 ล้าน

*LVT
-คาดรายได้ปี 52 น่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ทำได้ 1.37 พันล้านบาท จาก Backlog ราว 2 พันล้านบาททยอยรับรู้ฯปีนี้ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท เตรียมเข้าประมูลงานต่อเนื่องโดยเฉพาะในต่างประเทศหวังได้งานใหม่ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท

*GSTEEL
-มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือเครือองค์กรและหุ้นกู้ประเภทไม่มีหลักประกันไม่ด้อยสิทธิของ GSTEEL สู่ระดับ Caa3 จาก Caa1 แนวโน้มเครดิตยังเป็นลบ

*MINT
-ปรับแผนลงทุน 5 ปี (ปี 52-56) วงเงิน 1.14 หมื่นล้านบาท ปีนี้ใช้งบลงทุน 4.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากแผนเดิมที่คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 3.8 พันล้านบาท ส่วนใหญ่จะใช้ในธุรกิจโรงแรม 2.6 พันล้านบาท ธุรกิจที่อยู่อาศัย 800 ล้านบาท และ ธุรกิจอาหาร 900 ล้านบาท

*TK
-ผู้บริหารยอมรับกังวลกำไรสุทธิในปี 52 อาจลดลงจากปีก่อนตามแนวโน้มธุรกิจรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ กำลังเจรจาซื้อพอร์ตสินเชื่อมาบริหารราว 1 พันล้านบาท

*PERM
-บอร์ดรับข้อเสนอ"ยุทธพงษ์ เสรีดีเลิศ"ที่ส่งตัวแทนเข้าร่วมเป็นกรรมการ เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณา 9 เม.ย.นี้

*AMC
-นายชูศักดิ์ ยงวงศ์ไพบูลย์ ผู้บริหาร และนางสาวเพ็ญจันทร์ โยธินอุปไมย ขายหุ้นบิ๊กล็อตให้นายวีระชัย สุธีรชัย ในราคาหุ้นละ 1.00 บาท
ทำให้กลุ่มชูศักดิ์ เหลือถือหุ้นใน AMC ที่ 24.30% จากเดิม 33.80% ส่วนกลุ่มสุธีรชัย ถือหุ้นเพิ่มเป็น 17.86% จากเดิมที่ถือ 8.36%

*QH
-"ควอลิตี้ เฮ้าส์" เสนอขายหุ้นกู้ผ่าน 3 แบงก์ "กรุงเทพ-ไทยพาณิชย์-ทหารไทย" ชูดอกเบี้ย 5.30% ต่อปีพร้อมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อระหว่างวันที่ 16-18 มี.ค.นี้ นำเงินชำระคืนเงินกู้ที่ต้นทุนสูงกว่าและเป็นเงินทุนหมุนเวียน

*THAI
-แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่ามีผู้ยื่นใบสมัครเข้ารับการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) บมจ. การบินไทย (THAI) รวม 11 คน โดยตัวเต็งสำคัญ 2 ราย ได้แก่ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีต รมว.พลังงาน และ นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)
-สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ยื่นหนังสือนายกรัฐมนตรีค้านย้ายบริการจากดอนเมืองไปสุวรรณภูมิ นัดชุมนุมใหญ่เช้าวันนี้

*JTS
-บริษัทอยู่ระหว่างรอผลการประมูลงานภาครัฐ 1 งานภายในไตรมาส 1/52 หากชนะช่วยเพิ่มมูลค่า backlog จากที่มีอยู่ 2 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 51

*JAS
-ซีอีโอ เชื่อปีนี้พลิกมีกำไร 800-1,000 ล้านบาท จากที่ขาดทุนกว่า 1.2 พันล้านบาทในปี 51 ตั้งเป้ารายได้ในปี 52 ราว 7.5 พันล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ 5.3 พันล้านบาท ชูธุรกิจอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ส่ง Maxnet รุกหนักหั่นราคาต่ำสุดชิงส่วนแบ่ง

*TT&T
-บริษัทเตรียมทำแผนฟื้นฟูกิจการหากศาลเห็ฯชอบบริหารแผนเอง ประกอบด้วย 3 แนวทาง ทั้งขอลดหนี้-ยืดหนี้-แปลงหนี้เป็นทุน ศาลนัดไว้ในวันที่ 17 มี.ค.นี้ แม้ว่าจะมีเจ้าหนี้เสียงข้างน้อยที่ยังไม่เห็นด้วย แต่ก็เชื่อว่าในที่สุดแล้วจะสามารถตกลงกันได้

*AH
-ปีนี้รายได้และกำไรจะลดลง 25-30% ตามภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่รักษาอัตรากำไรขั้นต้น ลดต้นทุนการบริหารจัดการภายใน-โละซับคอนแทรค 15-20%

*IRPC
-ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับแนวโน้มอันดับเครดิต ไออาร์พีซี เป็น "ลบ" และคงอันดับเครดิตในประเทศที่ระดับ A-(tha) และ F2(tha) สะท้อนผลงานปี 51 หนี้สินและอัตราส่วนหนี้อยู่ในระดับสูงกว่าที่คาด แนวโน้มกระแสเงินสดในอนาคตลดลง และความไม่แน่นอนของอุปสงค์เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักประกอบกับโรงกลั่นมีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน บั่นทอนฐานะการเงินคล่องตัวลดลง

*BBL, KTB
-นสพ.รายงาน “กอร์ปศักดิ์" แย้มธนาคารกรุงไทยอาจชวดออกเช็คช่วยชาติ หลังธนาคารกรุงเทพเสนอแค่ 2 บาท

*SSEC, TRU, ITD
-นสพ.รายงาน คลังชง ครม.ปรับเงื่อนไขทีโออาร์เช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน เน้นใช้รถประกอบในประเทศ 75% ลดนำเข้าเหลือ 25% พร้อมขยายเวลาส่งมอบ ระบุเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการคนไทย

*AOT
-นสพ.รายงาน ทอท.สั่งศึกษาความเหมาะสมเข้าบริหารสนามบินกระบี่ของกรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) คาดแล้วเสร็จเดือนเม.ย.นี้

*PTT, IRPC, PTTCH
-นสพ.รายงาน ประธาน ส.อ.ท.เตรียมเสนอนายกรัฐมนตรีในเวทีคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) วันที่ 18 มี.ค.ผลักดันยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองจังหวัดระยองประกาศเขตควบคุมมลพิษที่มาบตาพุด

*ACL
-นสพ.รายงาน ผู้บริหารยืนยันไม่ปรับลดเป้าสินเชื่อแม้เศรษฐกิจโลกผันผวน ปี 52 ตั้งเป้าโต 7-10% หรือคิดเป็นสินเชื่อที่ปล่อยใหม่ 4,000-5,000 ล้านบาท

*PSL
-นสพ.รายงาน PSL ยังแกร่งสวนทางธุรกิจเรือทรุด ทำสัญญาล่วงหน้า 60% หนีตาย ด้านคนในวงการเชื่อกำไรทั้งปี 2.8 พันล้านบาท แถมปันผลยังแจ่มเกิน 1 บาท สูงเกือบ 10% จ่อคิวทยอยขายเรือเก่า 22 ลำ แล้วหามือสองเข้ามาทดแทน

*TMB
-นสพ.รายงาน "แบงก์ทหารไทย"รับเละ 1.5 หมื่นล้านบาท หลังล้างพอร์ตขาย NPA-NPL จำนวน 3.5 หมื่นล้านบาทให้ บสก. เตรียมเซ็นสัญญาได้เดือนเมษายนนี้ ขณะที่ TMB ตัวเบาตัวเหลือหนี้แค่ 50% เตรียมลุยปล่อยสินเชื่อใหม่ทันที

*TPOLY
-นสพ.รายงาน "เจริญ"แฉบล.บีฟิท รวมหัวต้ม TPOLY ส่งก๊วนเดียวกันเก็บหุ้นเพิ่มทุนพีพี 40 ล้านหุ้น ราคา 2.20 บาท ก่อนเปิดขายไอพีโอ จากนั้นขายทิ้งเกลี้ยงกดราคาหุ้นดิ่งเหวหลุดจองเละเทะเหลือแค่ 1.56 บาท กรรมตกที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยเดือดร้อนรับเคราะห์กันเต็มๆ

*BSEC
-นสพ.รายงาน BSEC วิ่งไม่ลืมหูลืมตา เย้ยตลาดสั่งสอบหุ้น โบรกคาดผู้ถือหุ้นใหญ่แห่เก็งกันเอง เตือนนักลงทุนรายย่อยเสี่ยงระวังติดกับราคาหุ้นพุ่งสูงเกินจริง ระวังแรงขายส่วนพื้นฐานธุรกิจดีขึ้นไล่กวดมาร์เก็ตแชร์รองจากกิมเอ็ง แต่วอลุ่มหดฉุดกำไรปีนี้ทรุดเพราะมาตรการรัฐอัดฉีดเศรษฐกิจฟื้นไม่ทันปีนี้

*PSAAP
-นสพ.รายงาน จับตา PSAAP ส่อแววถึงทางตันมีสิทธิต้องยุติการอยู่ในสภาพบริษัทจดทะเบียนหลังจากส่วนผู้ถือหุ้นในงบการเงินรวมติดลบ 118.36 ล้านบาท ด้านแหล่งข่าวจากป่องทรัพย์ หารือเครียดเร่งปรับแผนการดำเนินกิจการให้ส่วนผู้ถือหุ้นพลิกเป็นบวก ระบุอาจเข้าสู่กระบวนการแผนฟื้นฟูกิจการ ด้าน ตลท.เตรียมชี้ชะตา PSAAP วันนี้ว่าเข้าข่ายถูกเพิกถอนหรือไม่

ที่มา:IQ ข่าวหุ้น

ข่าวห้องค้า 10 มี.ค.52

ข่าวห้องค้า :
ชูศักดิ์ ขายหุ้นเอเซียเมทัล
บริษัทเอเซีย เมทัล แจ้งว่า ตามที่มีการซื้อขายหุ้นของบริษัทเมื่อวันที่ 5 มี.ค.2552 ในลักษณะบิ๊กล็อต ผ่านตลาดหลักทรัพย์นั้น การซื้อขายดังกล่าวเป็นการแบ่งขายหุ้นของนายชูศักดิ์ ยงวงศ์ไพบูลย์ 24.6 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 5.12% ของทุนจดทะเบียน และการขายนางสาวเพ็ญจันทร์ โยธินอุปไมย 21 ล้านหุ้นคิดเป็น 4.38% ของทุนจดทะเบียนให้กับ นายวีระชัย สุธีรชัย ในราคาหุ้นละ 1 บาท

จากการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ครั้งนี้ ไม่มีผลต่อการดำเนินงานด้านการบริหาร เพราะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอำนาจการบริหาร และเปลี่ยนแปลงกรรมการของบริษัท

แอ๊ดคินซันแจงการลดทุน
นายสดาวุธ เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บล.แอ๊ดคินซัน ชี้แจงการลดทุนจดทะเบียนและชำระแล้วของบริษัท โดยการลดจำนวนหุ้นลง เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสม 157,751,143 บาท และเพื่อคืนเงินทุนบางส่วน 1,738,144,577 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นนั้น ผู้ถือหุ้นแต่ละรายจะได้รับเงินทุนดังกล่าวคืนในอัตราหุ้นละ 0.4142 บาท ของจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ก่อนการลดทุน
หลังจากการลดทุนแล้ว ผู้ถือหุ้นแต่ละรายจะถูกลดจำนวนหุ้นลงในสัดส่วนเท่ากับ 45.18% และจะมีหุ้นคงเหลือในสัดส่วน 54.82% ของจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ก่อนการลดทุน

ศิครินทร์ ปันผลเพิ่ม 0.10 บาท
บริษัทศิครินทร์ แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 3/2552 เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2552 มีมติให้บริษัทจ่ายเงินปันผลประจำปี 2551 ในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท เป็นเงิน 60,000,000 บาท และ ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2552 เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2552 ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท เป็นเงิน 50,000,000 บาท จึงคงเหลือเงินที่สามารถจัดสรรจ่ายเป็นเงินปันผลประจำปีได้อีกในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท โดยจะจ่ายสำหรับผู้ถือหุ้นที่ปรากฏชื่อในทะเบียนหุ้นของบริษัท ณ วันที่ 13 พ.ค.2552 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 พ.ค.2552

ฟูรูกาวาปันผลอีกหุ้นละ 0.50 บาท
บริษัท ฟูรูกาวา เม็ททัล (ไทยแลนด์) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2552 เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2552 มีมติให้จ่ายเงินปันผลงวดสุดท้าย สำหรับปี 2551 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท โดยกำหนดจ่ายในวันที่ 15 พ.ค.2552 ทั้งนี้เมื่อรวมกับการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งได้จ่ายไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2551 รวมเป็นเงินปันผลที่จ่ายจากกำไรสะสมของบริษัทสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค.2551 ให้แก่ผู้ถือหุ้นอัตราหุ้นละ 1.00 บาท
กำหนดวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) ในการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2552 รวมทั้งสิทธิ ในการรับเงินปันผลวันที่ 23 มี.ค.2552 ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นวันที่ 24 มี.ค.2552 และกำหนดจ่ายเงินปันผลดังกล่าว ในวันที่ 15 พ.ค.2552

ต่างชาติขายหุ้นไทคอน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ก.ล.ต.ได้รับแบบรายงานการจำหน่ายหุ้นบริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น โดย Capital Research and Management Company เมื่อวันที่ 3 มี.ค.2552 จำนวน 0.3039% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ทำให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่ายคิดเป็น 4.9966% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

ไทยฟู้ดขายหุ้น ส.ขอนแก่น
สำนักงาน ก.ล.ต. แจ้งว่า ได้รับแบบรายงานการจำหน่ายหุ้นบริษัท อุตสาหกรรมอาหาร ส.ขอนแก่น โดยบริษัท ไทยฟู้ดอินดัสทรี จำกัด เมื่อวันที่ 3 มี.ค.2552 จำนวน 0.06% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ทำให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่ายคิดเป็น 5% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด




เศรษฐกิจโลกจะย่ำแย่หนักขึ้น

รัฐมนตรีคลังฮ่องกงยืนยัน เศรษฐกิจโลกจะย่ำแย่หนักขึ้น

ฮ่องกง -นายจอห์น เจิง รัฐมนตรีคลังฮ่องกงยืนยัน เศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำอยู่แล้ว จะยิ่งตกต่ำรุนแรงขึ้นแล้วจึงค่อยฟื้นตัวในภายหลัง แต่จนถึงบัดนี้ ยังไม่อาจรู้ได้ว่า เศรษฐกิจโลกจะดำดิ่งลงไปถึงจุดไหน รู้แต่เพียงว่า จุดตกต่ำสุดของเศรษฐกิจโลกกำลังคืบคลานเข้ามาแล้ว

นายเจิงยังระบุว่า เขาจะจับตาสถานการณ์จนกระทั่งถึงกลางปีนี้ แล้วค่อยตัดสินใจว่า จะให้ฮ่องกงรับมือวิกฤติเศรษฐกิจครั้งนี้อย่างไร เขายังย้ำถึงความจำเป็นต้องใช้ความรอบคอบให้มาก ก่อนที่จะตัดสินใจทุ่มงบกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะรู้ดีว่างบประมาณที่ภาครัฐใช้อยู่ เป็นเงินของประชาชนที่หามาด้วยความยากลำบาก จึงไม่ควรตัดสินใจเบิกจ่ายงบอย่างรีบเร่งจนเกินไป

เศรษฐกิจฮ่องกงเข้าสู่ภาวะถดถอยตั้งแต่ช่วงไตรมาสสามของเมื่อปีที่แล้ว จนนักวิเคราะห์จำนวนมาก ต้องออกมาเรียกร้องให้นายเจิงในฐานะรัฐมนตรีคลัง จัดงบก้อนโตเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังซบเซา แต่เขากลับไม่เห็นด้วยที่จะให้ภาครัฐทุ่มงบมากขนาดนั้น เพราะเกรงจะทำให้เกิดปัญหาขาดดุลงบประมาณในระยะยาว


ที่มา :สำนักข่าวไทย

นิกเกอิดิ่งลงต่ำสุดในรอบ 26 ปี

ดัชนีนิกเกอิดิ่งลงต่ำสุดในรอบ 26 ปี

เอเชีย 9 มี.ค.52 - ตลาดหุ้นเอเชียปิดตลาดวันแรกของสัปดาห์ร่วงลงอย่างหนัก จากความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก

จากความกังวลว่า ภาวะเศรษฐกิจซบเซาในสหรัฐและประเทศอื่น ๆ จะยังไม่ฟื้นตัวโดยง่าย ประกอบกับนักลงทุนยังไม่เชื่อมั่นว่า ธนาคารต่าง ๆ จะเพิ่มทุนเพื่อชดเชยกับการขาดทุนได้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชีย วันนี้ พากันปิดตลาดในแดนลบ โดยเฉพาะดัชนีนิกเกอิของญี่ปุ่น ปิดตลาดร่วงลง 87.07 จุด ไปอยู่ที่ 7,086.03 จุด ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2525 หรือในรอบ 26 ปี

ส่วนดัชนีตลาดหุ้นอื่น ๆ ในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นดัชนีตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ของจีน ตลาดหุ้นอินเดีย และไต้หวัน ต่างปิดตลาดติดลบราวร้อยละ 1 หรือมากกว่า อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นเกาหลีใต้และตลาดหุ้นออสเตรเลีย กลับสวนทางปิดตลาดเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 และร้อยละ 0.3

ที่มา : สำนักข่าวไทย

หุ้นสหรัฐแตะต่ำสุดใน12 ปี

ตลาดหุ้นสหรัฐแตะต่ำสุดในรอบ 12 ปี น้ำมันดิบดีดเพิ่ม 1.55 ดอลลาร์

สหรัฐ 10 มี.ค. - ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปี
หลังนักลงทุนยังไม่มั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นใกล้แตะจุดสูงสุดในรอบปีนี้

ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดการซื้อขายแม้จะมีแรงซื้อเข้ามาบ้างในหุ้นกลุ่มธนาคารและสถาบันจากข่าวที่แบงก์ ออฟ อเมริกา เตรียมจะประกาศเพิ่มทุน
รวมถึงข่าวที่เมิร์ก และแชริ่ง สองบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่บรรลุข้อตกลงควบกิจการด้วยมูลค่า 41,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐแต่นักลงทุนยังผิดหวังกับข่าวของแมคคลัตชีย์ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ชื่อดัง ที่เตรียมปรับลดพนักงาน 1,600 ตำแหน่ง

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.56 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.07 พันล้านหุ้น

ควินซี ครอสบี นักวิเคราะห์จาก The Hartford กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวนนับตั้งแต่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราว่างงานในสหรัฐพุ่งขึ้นแตะ 8.1% ในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 25 ปี ขณะที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรร่วงลง 651,000 ตำแหน่ง โดยอัตราว่างงานเดือนก.พ.ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่เคยพุ่งสูงถึง 8.3% ในเดือนธ.ค.2526

หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ดิ่งลงอย่างหนักและเป็นปัจจัยลบที่ฉุดดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงมากที่สุด หลังจาก เมิร์ค แอนด์ โค อิงค์ (Merck & Co., Inc.)และ เชอริ่งพลาว คอร์ป (Schering-Plough Corporation) สองบริษัทยายักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ประกาศเมื่อวานนี้ว่า บอร์ดบริหารของบริษัทมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ทั้งสองบริษัทควบรวมกิจการกันภายใต้ชื่อบริษัท เมิร์ค

โดยข้อตกลงซื้อขายกิจการเป็นเงินสดและหุ้นรวมมูลค่า 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ระบุว่าผู้ถือหุ้นของเชอริ่งพลาวจะได้รับหุ้นจำนวน 0.5767 หุ้นและเงินสดมูลค่า 10.50 ดอลลาร์ต่อหุ้นเชอริ่งพลาวหนึ่งหุ้น ส่วนหุ้นของเมิร์คจะกลายเป็นหุ้นของบริษัทที่ควบรวมกันใหม่โดยอัตโมติ และริชาร์ด ที. คลาร์ก ประธานและซีอีโอของเมิร์ค จะเป็นผู้นำบริษัทเมิร์คต่อไปภายหลังเสร็จสิ้นการควบรวมกัน

ทั้งนี้ หุ้นเมิร์คร่วง 7.7% หุ้นจอห์นสันปิดลบ 2.9% และหุ้นไฟเซอร์รูดลง 0.8% อย่างไรก็ตาม หุ้นเชอริ่ง-พลาว ปิดพุ่ง 14.2% หุ้นเจเนนเทค ดีดขึ้น 2% หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า
เจเนนเทคใกล้บรรลุข้อตกลงขายหุ้นให้กับบริษัท โรช ของสวิสเซอร์แลนด มูลค่า 95 ดอลลาร์/หุ้น

ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้นหลังจากมีข่าวว่าแบงค์ ออฟ อเมริกา คอร์ปจะระดมทุนในภาคเอกชน โดยหุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกาดีดขึ้น 19.4% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก พุ่งขึ้น 15.8%

ตลาดได้รับแรงกดดันจากการที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ เจ้าของบริษัทเบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ อิงค์แสดงความคิดเห็นผ่านทางสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า "เศรษฐกิจสหรัฐทรุดหนักเกินจะเยียวยาในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายหลังจากตัวเลขว่างงานพุ่งขึ้นรุนแรง"

ก่อนหน้านี้บัฟเฟตต์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐ จะตกอยู่ในภาวะ "ระส่ำระสาย" ตลอดทั้งปีนี้เนื่องจากสถาบันการเงินขาดทุนอย่างหนัก ซึ่งเป็นผลมาจากการปล่อยเงินกู้แบบขาดวินัยในช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์เฟื่องฟู

การแสดงความคิดเห็นของบัฟเฟตต์มีขึ้นหลังจากกระทรวพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2551 หดตัวลง 6.2%ต่อปี ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวรุนแรงสุดในรอบ 27 ปี
และมากกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้นว่าจะหดตัวเพียง 3.8% เนื่องจากการทรุดตัวลงของยอดส่งออก, ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค และการลงทุนในภาคเอกชน

หุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ทะยานขึ้น 5% หลังจากโฆษกของจีอีแถลงว่าบริษัท จีอี แคปิตอล ซึ่งเป็นบริษัทด้านการเงินในเครือจีอี เตรียมขายตราสารหนี้ภายใต้โครงการเสริมสภาพคล่องของรัฐบาลสหรัฐ

ด้านราคาน้ำมันดิบ
ตลาดไนเม็กซ์ บวกเพิ่ม 1.55 ดอลลาร์สหรัฐ ไปปิดที่ระดับ 47.07 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
เกือบจะสูงที่สุดในรอบปีนี้ ที่เคยขยับเข้าใกล้ 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อช่วงต้นปี

ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ลดลง 79.89 จุด ไปปิดที่ระดับ 6,547.05 จุด
ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2540
แนสแดคปิดที่ระดับ 1,268.64 จุด ลดลง 25.21 จุด
และเอสแอนด์พีปิดที่ระดับ 676.53 จุด ลดลง 6.85 จุด

ที่มา : สำนักข่าวไทย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์

เจาะข่าวเล่าหุ้น

คอลัมน์ : เจาะข่าวเล่าหุ้น
หนังสือพิมพ์ทันหุ้น 10/03/2009 08:56:57

ที่มา : รณกฤต สารินวงศ์

ความวิตกกังวลระลอกใหม่มาอีกแล๊ะ ก็จะมีอะไรซะอีกนอกจากเรื่องเดิมๆ สถาบันการเงินนั่นเอง เมื่อวาน HSBC ก็ถล่มหุ้นฮ่องกงไปซะเดี้ยงด้วยเรื่องการเพิ่มทุนจนนักลงทุนกังวลว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลงได้อีก ขณะที่ NIX ก็รูดเรียบร้อยโรงเรียนญี่ปุ่นไปแล้วโดยต่ำสุดในรอบ 26 ปี ส่วนยุโรปก็ถลาลงไม่แพ้กันด้วยเรื่องของพวกหุ้นสถาบันการเงินที่มีปัญหานั่นเอง ของพี่ไทย SET ก็อ่อนตัวแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนจนได้ เล่นเอาเสียววูบไปตามๆ กัน สถานการณ์แย่ลงเรื่อยๆ นักลงทุนอย่าลืมที่แนะนำล่ะ ต้องป้องกันความเสี่ยงด้วย TFEX เท่านั้น ใครไม่รู้ให้ไปศึกษาโดยด่วน ก่อนที่มูลค่าเงินลงทุนจะหายไปมากกว่านี้

YNP วันนี้เริ่มที่พี่ยานเป็นตัวแรก หลังจากเฝ้าดูพฤติกรรมมา 2 วัน ก็ชักจะเข้าตากรรมการ เพราะถ้าเราดูแนวโน้มของราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาเรื่อยๆ จาก 50 ตังค์ พอแถว 30 ตังค์ก็เริ่มเห็นแรงทยอยสะสมเข้ามา สำหรับคนที่ดูกราฟเทคนิคอย่างเดียวต้องวาดภาพให้ออกว่ากำลังสร้าง W-shape ดูตามรูปที่ให้แล้วกันนะ เด็กแนวทำเป็นกราฟราย week มาให้จะเห็นว่าเกิด Double bottom ที่ 26 ตังค์ และตอนนี้ฟอร์มตัวขึ้นอย่างช้าๆ คนที่ชอบอ่านกราฟต้องบอกว่าใช่เลยจังหวะนี้คือสะสมได้ราคาต่ำไม้ต้น ยิ่งถ้าดูประกอบกับงบการเงินแล้วก็ต้องบอกว่าเป็นของถูก แม้ผลประกอบการจะขาดทุนตามภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่เด็กแนวดูในส่วนผู้ถือหุ้นแล้วก็ยังเห็นความแข็งแรงโดยมี Book ที่ 2 บาทเลยนั่น ส่วนกระแสเดิมเกี่ยวกับที่จะมีพาร์ทเนอร์ช่วงนี้เงียบไป แต่ถ้าลงต่ำมากๆ ก็ไม่แน่นะ ปัดฝุ่นมาเล่นพอได้อยู่ ช่วงนี้เก็งกำไรตามเทคนิคไปก่อนดูแนวต้านพอประมาณแถว 0.45 บาท

NNCL ในตลาดหุ้นเนียะ ว่ากันว่าต่อให้หุ้นดีแค่ไหนถ้าไม่มีเจ้าก็เล่นไม่สนุก ส่วน nncl ไม่รู้ว่ะจะเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า เพราะหุ้นนิคมด้วยกันหากเทียบการไหลลงของราคาแล้วก็คล้ายกันแต่ nncl ช่วง week ที่ผ่านมามีสัญญาณแปลกๆ คล้ายกับมีแรงรับแรงประคองไม่ให้ต่ำกว่านี้ หรือว่าทนดูไม่ได้ที่ราคาหุ้นต่ำกว่า book ที่ 1.8 บาทมากเกินไป เด็กแนวเห็นแนวโน้มกราฟของหุ้นตัวนี้แล้วประเมินว่ามีโอกาสฟื้นตัวแบบแปลกๆ และแตกต่างจากนิคมตัวอื่น แบบว่าแอบยกขึ้นมาไม่ต้องเสียงดัง ทำให้โวลุ่มจึงไม่ปูดผิดสังเกต แบบนี้แหละเค๊าเรียกว่าแอบดูดของต่ำพอใครเผลอก็กระชากไม่ทันตั้งตัว น่าสนใจอ่ะนะ ทยอยเก็บก่อนที่จะเกิดสัญญาณซื้อชัดเจนกว่านี้เมื่อเกิน 70 ตังค์ แต่ถ้าหลุด 60 ตังค์ โปรดตัดอวัยวะ

หุ้นแอบชอบ SAM ตอนนี้หุ้นเหล็กกลับมาตลุมบอลคลุกวงในเรื่อง การถูก take over กันอีกแล้ว แม้จะเป็นประเด็นเดิมแต่ก็เล่นกันได้ทุกรอบ เมื่อรายย่อยเหงามือก็เลยจับอะไรต่อมิอะไรมาเล่นกันแก้เซ็งค์ เมื่อวานราคาเริ่มเด้งสำหรับพี่แซมจนกราฟสวยจัด วันนี้แอบเก็งสั้นกันดีกว่า แนวต้าน 0.75 บาท

.....เชิญร่วมโหวต นักวิเคราะห์เจ๋งประจำปี 2552 ของสมาคมนักวิเคราะห์ ท่านสามารถเข้าไปใน web ต่างๆ ดังนี้ มีสิทธ์ได้รับรางวัลจากการร่วมโหวตด้วย โปรดเข้าไปดูได้ใน web ดังนี้ครับ
http://www.saa-thai.org/download/saa01_1.pdf เป็นรายละเอียดของการโหวต
http://www.saa-thai.org/download/saa_01_2.pdf เป็นรายชื่อนักวิเคราะห์ต่างๆ
http://www.saa-thai.org/download/retail_Investor.doc เป็นใบโหวตคะแนนเสียง รักใครชอบใครใส่กันไปไม่ต้องเม้ม แต่ใครไม่เลือก เด็กแนวให้ได้ตำแหน่งนักวิเคราะห์กลยุทธ์ยอดเยี่ยมอีกปี ....มีงอนนนนด้วย

.....ท่านสามารถส่งคำถาม มายังเด็กแนวทาง email :ronnakritsa@asl.co.th

หุ้นไทยอาจได้เห็น 380 จุด

บล. เอเซียพลัสประเมินหุ้นไทยอาจเห็น 380 จุดได้ หากสถานการณ์เลวร้ายลงอีก

ภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บล. เอเซียพลัส กล่าวว่า สภาวะการลงทุนในขณะนี้ยังขาดปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุน และมีเพียงปัจจัยลบเท่านั้น อาทิ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4/51 ที่ขาดทุนรวมถึง 9 หมื่นล้านบาท กดดันกำไรโดยรวมทั้งปีให้หดตัวลง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยทางการเมืองที่เริ่มมีประเด็นการต่อต้านรัฐบาลกลับมาอีกครั้ง ในขณะที่ภาคการส่งออกที่ย่ำแย่ตามภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก ก็ส่งผลให้ดัชนีแกว่งตัวได้ในกรอบแคบ ๆ (Sideway) แต่ก็ยังเชื่อว่าสัปดาห์นี้น่าจะยังสามารถยืนเหนือระดับ 400 จุดได้ แต่ในแง่ที่เลวร้ายที่สุด ก็อาจทำให้ดัชนีร่วงลงไปแตะที่ระดับต่ำสุดเดิม คือ 380 จุดได้ในปีนี้เช่นกัน

ภรณีแนะนำว่า นักลงทุนควรทยอยเข้าลงทุนหุ้นที่คาดว่าน่าจะอยู่รอดในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันได้ หรืออาจเข้าลงทุนกองทุนรวมที่สามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในช่วงที่ดัชนีลดลงมาใกล้ระดับ 400 จุดก็ได้

สำหรับหุ้น Top Pick ของบล. เอเซียพลัส ในขณะนี้ คือ บมจ. บีอีซี เวิลด์ (BEC), บมจ. ไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF) , บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) และ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่าเป็นบริษัทที่ไม่มีปัญหาสภาพคล่อง มีกระแสเงินสดดี ซึ่งจะทำให้อยู่รอดในระยะยาวได้


ดัชนีหุ้นไทยในวันนี้ปิดร่วงลง 8.24 จุด หรือ 1.96% มาอยู่ที่ 411.27 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ 5,521.27 ล้านบาท

- นักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 297.81 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 455.62 ล้านบาท
- นักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ 753.43 ล้านบาท

- Money Channel โดยวาสิฏฐี อนุกูล Email: wasittee@set.or.th


นิวโลว์!!

นิวโลว์!!
[10 มี.ค. 52 - 06:04]

ดัชนีหุ้นวันที่ 9 มี.ค.52 ปิดที่ 411.27 จุด ลดลง 8.24 จุด หรือ 1.96% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดหรือนิวโลว์รอบ 3 เดือน หลังระหว่างวันผันผวนในแดนลบ 409.91-419.84 จุด

มีมูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง 5,521.27 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 455.62 ล้านบาท มีแรงขายหนักในหุ้นแบงก์และพลังงาน

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน มองว่า ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงแรงตามตลาดหุ้นภูมิภาค เพราะยังคงกดดันจากความกังวลปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะกลุ่มสถาบันการเงินและธนาคาร หลังลอยด์แบงก์ของอังกฤษประสบปัญหา ส่งผลให้หุ้นกลุ่มแบงก์ในยุโรปปรับตัวลดลงอย่างหนัก และคาดว่าจะส่งผลต่อเนื่องให้ตลาดปรับลงต่อไปได้อีก

มองแนวโน้มตลาดระยะสั้นว่า ยังมีความกังวลกับปัญหาเศรษฐกิจโลกโดยรวม หากเศรษฐกิจโลกยังถดถอย ตลาดหุ้นจะซึมลงต่อเนื่อง แต่ดัชนีคงไม่หลุดระดับ 400 จุดในสัปดาห์นี้ เพราะยังไม่มีปัจจัยลบใหม่ๆ ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อตลาด แต่ประเมินว่าทั้งปีมีโอกาสหลุดลงไปแตะระดับ 380 จุดได้แน่ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ เนื่องจากจะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญออกมา

แนะกลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ นักลงทุนอาจเข้าเล่นระยะสั้นได้ แต่ต้องระมัดระวัง โดยด้านเทคนิคหากมีข่าวลบเข้ามา โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสลงไปแตะระดับ 400 จุดได้

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กิมเอ็งชี้ว่า มีแรงเทขายหุ้นแบงก์ออกมารุนแรงทั้งภูมิภาค หลังหุ้น HSBC ที่ซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงลงหนักสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1996 โดยนักลงทุนรายใหญ่พากันเทขายหุ้น จากการคาดการณ์ว่าราคาหุ้นจะร่วงลงอีก หลังการออกหุ้นเพิ่มทุนที่บริษัทประกาศแผนระดมทุน 1.77 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อหนุนงบดุลบัญชี

ขณะที่มองกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีระยะสั้นหลังจากนี้ว่า จะแกว่งในกรอบ 405-415 จุด และยังต้องจับตาการซื้อขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่อาจได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มฟื้นขึ้นตามแรงเก็งกำไร ที่คาดว่ากลุ่มประเทศโอเปกจะลดกำลังการผลิตอีกครั้งในการประชุมวันที่ 15 มี.ค.นี้ และเศรษฐกิจจีนมีสัญญาณฟื้นตัว.

อินเด็กซ์ 51


Template by - Abdul Munir | Blogging4