03 เมษายน 2552

ตลาดหุ้นเอเชียพุ่งแรงเช้านี้

ตลาดหุ้นเอเชียพุ่งแรงเช้านี้ ขานรับที่ประชุม G20 ทุ่มกว่า $1 ล้านล้านกู้วิกฤติศก.โลก

IQ ข่าวหุ้น 03/04/2009 09:18:58

ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียทะยานขึ้นถ้วนหน้าในช่วงเช้านี้ ขานรับมติของที่ประชุมผู้นำกลุ่ม G20 ที่อัดฉีดเม็ดเงิน 1.1 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์การเงินโลก และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนที่ขยายตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดพุ่งขึ้น 146.82 จุด หรือ 1.68% สู่ระดับ 8,866.60 จุด ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดตลาดบวก 25.55 จุด แตะที่ 14,547.52 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีดีดขึ้น 11.05 จุด หรือ 0.87% แตะที่ระดับ 1,288.02 จุดในช่วงเช้านี้ ส่วนดัชนี MSCI Asia Pacific Index ปรับตัวขึ้น 1.2% แตะที่ 87.33 จุดเมื่อเวลา 8.48 น.ตามเวลากรุงโตเกียวในวันนี้

โยชิโนริ นากาโนะ นักวิเคราะห์จาก Daiwa Asset Management กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียเป็นไปอย่างคึกคัก ขานรับข่าวที่ว่าที่ประชุม G20 มีมติอัดฉีดงบประมาณรวม 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์การเงินและยับยั้งเศรษฐกิจโลกจากภาวะถดถอย ซึ่งครอบคลุมถึงการอัดฉีดเงินทุนให้กับ IMF เพิ่มอีก 5 แสนล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมกับเงินทุนก้อนเดิมเป็น 7.5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือประเทศที่เผชิญกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงิน

นอกจากนี้ ที่ประชุม G20 ยังเตรียมทุ่มเงินถึง 2.5 แสนล้านล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นการค้าโลกในระยะ 2 ปี โดยเงินจำนวนดังกล่าวจะนำไปใช้เป็นสินเชื่อเพื่อการส่งออกและการลงทุน รวมถึงอัดฉีดให้กับธนาคารเพื่อการลงทุนระดับภูมิภาค

ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียยังได้รับแรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่พุ่งขึ้น 216.48 จุด หรือ 2.79% ปิดที่ 7,978.08 จุดเมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนก.พ. หลังร่วงลง 3.5% ในเดือนม.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่ายอดสั่งซื้อจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.5% ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยรุนแรง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน

ทองคำปิดร่วง $18.80

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก:
ทองคำปิดร่วง $18.80
หลังนลท.เทขายทอง-แห่เทรดตลาดหุ้น

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำและแห่เข้าลงทุนในตลาดหุ้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งและที่ประชุม G20 เตรียมใช้มาตรการกอบกู้วิกฤตการณ์การเงินโลก นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่ากลุ่ม G20 อาจเรียกร้องให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ขายทองในคลังสำรองเพื่อนำเงินไปช่วยเหลือประเทศที่ประสบปัญหาด้านการเงิน

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 908.90 ดอลลาร์ ลดลง 18.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง เคลื่อนตัวในช่วง 931.80-896.10 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 13.025 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 4.1 เซนต์ ปิดที่ 1.8900 ดอลลาร์/ปอนด์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,165.80 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 22.00 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 222.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์

สัญญาทองคำถูกกระหน่ำขายอย่างหนักหลังจากนายกอร์ดอน บราวน์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่า กลุ่ม G20 จะเรียกร้องให้ IMF ขายทองในคลังสำรองเพื่อนำเงินไปช่วยเหลือประเทศที่ประสบปัญหาด้านการเงิน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายสัญญาทองคำและแห่เข้าลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนก.พ. ซึ่งมากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.5% และหลังจากมีข่าวว่าที่ประชุมสุดยอด G20 เห็นพ้องที่จะอัดฉีดเงินทุนให้กับ IMF เพิ่มอีก 5 แสนล้านดอลลาร์ รวมกับเงินทุนเดิมเป็น 7.5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือประเทศที่เผชิญกับมรสุมทางเศรษฐกิจและการเงิน

เกาะกระดานหุ้น

เกาะกระดานหุ้น :


๐กรณี ธนกฤต เอื้อสงวนบุญ อดีตเอ็มดี สายวาณิชธนกิจ บล.บีฟิท ที่หย่าขาดจากบ้านเดิมแล้ว กำลังถูกจับตาว่าจะไปจดทะเบียนกับบ้านไหนต่อ เพราะงานไอพีโอที่น่าจะมีติดกระเป๋าไปก็ไม่ใช่น้อย ซึ่งหวยก็ออกที่ บล.ฟาร์อีสท์ แต่ สุดธิดา จิระพัฒน์สกุล เอ็มดี บล.ฟาร์อีส ก็รีบออกมาปัดข่าวว่าไม่เป็นความจริง เพราะมีทีม IB อยู่แล้ว และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีการติดต่อกับ ธนกฤต ส่วนหวยงวดต่อไป เลขเต็งคือ บล.ฟิลลิป และ บล.บัวหลวง ..ก็ได้แต่ลุ้นกันไป

๐วงการโบรกเกอร์ของไทยดูเหมือนจะมีการเคลื่อนไหวรุนแรงในช่วงนี้ ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า นันทพล พงษ์ไพบูลย์ เอ็มดี โกลเบล็ก แอ็ดไวซอรี่ ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ GBX ถือหุ้น 100% ได้ยื่นใบลาออก เมื่อวันที่ 1 เม.ย.และขอให้มีผลทันที โดยที่ โอฬาร คูหาเปรมกิจ ประธานกรรมการ GBX ก็อนุมัติใบลาออกแล้วด้วย

๐หลังจากที่สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ออกมาให้ข่าวว่ามีสถาบันจัดอันดับเครดิตแห่งหนึ่ง เตรียมปรับอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยกลับมาเป็น “มีเสถียรภาพ” จากเดิมที่ “เป็นลบ” ฝั่งเอกชนก็ขานรับข่าวดีทันที พุทธชาติ รังคสิริ เอ็มดี ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น (TWZ) ที่ดีใจเพิ่มเป็นเท่าตัวหลังได้ยินข่าว เพราะตอนนี้กำลังติดต่อคู่อยู่ในต่างประเทศ ซึ่งคู่ค้าก็สอบถามเรื่องสถานการณ์ภายในประเทศอยู่พอดี เช่นเดียวกับ ชูเกียรติ ยงวงศ์ไพบูลย์ บิ๊กบอสส์ เพิ่มสินสตีลเวิคส์ (PERM) ที่เชื่อว่าข่าวนี้จะเป็นข่าวดีและช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นการลงทุนได้หลัง จากที่ไทยขาดปัจจัยบวกมาเรียกความเชื่อมั่นสักระยะแล้ว ผิดกับฝั่งสมาคมโบรกเกอร์ต่างประเทศที่ยังรู้สึก surprise อยู่ โดยเฉพาะประเด็นการเมืองที่ยังถูกต่างชาติสอบถามอยู่ต่อเนื่อง

๐งวดเข้ามาทุกทีแล้ว สำหรับงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 6 เม.ย.นี้ หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้ว เกาะกระดาน แนะนำหนังสือดีๆ จากสำนักพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ Bizbook ให้แฟนๆ ได้จับ ได้จอง เป็นเจ้าของ เป็นอาหารสมองเสริมภูมิความรู้เพิ่มเติม จำนวน 3 เล่ม คือ Hamburger Crisis วิกฤติการเงินสะท้านโลก ผลงานของกูรูเศรษฐกิจมหภาค ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ และ รากเหง้าแห่งปีศาจ เปิดโปงมหาวิกฤติการเงินโลก โดย ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์ ซึ่งทั้ง 2 เล่มติดอันดับหนังสือขายดีลำดับต้นๆ เลยทีเดียว คุณผู้เขียนทั้ง 2 ท่าน ก็ฝากขอบคุณแฟนๆ มา ณ ที่นี้ด้วย

๐ส่วนเล่มที่ 3 ที่ได้แนะนำไปรอบหนึ่งแล้วคือ โดมิโน เอฟเฟคท์ ทางรอดเศรษฐกิจไทย บนเส้นด้ายวิกฤติเศรษฐกิจโลก ผลงานของนักเศรษฐศาสตร์แห่งอนาคต ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประประภาศ รองโฆษกกระทรวงการคลัง มีการไถ่ถามมาหลายท่านว่า ทำไมยังหาซื้อไม่ได้ ก็ขอบอกกันที่นี้เลยว่า มีวางจำหน่ายแล้ว ใครอยากได้ให้ไปที่บูธ M 31 โซน C1 รับรองไม่ผิดหวัง และพิเศษจริงๆ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประประภาศ และ ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์ จะมาพบปะกับแฟนๆ พร้อมแจกลายเซ็นสวยๆ บนปกหนังสือ ในช่วงบ่ายแก่ๆ ของวันเสาร์ที่ 4 เม.ย.นี้ แฟนตัวจริงห้ามพลาดนะคร้าบ!!!!!!

G20 จุดเปลี่ยนฟื้น ศก.โลก

โอบามาชมประชุมจี 20 จุดเปลี่ยนฟื้น ศก.โลก

ลอนดอน 3 เม.ย. - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ยกย่องการประชุมสุดยอดจี 20 ว่าเป็นการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ และจะนำมาซึ่งจุดเปลี่ยนในการฟื้นเศรษฐกิจโลก

ประธานาธิบดีโอบามา กล่าวว่า บรรดาผู้นำในที่ประชุมต่างเห็นชอบในข้อตกลงต่าง ๆ ที่จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจ และป้องกันไม่ให้วิกฤติที่รุนแรงเช่นครั้งนี้เกิดขึ้นอีก ถือเป็นการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจที่โลกกำลังเผชิญนั้นใหญ่หลวง และจะนำมาซึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญในการฟื้นเศรษฐกิจโลก ผู้นำสหรัฐยังยกย่องผู้นำประเทศในการประชุมจี 20 ที่ต่อต้านนโยบายกีดกันทางการค้า และสามารถประสานความแตกต่างทางความคิดให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้

มีรายงานว่า ประธานาธิบดีโอบามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งที่ช่วยให้ข้อตกลงในที่ประชุมจี 20 บรรลุผล โดยเฉพาะการแก้ไขความเห็นที่แตกต่างกันของฝรั่งเศสและจีน เกี่ยวกับประเด็นการจัดการปัญหาเรื่องแหล่งหลบซ่อนภาษี

ที่มา:สำนักข่าวไทย

หุ้นสหรัฐพุ่งกว่า 200 จุด

ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งกว่า 200 จุด รับผลประชุมจี 20

สหรัฐ 3 เม.ย. - ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งทะยานเกือบ 3% ท่ามกลางความพอใจของนักลงทุนต่อความพยายามของผู้นำโลกในที่ประชุมจี 20 เพื่อแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจโลก

ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีทะยานขึ้นอย่างคึกคักกว่า 4% ในช่วงแรก ก่อนปิดเพิ่มจากวานนี้ 2.8%
ตอบรับการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ที่หลายฝ่ายตั้งความหวังว่าจะนำมาซึ่งมาตรการร่วมกันของหลายประเทศ ในการแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจโลก รวมถึงการให้คำมั่นว่าจะเพิ่มงบประมาณสนับสนุนกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรืออีก 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.87 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 7 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.76 พันล้านหุ้น

ริชาร์ด คัมปานา นักวิเคราะห์จาก 300 North Capital กล่าวว่า ราคาหุ้นดีดตัวขึ้นทั่วทั้งกระดานหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนก.พ. หลังร่วงลง 3.5% ในเดือนม.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่ายอดสั่งซื้อจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.5% ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยรุนแรง

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์การเงินโลกเริ่มลดน้อยลงเมื่อที่ประชุมสุดยอด G20 เห็นพ้องที่จะอัดฉีดเงินทุนให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพิ่มอีก 5 แสนล้านดอลลาร์ รวมกับเงินทุนเดิมเป็น 7.5 แสนล้านดอลลาร์ สำหรับช่วยเหลือประเทศที่เผชิญกับมรสุมทางเศรษฐกิจและการเงิน และจะเปิดทางให้ IMF ปล่อยกู้เงินยืมฉุกเฉินให้กับตลาดทุนทั่วโลกในกรณีที่จำเป็น

นอกจากนี้ ที่ประชุม G20 ยังเตรียมทุ่มเงินถึง 2.5 แสนล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นการค้าโลกในระยะ 2 ปี
โดยเงินจำนวนดังกล่าวจะนำไปใช้เป็นสินเชื่อเพื่อการส่งออกและการลงทุน รวมถึงอัดฉีดให้กับธนาคารเพื่อการลงทุนระดับภูมิภาค

อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงถูกปกคลุมด้วยความวิตกกังวลเรื่องอัตราว่างงานในสหรัฐ หลังจาก ADP National Employment Report รายงานว่า ภาคเอกชนของสหรัฐลดการจ้างงานลง 742,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์ที่ 3 เม.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 8.5%
ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี จากเดือนก.พ.ที่ระดับ 8.1% และคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) เดือนมี.ค.จะร่วงลง 660,000 คน ซึ่งจะทำให้จำนวนคนตกงานโดยรวมพุ่งขึ้นเป็น 5 ล้านคน

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ชาวอเมริกันที่เข้ารับสวัสดิการในระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 28 มี.ค.พุ่งขึ้น 12,000 ราย แตะระดับ 669,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 27 ปี เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลให้บริษัทหลายแห่งพยายามลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้วยการปลดพนักงานและลดกำลังการผลิตท่ามกลางวิกฤตยอดขายตกต่ำ

หุ้นกลุ่มธนาคารทะยานขึ้นแข็งแกร่ง หลังจากมีรายงานว่าคณะทำงานด้านการธนาคารของสหรัฐเตรียมใช้มาตรการผ่อนปรนด้านการเงิน ซึ่งมีเป้าหมายที่จะช่วยลดตัวเลขขาดทุนของธนาคารพาณิชย์และขยายวงเงินกู้ให้กับธนาคาร ทั้งนี้ หุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก พุ่งขึ้น 5.9% และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ดีดขึ้น 3.6%

ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์
พุ่งขึ้น 4.31 ดอลลาร์สหรัฐ ไปปิดที่ระดับ 52.75 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์พุ่งขึ้น 216.48 จุด ไปปิดที่ระดับ 7,978.08 จุด
แนสแดคปิดที่ระดับ 1,602.63 จุด เพิ่มขึ้น 51.03 จุด
และเอสแอนด์พีปิดที่ระดับ 834.38 จุด เพิ่มขึ้น 23.30 จุด

ที่มา:สำนักข่าวไทย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์

เชื่อดัชนีหุ้นไทยไม่ผ่าน 480 จุด

บล. ธนชาตยังแนะนำให้ขายทำกำไร เชื่อดัชนีหุ้นไทยไม่ผ่าน 480 จุด

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยในวันนี้แม้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นได้สูงสุดในรอบสัปดาห์ แต่ก็ถือว่าปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าตลาดอื่นในภูมิภาค เนื่องจากยังมีปัจจัยการเมืองกดดัน แต่ก็สามารถยืนเหนือระดับแนวต้านที่ 436 ไปได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าหากดัชนีสามารถปรับเพิ่มขึ้นทะลุแนวต้านถัดไปที่ 444 จุด ได้ ก็เชื่อว่าจะไม่น่าจะผ่าน 480 จุดไปได้อย่างแน่นอน เพราะยังมีข่าวร้ายรออยู่ ทั้ง ปัญหาในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐฯ ตลอดจนปัญหาการชุมนุมในประเทศที่อาจยืดเยื้อต่อไป เข้ามากดดันในระยะยาว จึงแนะนำให้ทยอยขายทำกำไรในกรณีที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาก

ส่วนข่าวสถาบันการเงินสหรัฐฯที่มีแนวโน้มดีขึ้น ตลอดจนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯหลายตัวที่ดีเกินคาด อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และอสังหาริมทรัพย์ของไทยปรับเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน


ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับสูงสุดของวันที่ 442.96 จุด เพิ่มขึ้น 12.87 จุด หรือ 2.99% มาอยู่ที่ 15,521.77 ล้านบาท

- นักลงทุนสถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 488.03 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 915.65 ล้านบาท
- นักลงทุนรายย่อย ขายสุทธิ 1,403.68 ล้านบาท


- Money Channel โดยวาสิฏฐี อนุกูล Email: wasittee@set.or.th

ฝรั่งซื้อแบงก์!!

ฝรั่งซื้อแบงก์!!
[3 เม.ย. 52 - 02:33]


ดัชนีหุ้นวันที่ 2 เม.ย. 52 ปิดที่ 442.96 จุด เพิ่มขึ้น 12.87 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 15,521.77 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 916.98 ล้านบาท

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.บัวหลวง หุ้นไทยปิดบวกได้ โดยมีแรงซื้อเข้ามาหนาแน่นในหุ้นแบงก์หลังมีข่าวสถาบันจัดอันดับความน่า เชื่อถือ เตรียมที่จะปรับอันดับความเชื่อถือของกลุ่มประเทศในภูมิภาครวมทั้งไทย จากเดิมที่อันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ที่ Negative มาเป็น Stable ซึ่งหากมีการปรับอันดับครั้งนี้จะเป็นผลบวกโดยตรงต่อหุ้นกลุ่มแบงก์

ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคส่วนใหญ่ยังปรับขึ้นแรงด้วย โดยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาดีขึ้น ทำให้เริ่มมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะฟื้นตัวได้ช่วยหนุนตลาดหุ้น ทั่วโลก แต่หุ้นไทยขึ้นไม่แรงเท่าต่างประเทศเพราะถูกปัจจัยการเมืองกดดัน

มองแนวโน้มตลาดคาดว่า น่าจะไปได้ต่อหลังดัชนียืนเหนือระดับ 440 จุดได้ ถือเป็นสัญญาณที่ดี และพบว่ามีหลายสำนักวิเคราะห์โดยเฉพาะโบรกฯต่างชาติที่แนะให้ลูกค้าเข้าไป ซื้อหุ้น ประกอบกับพบว่ามีสัญญาณการแข็งขึ้นของค่าเงินบาท สะท้อนภาพเงินทุนไหลเข้า

แนะกลยุทธ์การลงทุนให้หาจังหวะเก็บหุ้นอสังหาฯและพลังงาน เช่น PTT และ TOP ด้านเทคนิคให้แนวต้านดัชนีไว้ที่ 440-450 จุด

ปิดท้าย ม.ล.ทองมกุฎ ทองใหญ่ กรรมการผู้จัดการ บล.ซิตี้ คอร์ป (ประเทศไทย) เตือนว่า การกลับมาลงทุนของต่างชาติในขณะนี้นั้น ยังไม่เห็นสัญญาณที่เป็นบวกชัดเจน แม้เดือนมีนาคมที่ผ่านต่างชาติ จะกลับมาซื้อสุทธิ แต่เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค

และการเข้าซื้อดังกล่าวมาจากกองทุนต่างชาติที่จำเป็นต้องถือหุ้นในไทยเพื่อ ปรับพอร์ต โดยจะมีการเลือกซื้อหุ้นเป็นรายตัวที่มีพื้นฐานดี!!


อินเด็กซ์ 51


Template by - Abdul Munir | Blogging4