13 พฤษภาคม 2552

แนวโน้มดัชนีเช้าปรับฐาน เก็งกำไร

ภาวะตลาดหุ้นไทย:
แนวโน้มดัชนีเช้าปรับฐาน เก็งกำไร หลังราคาหุ้นขึ้นไปมาก หุ้นน้ำมันยังไปต่อ


นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเชียพลัส(ASP) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะปรับฐาน เพราะเมื่อวานหุ้นใหญ่ก็ปรับขึ้นไปหมดแล้วยกเว้น PTTEP ที่อาจจะขึ้นน้อยกว่าเพื่อน แต่ราคาน้ำมันยังปรับตัวขึ้นต่อและดอลลาร์อ่อนค่า PTTEP น่าจะไปต่อ แต่ภาพโดยรวมหุ้นขึ้นมาแต่ละตัวใกล้ fair value กันหมดแล้ว แต่ถ้าดูจากสัญญาณหรือการขายต่างชาติก็เริ่มเห็น net sell มาแล้ว และในแง่ของการทำสัญญาฟิวเจอรฺ์ส ต่างชาติก็มีการทำ short ฟิวเจอร์สแล้วตอนนี้คงจะเห็นสัญญาณการปรับฐาน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตอนนี้คนก็มั่นใจนักลงทุนรายย่อยก็ซื้อหุ้นค่อนข้างเยอะที่ซื้อผ่าน บลจ.เป็นไปได้ว่าตลาดปรับฐานก็ยังมีแรงซื้อเข้ามาแต่ก็อาจจะเป็นการเล่นเก็งกำไรสำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการถือหุ้นยาว แค่เล่นเก็งกำไรเท่านั้น

ตลาดต่างประเทศก็ถือว่ามาไกลพอสมควรแล้ว ตลาดบ้านเราช่วงนี้น่าจะปรับฐานช่วงสั้นแล้วค่อยมาเริ่มซื้อกันใหม่ ตอนนี้ข่าวดีตลาดรับรู้ไปหมดแล้ว แต่ถ้ามีข่าวร้ายเข้ามาตลาดก็อาจจะปรับลง กรอบการเคลื่อนไหววันนี้ 540-550 จุด


ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(12 พ.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 8,469.11 จุด เพิ่มขึ้น 50.34 จุด(+0.60%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 908.35 จุด ลดลง 0.89 จุด(-0.10%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 1,715.92 จุด ลดลง 15.32 จุด (-0.88%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 580.72 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 58.85 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.35 ดอลลาร์

- ไทยลุ้นสัญญาณบวกเศรษฐกิจ หลังจากโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เผยยอดขายรถยนต์ต่อเดือน จีนขยับเป็นอันดับหนึ่งเชื่อว่าตลาดรถยนต์จีนฟื้นตัว เพิ่มโอกาสส่งออกยางไทยมากขึ้น บีโอไอรุดดึงนักลงทุนจีนผลิตยางในไทย กลุ่มยานยนต์ไทยคาดไตรมาสที่ 3 ฟื้นตัวหลังจากไตรมาสแรกทรุดหนักกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์กระเตื้อง 'โตชิบา-ซัมซุง' เผยออเดอร์เพิ่ม ขณะที่ตลาดตะวันออกกลางเริ่มคึกคักหันใช้สินค้าไทยแทนจีน

- องค์การอนามัยโลกขึ้นทะเบียนไทยเป็นประเทศที่ 31 ของการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เมื่อ สธ.แถลงยืนยันพบผู้ป่วยโรคไข้หวัด 2 รายแรก หลังผลแล็บ ซีดีซีสหรัฐยืนยันชัด ชี้เดินทางกลับจากเม็กซิโกทั้งคู่ขณะที่ผลการเฝ้าระวังผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย 10 ราย อภิสิทธิ์ย้ำไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม ขอให้ประชาชนมั่นใจมาตรการควบคุมโรค พร้อมแจงเหตุปิดข้อมูลส่วนตัวผู้ป่วย เพราะถูกญาติผู้ป่วยร้องขอ ยึดคำประกาศสิทธิผู้ป่วย 10 ประการ

- 'เอซี นีลเส็น'เผยผลสำรวจ 50 ประเทศระบุ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคทั่วโลกยังทรุดหนัก ทุบสถิติต่ำสุดในรอบ 4 ปี เผยปัจจุบันที่สร้างความวิตกสูงสุด คือ ความไม่มั่นใจเรื่องหน้าที่การงาน โดยเฉพาะ 'คนไทย' ยังไม่มั่นใจภาวะเศรษฐกิจ คาดสถานการณ์ทรุดต่อเนื่อง ขณะที่สหรัฐอเมริกาคะแนนทรงตัว คาดเป็นการส่งสัญญาณบวก เชื่อเศรษฐกิจถึงจุดต่ำสุดแล้ว

- 'ราเกช สักเสนา' ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์บีบีซีกว่า 3 พันล้านบาท นั่งรถเข็นรับฟังการพิจารณาคำร้องคัดค้านคำสั่งทางการแคนาดาไม่ให้ส่งตัวเขากลับไทยมาดำเนินคดีที่ใกล้หมดอายุความวันที่ 20 ก.ค.2553
- 'อภิศักดิ์' มั่นใจระบบแบงก์พาณิชย์รองรับวิกฤติเครดิตรอบใหม่ได้ พร้อมแนะสมาชิกหารายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่ม หลังประเมินสถานการณ์ปีนี้แนวโน้มกำไรทั้งกลุ่มลดลง เอ็นพีแอลพุ่ง ทั้งในภาคของหนี้เสียรายใหม่ และหนี้เน่าย้อนกลับ ด้านยูโอบีประเมินสินเชื่อปีนี้ทรงตัว

- สมาคมนักวิเคราะห์เผยผลสำรวจปรับเป้าดัชนีสิ้นปี 535 จุด ครั้งแรกในรอบ 2 ปี หลังเห็นสัญญาณเศรษฐกิจฟื้น แต่ประเมินจีดีพีติดลบเพิ่มขึ้นเป็น 3.6% จากเดิมมองติดลบ 1.8% เหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองเดือนเม.ย.ป่วนการท่องเที่ยว-ฉุดความเชื่อมั่นผู้บริโภค ประเมินต่างชาติเริ่มกลับซื้อ 2 เดือนยอดซื้อสุทธิ 1.2 หมื่นล้านบาท


อินโฟเควสท์
โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา

ปิดตัวหุ้นจิ๋ว แต่เจ๋ง มีดีที่สตอรี่

ปิดตัวหุ้นจิ๋ว แต่เจ๋ง มีดีที่สตอรี่

โผหุ้นจิ๋ววิ่งแรงเกินห้ามใจ GJS- JAS-SSI-TT&T-TIES-TSTH-THL-MLINK ถูกตีตราเป็นหุ้นเล็กพิมพ์นิยม ที่มีข่าวดีให้เล่นไม่รู้เบื่อ บล.เอเซียพลัส ระบุหุ้นใหญ่ช่วงนี้ติดแนวต้าน หันเล่นหุ้นเล็กจะดีกว่า เหตุราคาต่ำ เหมาะเก็งไร ด้านบล.แอ๊ดคินซัน มองกราฟทางเทคนิคกลุ่มเหล็ก-วัสดุก่อสร้างมีสัญญาณดี เจ๋งสุดต้องยกให้ TIES มีแนวต้าน 2.10 บ.ส่วนกลุ่มหลักทรัพย์ยังเป็นขวัญใจ หลังวอลุ่มตลาดคึกคัก

ท่ามกลางภาวะตลาดหุ้นที่วานนี้(12 พ.ค.52) มีทั้งแรงซื้อแรงขายเรียกได้ว่า ค่อนข้างผันผวน โดยเคลื่อนไหวสลับกันทั้งแดนบวกและแดนลบ หลังจากตลาดหุ้นในภูมิภาค
และดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดปรับตัวลดลง แต่ในช่วงบ่ายพบว่าดัชนีฯ เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งต้องยอมรับว่าเงินทุนที่ไหลเข้ามาในภูมิภาค ก็สนใจการเข้าเทรดหุ้นขนาดใหญ่ ขณะเดียวกับ พบว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น สะท้อนว่าเงินทุนไหลเข้า จึงเป็นแรงหนุนให้ดัชนีฯ ปิด
ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้
แม้หุ้นขนาดใหญ่จะเป็นที่ถูกอกถูกใจนักลงทุนต่างชาติ แต่ก็อย่าหมดหวัง เพราะยังมีหุ้นขนาดเล็กที่ยังมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะหุ้นที่มีข่าวดีคอยกระทุ้งอยู่เนืองๆ สังเกตได้จากช่วงนี้หุ้นขนาดเล็กจะถูกข่าวดีจุดพลุ ดันราคาหุ้นวิ่งกันขาขวิดไปตามๆ กัน รับตลาดหุ้นบวกๆ ลบๆ แถมราคาหุ้นใหญ่ก็ทะลุแนวต้านแพงเกินจะรับไหว สุดท้ายคอหุ้นที่หวังจะพึ่งใบบุญหุ้นใหญ่คงหวังยากเต็มที....
วานนี้(12 พ.ค.52)ดัชนีฯ ปิดที่ 544.54 จุด เพิ่มขึ้น 9.36 จุด หรือ 1.75% มีมูลค่าการซื้อขาย 24,235.70 ล้านบาท โดยมีปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 511.84ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 575.70 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไป ซื้อสุทธิ 1,087.54 ล้านบาท


***บล.เอเซียพลัส แนะ CK-BWG-EMC- NVL น่าเก็งกำไรช่วงนี้

นายเตชธร ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซียพลัส เปิดเผยว่า หุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดเล็กและเหมาะสำหรับการเล่นเก็งกำไรในระยะนี้ประกอบด้วยหุ้นของ บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ,บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG ,บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) หรือ EMC และบริษัท นวลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NVL เนื่องจากราคาหุ้นดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับต่ำและมีความโดดเด่นกว่าหุ้นตัวอื่นๆ โดย CK ให้แนวรับทางเทคนิคไว้ที่ 3.90 บาท และให้แนวต้านไว้ที่ 4 บาท ,BWG ให้แนวรับไว้ที่ 1.80 บาท และให้แนวต้านไว้ที่ 2 บาท , EMC ให้แนวรับไว้ที่ 0.15 บาท และให้แนวต้านไว้ที่ 0.18 บาท ส่วน NVL ให้แนวรับไว้ที่ 0.31 บาท และให้แนวต้านไว้ที่ 0.38 บาท
" ช่วงนี้หุ้นใหญ่ปรับขึ้นไปติดแนวต้าน นักลงทุนจึงเปลี่ยนมาเล่นหุ้นตัวเล็กแทน ส่วนตัวที่เด่นๆ และราคายังต่ำอยู่ก็จะมี BWG ,EMC,NVL และ CK แต่สตอรี่อื่นที่จะมาสนับสนุนหุ้นเหล่านี้ยังไม่มีนอกจากราคาหุ้นยังต่ำ ก็เล่นเก็งกำไรไป " นายเตชธร กล่าว


***บล.แอ๊ดคินซัน เชียร์ TIES

นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊ดคินซัน กล่าวว่า ในช่วงที่บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยค่อนข้างที่จะนักลงทุนจะเข้าลงทุนแบบกระจัดกระจาย โดยหากจะพิจารณาในแง่ของสัญญาณทางเทคนิคนั้น จะพบว่าหุ้นในกลุ่มเหล็กและกลุ่มวัสดุก่อสร้างมีสัญญาณที่ดี ซึ่งหุ้นขนาดเล็กที่น่าสนใจสุด คือ บริษัท ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TIES โดยประเมินแนวต้านไว้ที่ 2.10 บาทและแนวรับ 1.80 บาท
นอกจากนี้ ประเด็นที่จีนออกมาตรการกระตุ้นการบริโภค เป็นปัจจัยสนับสนุนต่อผู้ประกอบการในกลุ่มเหล็ก และถ้าหากพิจารณาถึงสัญญาณทางเทคนิคพบว่า PERM และ SIAM มีสัญญาณการเคลื่อนไหวที่ดี ขณะเดียวกันหุ้น GBX และ BSEC ที่เป็นหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ ก็น่าสนใจ หลังปริมาณการซื้อขายในแต่ละวันปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นเป็นรอบๆ โดยให้มีจุดในการเข้าถือประมาณ 3 วันทำการ และให้มีจุดตัดขาดทุนไว้ประกอบ


***TT&T รอผลสรุปผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการใหม่

เริ่มสตาร์ทกันที่บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) หรือ TT&T ที่ก่อนหน้านี้ ศาลฯ ได้มีคำสั่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกประชุมเจ้าหนี้ของบริษัทฯ เพื่อพิจารณาเลือกผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการใหม่อีกครั้ง ภายใน 40 วันหรือ18 พฤษภาคม 2552 นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นของ TT&T เมื่อประเมินตามสัญญาณทางเทคนิคมีโอกาสที่จะแกว่งตัวขาขึ้นได้ในช่วงการ
ซื้อขายวันนี้ จึงแนะนำ นักลงทุนที่สนใจ หาจังหวะเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไร ดังนั้นจึงประเมินแนวรับไว้ที่ 0.67 บาท และแนวต้าน 0.90 บาท
อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากโครงสร้างผู้ถือหุ้นสูงสุด 5 อันดับแรกของ TT&T ณ วันที่ 5 มีนาคม 2551 พบว่า บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 24.99 % ,CITIGROUP GLOBAL MARKETS LIMITED-IPB CUSTOMER COLLATERAL ACC ถือในสัดส่วน 10.28 %,บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือในสัดส่วน 8.60% ,บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ถือในสัดส่วน 7.92 % และบริษัท จัสมิน ซับมารีน เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ถือในสัดส่วน 4.36%
ในขณะเดียวกันจะเห็นได้ว่าเมื่อ TT&T ปรับตัวอยู่ในแดนบวก JAS ก็มักจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันเช่นกัน.....


***เหล็ก ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว

ขณะที่หุ้นกลุ่มเหล็กโดยเฉพาะบริษัท ทาทา สตีล(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) หรือ TSTH ,บริษัท สหวิริยา สตีลอินดัสตรี จำกัด(มหาชน) หรือ SSI และบริษัท จี เจ สตีล จำกัด(มหาชน) หรือ GJS ต่างก็วิ่งขานรับอานิสงค์เศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้น หลังจากที่คณะรัฐมนตรีจีนได้อนุมัติงบใช่จ่าย 20,000 ล้านหยวนเพื่อสนับสนุนภาคเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ภาคเหล็กต้นกล้า ซึ่งน่าจะส่งผลให้ความต้องการเหล็กเพิ่มขึ้น จากการที่โครงการสาธารณูปโภคต่างๆ เริ่มดำเนินการ จะส่งผลทำให้แนวโน้มราคาเหล็กปรับขึ้น ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาถือว่าเป็นจุดต่ำสุดของอุตสาหกรรมเหล็กแล้ว

***นาทีทองต้องยกให้ THL

มาถึงคิวของหุ้นนาทีทอง อย่างบริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ THL กันบ้าง ที่ถึงแม้ช่วงนี้ราคาทองจะทรงๆ แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับสูง ตามราคาทองในตลาดโลก ว่ากันว่า เป็นทางเลือกหนึ่งของการลงทุน

***TIES เตรียมแขวนป้าย XW ปลายเดือนนี้
ด้านบริษัท ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TIES จากก่อนหน้านี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อซื้อหุ้นสามัญของบริษัท จำนวน117,500,000 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้นในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วยโดยมีราคาใบสำคัญแสดงสิทธิหน่วยละ 0.00 บาท และราคาใช้สิทธิ 1.20 บาท อัตราการใช้สิทธิ 1:1 ใบสำคัญแสดงสิทธิมีอายุ 3 ปี โดยคณะกรรมการกำหนดวันที่กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant RecordDate) ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2552 และวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเป็นวันที่ 29 พฤษภาคม 2552 เพื่อระบุรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิต่อไป

***MLINK ถูกปลุกด้วยข่าวเทคโอเวอร์

บริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MLINK ก็มีกระแสข่าวลือว่า มีกลุ่มทุนใหม่จากประเทศเกาหลีเตรียมเข้าเทคโอเวอร์ โดยทยอยซื้อหุ้นในกระดานของบริษัท แต่ ณ ขณะนี้ยังไม่พบความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น

วานนี้(12 พ.ค.52) ราคาหุ้น GJS ปิดที่ 0.19 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท หรือ 18.75% มูลค่าการซื้อขาย 99.34 ล้านบาท ,JAS ปิดที่ 0.41 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท หรือ 5.13% มูลค่าการซื้อขาย 55.97 ล้านบาท,SSI ปิดที่ 0.57 บาท เพิ่มขึ้น 0.13 บาท หรือ 29.55% มูลค่าการซื้อขาย 120.44 ล้านบาท ,TT&T ปิดที่ 0.71 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท หรือ 10.94% มูลค่าการซื้อขาย 123.60 ล้านบาท ,TIES ปิดที่ 1.92 บาท เพิ่มขึ้น 0.36 บาท หรือ 23.08% มูลค่าการซื้อขาย 70.85 ล้านบาท และTSTH ปิดที่ 1.37 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท หรือ 11.38% มูลค่าการซื้อขาย 367.99 ล้านบาท

ที่มา : www.efinancethai.com

Template by - Abdul Munir | Blogging4