22 กรกฎาคม 2552

รอบนี้ขอเสิร์ฟหุ้นอาหาร

รอบนี้ขอเสิร์ฟหุ้นอาหาร

หุ้นอาหารติดเทอร์โบ รับรัฐบาลเปิดนโยบายหนุนระบบรับประกันราคาสินค้าข้าวเปลือกปี 52/53 สุดตัว แถมธุรกิจส่งออกมีสัญญาณฟื้นตัว ด้านโบรกฯ แนะนำเก็งกำไร KASET - KSL -CPF-CFRESH คาดไตรมาส 3/2552 ส่งออกอาหารคืนชีพ ขณะที่ผู้บริหาร KASET ออกมาการันตีรายได้ครึ่งปีหลัง เติบโตกว่าครึ่งปีแรก รับราคาข้าวพุ่ง แถมความต้องการในต่างประเทศเพิ่ม


บรรยากาศการลงทุนของตลาดหุ้นไทย วานนี้ (21 ก.ค.) เรียกได้ว่ากำลังหาแนวทางเดิน ระหว่างวันจึงเกิดความแปรปรวน เดี๋ยวบวก เดี๋ยวลบ แม้จะไม่มีข่าวลบ แต่ราคาหุ้นที่ขึ้นมามากในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนเริ่มมีการขายทำกำไรออกมา การขายทำกำไรนั้นไม่ใช่เรื่องที่แปลกประหลาดอะไร สำหรับตลาดหุ้นแบบนี้ เพราะหากไม่มีการขาย โอกาสที่หุ้นจะขึ้นต่อก็จะยากเต็มที เพราะคนไม่กล้าซื้อหุ้น เนื่องจากตลาดต่างประเทศ และสัญญาณน้ำมันก็เริ่มมีแรงขายเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากปริมาณการซื้อขายแล้ว ยังถือว่าค่อนข้างสูงพอควร

แต่ท่ามกลางความผันผวน หุ้นกลุ่มอาหารกลับได้รับความนิยม ส่งผลให้หุ้นกลุ่มดังกล่าวปรับตัวอยู่ในแดนบวกได้อย่างคึกคัก หลักๆ น่าจะมาจากยอดตัวเลขส่งออกเดือน มิ.ย. 52 ที่แม้ว่าจะยังคงติดลบอยู่ 25.9% เทียบจากปีก่อน แต่ถือว่าปรับตัวดีขึ้น 5.8% จากเดือนเดียวกันปีก่อน มาอยู่ที่ 12.3 พันล้านเหรียญฯ โดยการส่งออกปรับตัวดีขึ้นหากเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะ ข้าว และ สินค้าอิเล็คทรอนิกส์ จึงมีความเป็นไปได้ว่าการส่งออกอาจผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ประกอบกับแนวโน้มราคาจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุง มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณข้าวเปลือกที่จะนำมาผลิตเป็นข้าวสารบรรจุถุงในตลาดอยู่ในภาวะตึงตัว ขณะที่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (21 ก.ค) ได้เห็นชอบในหลักการระบบประกันราคาสินค้าข้าว


วานนี้(21 ก.ค.) ดัชนีฯ ตลาดปิดที่ 609.83 จุด ลดลง 3.84 จุด หรือ 0.63% มูลค่าการซื้อขาย 20,712.15 ล้านบาท ราคาหุ้น บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) หรือ KASET ปิดตลาดที่ 4.08 บาท เพิ่มขึ้น 0.42 บาท หรือ 11.48% มูลค่าการซื้อขาย 112.70 ล้านบาท ,บริษัท ซีเฟรชอินดัสตรี จำกัด (มหาชน)หรือ CFRESH ปิดตลาดที่ 1.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท หรือ 4.05% มูลค่าการซื้อขาย 3.66 ล้านบาท ,บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL ปิดตลาดที่ 9.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 2.12% มูลค่าการซื้อขาย 30.82 ล้านบาท และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ปิดตลาดที่ 4.88 บาท ลดลง 0.02 บาท หรือ -0.41% มูลค่าการซื้อขาย 85.35 ล้านบาท

*** ครม.เห็นชอบ ระบบประกันราคาข้าว สินค้าข้าวเปลือกปี 52/53

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้รับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้รายงานผลจากการพิจารณาของอนุกรรมการพิจารณาแนวทางการประกันราคาและการประกันภัยข้าวเปลือก โดยเห็นชอบแนวทางในการดำเนินมาตรการข้าวปี 2552-2553 โดยให้ดำเนินการประกันราคาขาวเปลือกแก่เกษตรกรเป็นการทั่วไป เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง และแก้ไขปัญหาความสามารถในการแข่งขัน ส่งออกของประเทศ

นอกจากนี้ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.)ด้านการผลิตพิจารณากำหนดราคาประกันข้าวเปลือกแต่ละชนิดที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากต้นทุนการผลิตขาวเปลือกแต่ละชนิด และค่าตอบแทนที่เหมาะสมให้แก่เกษตรกร เพื่อให้ได้รับราคาที่เหมาะสม พร้อมทั้งเร่งรัดให้เกิดการจัดทำทะเบียนเกษตรกรเพื่อนำมาใช้ประกอบในการประกันราคาข้าวเปลือกและมาตรการอื่นๆรวมถึงนำเสนอต่อกขช.พิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป

ทั้งนี้ได้มอบให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ทำการประชาสัมพันธ์การประกันราคาข้าวเปลือกเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แแก่เกษตรกรเกี่ยวกับราคาประกัน ราคาอ้างอิง และการชดเชยราคาของรัฐ รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการและผลที่เกษตรกรจะได้รับจากการประกันราคาข้าวเปลือก อีกทั้งมอบให้กขช.ด้านการตลาดได้พิจารณาถึงกำหนดมาตรการการรักษาเสถียรภาพของราคาข้าวเปลือก เพื่อเป็นมาตรการเสริมเพิ่มเติมจากการประกันราคาข้าวเปลือก และนำเสนอมาตรการต่อกขช.ในการประชุมครั้งต่อไป

นายวัชระยังกล่าวต่ออีกว่า ครม.ได้พิจารณาการจำหน่ายข้าวสาร โดยอิงกลไกตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย(AFET) ตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้เสนอ โดยได้มีมติอนุมัติดังนี้

1.ให้องค์การคลังสินค้า(อคส.)นำเงินค่าข้าวสารโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2551/2552 ที่ระบายจำหนายได้ ซึ่งต้องส่งคืน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 425 ล้านบาท มาเป็นทุนหมุนเวียนเพื่อให้อคส.ใช้เป็นหลักประกันในการซื้อขายล่วงหน้าในตลาด AFET เพื่อป้องกันการผิดสัญญาของผู้ซื้อและผู้ขาย ทั้งนี้ปริมาณข้าวสารโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2551/2552 จำนวน 763,920 ตัน แยกเป็นข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ปริมาณ 3 แสนตัน และข้าวขาว 5% ปริมาณ 463,920 ตัน ทั้งนี้เมื่อหมดภาระผูกพันแล้วหากเงินที่ได้รับคืนเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามเกณฑ์การวางหลักประกันซื้อขายของตลาด AFET ให้นำไปคำนวณเป็นรายได้หรือภาระขาดทุนตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2551/2552 ต่อไป

2.อนุมัติงบกลางเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นวงเงินจ่ายขาดจำนวน 24.64 ล้านบาท ให้อคส.ให้เป็นค่าตอบแทนนายหน้าซื้อขายล่วงหน้า และค่าจ้างผู้จัดการซื้อขายล่วงหน้า

***โบรกฯ มองหุ้นอาหารยังสดใส

นายเตชธร ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซียพลัส เปิดเผยว่า หุ้นในกลุ่มอาหารมีจุดเด่น คือ เป็นสินค้าจำเป็นในการบริโภค ซึ่งขาดไม่ได้ จึงไม่ได้รับผลกระทบแม้ภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัว ประกอบกับคาดว่าในไตรมาส 3/2552 ส่งออกอาหารน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น จึงแนะนำนักลงทุนซื้อเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วยบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ,บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) หรือ KASET และบริษัท ไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUF

" หุ้นกลุ่มอาหารก็เล่นเก็งกำไรได้ เพราะหุ้นกลุ่มนี้มีจุดเด่น คือ เป็นสินค้าที่จำเป็น และในไตรมาส 3 ส่งออกน่าจะดี ส่วนราคาข้าวถุงก็ปรับขึ้น ซึ่งตรงนี้คงส่งผลบวกต่อ KASET จึงแนะนำเก็งกำไร โดยให้แนวรับไว้ที่ 3.90 บาท แนวต้าน 4.20 บาท TUF ให้แนวรับไว้ที่ 24.40 บาท แนวต้าน 25 บาท ส่วน CPF ให้แนวรับไว้ที่ 4.80 บาท และแนวต้าน 5 บาท " นายเตชธร กล่าว

***บล.พัฒนสิน มอง CPF โดดเด่นสุด

นางเพลินใจ จิระจรัส นักวิเคราะห์ บล.พัฒนสิน เปิดเผยว่า หากพิจารณาหุ้นในกลุ่มธุรกิจอาหาร CPF จะเป็นหุ้นตัวที่โดดเด่น เนื่องจากในปีนี้จะเป็นปีที่ธุรกิจสามารถส่งออกอาหารเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะไตรมาส 2 /2552 จะเป็นช่วงที่มีกำไรดีที่สุด จึงแนะนำลงทุน ซึ่งราคาเป้าหมายอยู่ที่ 5.62 บาท/หุ้น ขณะเดียวกันหากประเมินถึงอุปทานของอาหารโลกเริ่มมีแนวโน้มลดลงและยังมีภัยแล้งที่เป็นอุปสรรค

โดยการบริโภคเนื้อหมูและไก่ยังคงเพิ่มขึ้นแม้ภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง เนื่องจากอาหารยังมีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกจากต้นทุนกากถั่วเหลืองที่ใช้เป็นอาหารมีราคาปรับตัวลดลง โดยเฉลี่ยทั้งปีราคาเนื้อหมูน่าจะปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อน ขณะที่ราคาเนื้อไก่น่าจะทรงตัว จึงยังคงแนะนำลงทุนในหุ้น บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TVO เนื่องจากราคาของสินค้าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งคาดว่าผลประกอบการในปีนี้จะโตจากปีก่อนประมาณ 55% โดยให้ราคาเป้าหมาย 14.85 บาท

ส่วนบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL ยังได้ประโยชน์จากราคาน้ำตาลที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยมองว่าผลประกอบการไตรมาส 1/2552 น่าจะเป็นจุดสูงสุดของปีนี้ แต่ยังมองว่ายังจะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในระดับสูง โดยให้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 10.30 บาท

***หุ้น KASET วิ่งรับราคาข้าวขยับ หลังดีมานด์พุ่ง

นายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) หรือ KASET เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่า ถึงสาเหตุที่ราคาหุ้นของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างแรงในช่วงการซื้อขายวานนี้(21 ก.ค.) ว่า น่าจะเกิดจากการรับประเด็นข่าวบวก จากราคาข้าวที่เริ่มปรับเพิ่มขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการทั้งขายปลีกและขายส่งได้ทยอยปรับขึ้นราคาขายไปแล้ว ประกอบกับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาขายในตลาดขยับขึ้น ซึ่งก็น่าจะเป็นผลดีต่อเกษตรกร

'เข้าใจว่าภาครัฐได้เข้ามาช่วยดูแลในเรื่องของราคาข้าว โดยยอมรับว่ายังมีสต็อกข้าวที่อยู่ในฝั่งของรัฐบาลและเชื่อว่านโยบายของรัฐในปัจจุบันค่อนข้างจะปกป้องเกษตรกร และในส่วนของการดูแลราคาก็ยังเป็นไปในทางที่ดีอยู่ ในส่วนของข้าวหอมมะลินั้นเป็นช่วงของปลายฤดูกาล จึงทำให้มีการปรับตัวที่รวดเร็วไปนิดหนึ่ง เป็นผลทำให้ราคาขยับขึ้น' นายสมฤกษ์ กล่าว

สำหรับแนวโน้มของรายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง มีโอกาสที่จะเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก เพราะพิจารณาจากช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาก็เริ่มส่งสัญญาณในเชิงบวกมากขึ้น ประกอบกับส่วนหนึ่งได้รับผลบวกจากราคาข้าวที่ปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงได้รับอานิสงค์จากความต้องการข้าวในต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น โดยล่าสุดพบว่าราคาข้าวในสหรัฐฯ ขยับเพิ่มขึ้นภายหลังจากข้าวขาดแคลน ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เหรียญฯ ขณะที่บริษัทฯ มีสัดส่วนในการส่งออกไปยังต่างประเทศกว่า 60% และลูกค้าส่วนใหญ่ที่ส่งสินค้าให้ค่อนข้างที่จะเป็นลูกค้าที่ดีและมีการจ่ายเงินในส่งสินค้าอย่างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีการป้องกันความเสี่ยงโดยการเลือกลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ หากจะส่งสินค้าจะมีการทำสัญญาในลักษณะการจ่ายเงินแบบเงินสด

อย่างไรก็ตามแม้บรรยากาศการลงทุนช่วงนี้ เรียกได้ว่าเริ่มฟื้นดี แต่ก็ต้องยอมรับว่าปัญหาไข้หวัด 2009 ก็ส่งผลกระทบทางอ้อมต่อบริษัทเช่นกัน โดยเฉพาะกระทบต่อลูกค้าในกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร แต่ก็ถือว่าไม่หนักหนาสาหัสนัก

***บล.คันทรี่ กรุ๊ป แนะเล่นสั้น

นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป กล่าวว่า ราคาหุ้น KASET ปรับตัวสูงขึ้นและมีวอลุ่มเทรดเข้ามาอย่างคึกคักช่วงนี้ คาดว่าจะเป็นการเข้ามาเล่นเก็งกำไรของนักลงทุน ภายหลังจากที่มีการเก็งกันว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์น่าจะขยับขึ้นตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนประเด็นข่าวแนวโน้มราคาจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นนั้น ก็ถือได้ว่าเป็นแรงเสริมได้ส่วนหนึ่ง ทั้งนี้ ช่วงสั้นนักลงทุนสามารถเข้ามาเก็งกำไรได้ ตามกรอบแนวต้าน 4.20 บาท แนวรับ 3.90 บาท


0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4