03 กันยายน 2552

ตลาดป่วนระบบซื้อขายล่ม

ตลาดป่วนระบบซื้อขายล่ม ต้นตอโบรกฯคีย์"2S"ไม่ได้


ระบบซื้อขายหุ้นล่ม ตลาดเลื่อนเปิดเทรดภาคเช้า 1 ชั่วโมงเป็น 11.00 น. เผยต้นตอเกิดจากโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ ไม่สามารถรองรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีตัวย่อเป็นตัวเลขนำหน้าได้ ส่งผลหุ้น "เซาท์เทิร์นสตีล" ต้องเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น S2 ยอมรับกระทบคำสั่งซื้อขายต่างประเทศ

ตลาดหลักทรัพย์รายงานว่า วานนี้ (2 ส.ค.) ในช่วงก่อนเปิดตลาดซื้อขายภาคเช้า ระบบส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทสมาชิกจำนวนหนึ่ง ขัดข้องไม่สามารถคำสั่งเข้ามายังระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ ตลาดจึงได้เปิดระบบการส่งคำสั่งซื้อขายสำรองเพื่อให้สมาชิกที่มีปัญหาส่งคำสั่งซื้อขายเข้ามายังระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ จนกว่าจะแก้ไขระบบส่งคำสั่งของสมาชิกแล้วเสร็จ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังมีบริษัทสมาชิกบางรายที่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างการประสานงานกับบริษัทสมาชิกดังกล่าว จึงขอแจ้งเลื่อนเปิดการซื้อขายหลักทรัพย์ในภาคเช้า โดยจะเปิดช่วง pre-open ในเวลา 10.30 น. และจะเปิดซื้อขายปกติตั้งแต่เวลา 11.00 น. สำหรับตลาดอนุพันธ์จะเลื่อนเปิดทำการซื้อขายเป็นตั้งแต่เวลา 10.45 น. ส่วนตลาดตราสารหนี้ เปิดทำการซื้อขายปกติ

ทั้งนี้ตลาดระบุว่า ระบบการซื้อขายหุ้นของตลาดหลักทรัพย์ มีประสิทธิภาพและมีความพร้อมในการรองรับการซื้อขายหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่องตามมาตรฐานสากล รวมทั้ง มีระบบสำรองที่พร้อมรองรับกรณีเกิดปัญหา เพื่อให้สามารถทำการซื้อขายหลักทรัพย์ได้อย่างต่อเนื่อง

ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นในการ ซื้อขายภาคเช้าวานนี้ เกิดจากระบบการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทสมาชิกที่พัฒนาโดยผู้พัฒนาระบบรายหนึ่งในการเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดการซื้อขายหลักทรัพย์ใหม่ ของ บริษัทเซาท์เทิร์นสตีล ซึ่งใช้ชื่อย่อว่า "2S" ไม่ได้ทำให้ตลาดเลื่อนเวลาเปิดซื้อขายหลักทรัพย์ออกไป 1 ชั่วโมง

สมาคมบริษัทหลักทรัพย์จึงเสนอแนะมายังตลาดว่า เนื่องจากมีบริษัทสมาชิกจำนวน 16 ราย ซึ่งใช้โปรแกรมการซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้จัดทำโปรแกรมรายหนึ่ง ไม่สามารถรองรับหุ้น 2S เนื่องจากเหตุผลทางเทคนิค จนเป็นเหตุให้เกิดปัญหาในการซื้อขาย ทำให้ต้องมีการเลื่อนการเปิดการซื้อขาย จึงเสนอตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาเปลี่ยนชื่อหุ้นจาก 2S ให้ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรเช่นปกติ

ดังนั้น บริษัท เซาท์เทิร์นสตีล จึงแจ้งเปลี่ยนชื่อย่อใหม่ จาก “2S” เป็น “S2” โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย. เป็นต้นไป

ด้านนายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า หลังจากระบบการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เกิดปัญหาขัดข้อง ประเมินว่าคงไม่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น แต่จะกระทบคำสั่งซื้อขายจากต่างประเทศ ซึ่งอาจส่งคำสั่งซื้อขายเข้ามาในช่วงเช้า ดังนั้นคงต้องประเมินผลเสียหายที่เกิดขึ้น

"ปัญหาการซื้อขายขัดข้องคงไม่มีผลกระทบในเรื่องของราคาหุ้น เพราะตลาดได้ขึ้นเครื่องหมาย H หุ้นทุกตัวเพื่อแฟร์กับนักลงทุน แต่จะกระทบคำสั่งซื้อขายจากต่างประเทศที่เข้ามาในช่วงเช้า"
นายวิเชฐ ยังได้กล่าวถึงภาพรวมของการเข้ามาจดทะเบียนของหุ้นใหม่ว่า ปีนี้ อาจจะไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้จำนวน 35 บริษัท แม้ยังคงมีอีกกว่า 10 บริษัท ที่พร้อมเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงที่เหลือของปี และเมื่อรวมก่อนหน้าที่เข้าจดทะเบียนแล้ว 10 บริษัท ก็จะรวมได้กว่า 20 บริษัท ในปีนี้ก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจแล้ว

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซิกโก้ กล่าวว่า ดัชนีหุ้นช่วงเช้าเคลื่อนไหวในแดนลบ ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ปรับลดลง แต่ถือว่าหุ้นไทยลดลงไม่มากนัก เพราะได้อานิสงส์มาจากการที่ ตลาดหลักทรัพย์ เลื่อนเปิดการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นเวลา 11.00 น. ส่งผลให้นักลงทุนพิจารณาเลือกหุ้นในการลงทุนมากขึ้น ประกอบกับหุ้นต่างประเทศเริ่มเห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้น หรือติดลบน้อยลง

รายงานข่าวจาก บล.ธนชาต กล่าวว่า การที่ตลาดหลักทรัพย์ เปิดการซื้อขายหุ้นในช่วงเช้าช้าไป 1 ชั่วโมง ส่งผลให้ดัชนีปรับลงตามต่างประเทศไม่มาก โดยอ่อนตัวลงต่ำสุดเพียง 647.68 จุด และดีดขึ้นหลังจากที่เปิดอ่อนตัวลงต่อเนื่อง ซึ่งยังมีแรงเทขายหุ้นขนาดใหญ่ เช่น ปตท. แต่มีแรงสลับซื้อกลุ่มธนาคาร ทำให้ดัชนีแกว่งออกข้างถึงแกว่งลง

ขณะที่ดัชนีหุ้นวานนี้ (2 ก.ย.) ปิดตลาดที่ระดับ 654.12 จุดไม่เปลี่ยนแปลง โดยมีปริมาณการซื้อขายรวม 1.4 หมื่นล้านบาท

เกาะกระดานหุ้น

เกาะกระดานหุ้น


๐ คงพูดได้เต็มปากว่าหุ้น เซาท์เทิร์นสตีล (2S) เป็นหุ้นที่พกดวงมาด้วยจริงๆ เพราะวานนี้ (2 ก.ย.) ซึ่งเป็นวันเข้าเทรดวันแรก ก็เจอทั้งตลาดหุ้นดาวน์โจนส์ไม่เอื้อ ตลาดหุ้นไทยก็ไม่หนุนส่ง ซ้ำร้าย ระบบซื้อขายของตลาดหุ้นเกิดปัญหาจนต้องเลื่อนเวลาเปิดเทรดไป 1 ชั่วโมง แต่ สมบัติ ลีสวัสดิ์ตระกูล ซีอีโอ 2S ก็ไม่หวาดหวั่นแต่อย่างใด เพราะได้กำลังใจดีจากเจ้าสัว “ชาตรี โสภณพนิช” ในฐานะที่เป็นเขยเล็กนั่นเอง...เมื่อเปิดเทรดจริงใน 11.00 น. ราคาหุ้น 2S ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ราคากระโดดขึ้นไปเปิดที่ 2.50 บาท จากราคาไอพีโอที่ 1.90 บาท และปีที่ 2.86 บาท เพิ่มขึ้น 50.52% วอลุ่ม 125 ล้านบาท แต่มีเสียงกระซิบบอกมาว่า ให้จับตาราคาหุ้นวันนี้ (3 ก.ย.) อาจสร้างปาฏิหาริย์อีก เพราะวานนี้มีหลายโบรกที่ไม่สามารถส่งออเดอร์ซื้อหุ้น 2S ได้ เพราะระบบที่ขัดข้องนั่นเอง


๐แค่พักฐาน รอข่าวมาหนุนรอบใหม่ สำหรับหุ้นกลุ่มไมด้า โดยเฉพาะ ไมด้า ลิสซิ่ง (ML) ที่มีข่าวว่าได้รับความสนใจจาก APF Group จากญี่ปุ่นจะเข้ามาเทคโอเวอร์ แต่ยังตกลงเรื่องราคากันไม่ได้ APF เสนอมาที่ราคาเท่า Book Value ที่ 0.28 บาทต่อหุ้น แต่ทางเจ้าของ ML ต้องการมากกว่านั้น มีสายข่าวบอกด้วยว่า ยังมีแบงก์ไทยเครดิต ที่ให้ความสนใจด้วย เสนอซื้อมาที่ 0.30 บาท แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจของเสี่ย กมล เอี้ยวศิวิกูล เช่นกัน ข่าวบอกว่า ถ้าพูดกันที่ 0.32 บาท ก็ยังพอมีลุ้น.....ว่าแต่จะกล้าหรือเปล่า ช่วงนี้ใครที่คิดจะเข้า หรือคิดจะรวย คิดจะเสี่ยงโชค อย่าบุ่มบ่าม ที่สำคัญต้องเกาะติดข่าวคราวความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด ...วานนี้ ML ปิดตลาดที่ 0.14 บาท ลดลง 0.01 บาท หลังจากที่โดนลากขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 10 เดือนที่ 0.17 บาท ส่วนหุ้นในเครือไมด้า ก็ถูกเทขายทำกำไรกันยกแผงเช่นกัน

๐วานนี้บรรดาผู้บริหารบริษัทใหญ่ พาเหรดรายงานขายหุ้นกันอย่างคึกคัก สมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) รายงานขาย 2 ล้านหุ้นที่ 0.74 บาทต่อหุ้น งานนี้ขายต่ำกว่าราคาพาร์ ไม่รู้คิดอย่างไร แถมมองสวนทางกับ ปลิว ตรีวิศวเวทย์ ที่มีแต่เก็บ BMCL เข้าพอร์ตอย่างเดียว ด้าน วิชา พูลวรลักษณ์ เจ้าของเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) รายนี้ก็ไม่เบารายงานขายไปตั้ง 7 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 7.80 บาท พอพลิกไปดูราคาหุ้น ก็ไม่แปลกใจ เพราะราคาหุ้นหมู่นี้ ยังวิ่งแรงไม่หยุด และยังทำสถิติรอบปีนี้ไปแล้วที่ 8.25 บาท เอ้าบรรดาผู้บริหารเขารู้จังหวะขายกันดีจริงๆ ขอแสดงความนับถือ รับทรัพย์กันกระเป๋าตุงจริงๆๆๆๆ

๐มาแรงอีกตัวหุ้นบริษัทผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี (CCP) อยู่ดีๆ วิ่งมาจากแรงเก็งกำไรเข้ากระหน่ำ ล่าสุดปิดตลาดที่ 1.14 บาท เพิ่มขึ้น 0.26 บาทคิดเป็น 29.55% ไม่รู้ว่าจะมีข่าวดีอะไรรึเปล่า แต่พอดูข้อมูลย้อนหลังเห็นแล้วหวั่นใจ บอกไม่ถูกเพราะถ้าพิจารณาปัจจัยพื้นฐานแล้วท่าทางไม่ค่อยดี เพราะขนาดผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นในงบการเงิน ใครจะเข้าร่วมวงคิดให้ดี เพราะตอนนี้ราคากำลังวิ่งไต่ระดับยอดดอยแล้ว



เครดิตสวิสให้หุ้นแจ๋ว!!

เครดิตสวิสให้หุ้นแจ๋ว!!

ดัชนีหุ้นวันที่ 2 ก.ย.52 ปิดที่ 654.12 จุด ไม่เปลี่ยนแปลง มีมูลค่าการซื้อขาย 14,173.80 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 467.37 ล้านบาท

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน มองแนวโน้มตลาดระยะสั้นว่า มีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อ แต่ช่วงนี้มีหุ้นพลังงานขึ้นเครื่องหมาย XD หลายตัว อาจทำให้ดัชนีปรับขึ้นได้ไม่มาก

แนะกลยุทธ์การลงทุน ให้ซื้อหุ้นในกลุ่มสื่อสาร เหล็ก และกลุ่มเกษตร ด้านเทคนิค ให้แนวรับไว้ที่ 650 จุด และแนวรับถัดไปที่ 647 จุด ขณะที่แนวต้านให้ไว้ที่ 660 จุด โดยยังต้องติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นต่างประเทศและราคาน้ำมันต่อ

บล.เคทีซิมิโก้ มองดัชนีอยู่ในช่วงการสร้างฐาน ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ไม่ส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนมากนัก แต่ประเด็นที่หุ้นใหญ่อย่าง PTT, PTTCH ขึ้นเครื่องหมาย XD จะเป็นปัจจัยที่กดดันดัชนี ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุนยังสามารถเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กได้ โดยประเมินแนวรับอยู่ที่ 650-640 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 660 จุด

ปิดท้าย มีข่าวเครดิตสวิสกรุ๊ปออกบทวิเคราะห์ แนะนำลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารของไทย โดยเลือก KBANK และ BAY เป็นหุ้นที่น่าลงทุนสุดในกลุ่ม โดยผลการดำเนินงานมีศักยภาพออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้

นอกจากนี้ เครดิตสวิสยังได้แนะนำลงทุนหุ้น ADVANC, DTAC และ AOT โดยคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเครดิตสวิสคาดว่า จีดีพีไทยปีหน้าจะขยายตัวในอัตราสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ของเอเชีย โดยคาดว่าจะขยายตัวในอัตรา 3%

ทั้งนี้ เครดิตสวิสคาดว่า ปีหน้านักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ขายสุทธิถึง 1.62 แสนล้านบาทในปีที่ผ่านมา ก่อนจะกลับมาซื้อสุทธิแล้ว 3.24 หมื่นล้านบาทในปีนี้.

อินเด็กซ์ 51

Template by - Abdul Munir | Blogging4