25 มิถุนายน 2552

ขึ้นแรง ขายทำกำไรบ้าง รอดูการเมือง

ขึ้นแรง ขายทำกำไรบ้าง รอดูการเมือง

คาดว่าตลาดหุ้นวันนี้ ยังคงมีแนวโน้มผันผวน ขึ้นอยู่กับทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ และราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า

สภาพตลาดวันวาน :
ภาคเช้าแม้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าจะดีดกลับเกือบ 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ความกังวลต่อทิศทางของเศรษฐกิจโลก และทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐฯ รวมทั้งการเริ่มขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ ยังกดดันให้นักลงทุนทั่วไปค่อนข้างระมัดระวังในการเก็งกำไร ทำให้ดัชนีแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบระหว่าง 568-575 จุด โดยมีบางช่วงที่ดัชนีลดลงจากวันก่อนบ้าง อย่างไรการฟื้นตัวดีขึ้นของตลาดหุ้นในภูมิภาค ช่วยหนุนให้มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มหลัก พยุงให้ดัชนีสามารถแกว่งตัวเพิ่มขึ้นตลอด 2 ชั่วโมงหลังของภาคเช้า และปิดที่บริเวณ 574 จุด เพิ่มขึ้นกว่า 4 จุด (+0.7%) โดยมีปริมาณซื้อขายชะลอตัวลง

ภาคบ่าย : การซื้อขายยังคงเป็นไปอย่างระมัดระวัง โดยในช่วง 45 นาทีแรกดัชนียังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 573-575 จุด จากนั้นมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มหลักนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร จากการฟื้นตัวขึ้นของตลาดหุ้นในภูมิภาคและการเพิ่มขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าและตลาดหุ้นยุโรปช่วงเช้า ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนไปทำจุดสูงสุดที่บริเวณ 583 จุด ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาปิดตลาดที่ 581.43 จุด เพิ่มขึ้น 11.58 จุด (+2.03%) โดยมีปริมาณซื้อขายทรงตัวที่ 1.67 หมื่นล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่อง

แนวโน้มตลาด : ขึ้นอยู่กับผลกระทบจากปัจจัยสำคัญ ต่อไปนี้

1. ทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ ความไม่แน่ใจต่อทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากธนาคารโลกปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้ลงจาก -1.7% เป็น -2.9% ทำให้นักลงทุนทั่วโลกเริ่มปรับกลยุทธ์การลงทุนใหม่ เน้นการขายทำกำไรเร็วขึ้น และระมัดระวังตัวมากขึ้น โดยให้น้ำหนักกับปัจจัยด้านมหภาคมากขึ้น ทิศทางของตลาดหุ้นแกนนำ คือตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงมีแนวโน้มผันผวนในกรอบแคบ เพื่อรอดูสัญญาณแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น จากผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้ ว่าจะมีแนวโน้มบวกหรือลบเพิ่มเติมจากข้อมูลเศรษฐกิจก่อนหน้านั้นบ้างหรือไม่ หลังจากผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ ณ สัปดาห์ล่าสุด มีแนวโน้มลดลงจนใกล้เคียงระดับต่ำสุด

2. ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า ความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และปริมาณสต็อกน้ำมันของสหรัฐจะเป็นปัจจัยชี้นำต่อราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าในระยะสั้น ซึ่งหลังจากดีดขึ้นเกือบ 2 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ผลจากการอ่อนค่าลงของดอลลาร์สหรัฐ ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. 52 มีแนวโน้มลดลงบ้าง หากข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงน้อยกว่าที่คาด ในขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้า จะเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า เนื่องจากสะท้อนให้เห็นว่าอุปสงค์การใช้น้ำมันของชาวสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานในระยะสั้น จึงยังคงมีแนวโน้มผันผวนเช่นเดิม

3. การปรับพอร์ตการลงทุนก่อนสิ้นไตรมาส สัปดาห์หน้าจะเป็นสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาส 2/52 ซึ่งคาดว่าช่วงปลายสัปดาห์นี้เป็นต้นไป นักลงทุนบางกลุ่ม โดยเฉพาะนักลงทุนประเภทสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ คงจะมีการปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อรองรับการเปิดเผยผลประกอบการ หรือสถานะ ณ สิ้นไตรมาส 2

ในขณะที่การนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม นปช. ในวันเสาร์นี้จะมีการเรียกร้องให้มีการยุบสภา และแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 รวมทั้งอดีตนายกรัฐมนตรีจะโฟนอินเข้ามาวิจารณ์ความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ด้วย ซึ่งคงจะสร้างความกังวลต่อนักลงทุนบางกลุ่มมากขึ้น และอาจมีแรงขายทำกำไรออกมามากขึ้น

จากปัจจัยข้างต้น คาดว่าตลาดหุ้นวันนี้ ยังคงมีแนวโน้มผันผวน ขึ้นอยู่กับทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ และราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า รวมทั้งการปรับพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวภายในกรอบแนวรับ 573-575 จุด กับแนวต้าน 587-590 จุด

นักลงทุนระยะสั้น - ขายทำกำไรบ้าง ช่วงดัชนีเข้าใกล้แนวต้าน รอซื้อคืนเมื่อราคาอ่อนตัว
นักลงทุนระยะยาว - ถือต่อ รอดูสถานการณ์อีกสักระยะ

ที่มา:บล.ยูโอบีเคย์เฮียน
โดย : โกสินทร์ ศรีไพบูลย์



0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4