19 พฤษภาคม 2552

ดาวโจนส์ปิดเพิ่มกว่า 235 จุด

หุ้นอสังหาฯ ดันดาวโจนส์ปิดเพิ่มกว่า 235 จุด

นิวยอร์ก 19 พ.ค.-ผลประกอบการน่าพอใจของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์
ช่วยให้ดัชนีหุ้นสหรัฐเพิ่มขึ้นกว่า 235 จุด

ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีพุ่งขึ้นหลังนักลงทุนพอใจรายงานผลประกอบการ
ไตรมาสแรกของโลเว คอส เครือบริษัทพัฒนาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ ที่ออกมาเป็นไปตามเป้า
ทำให้เชื่อว่าสถานการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์น่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ในเร็ว ๆ นี้

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.42 พันล้านหุ้น
มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2,722 ต่อ 361
ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.02 พันล้านหุ้น

เจมส์ ค็อกซ์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Harris Financial Group กล่าวว่า
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท โลว์ส คอส
และหลังจากนายจอห์น ลิพสกี้ รองผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะเริ่มขยายตัวขึ้นในปีหน้า
แต่คาดว่าจะเป็นการขยายตัวในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป
ซึ่งดีกว่าการถดถอยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ผลประกอบการที่สดใสของโลว์ส คอส ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านดีดตัวขึ้น
และแรงซื้อส่งเข้าหนุนตลาดหนาแน่นขึ้นเมื่อสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งสหรัฐ
รายงานว่า ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง
ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นในการซื้อบ้าน
ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีห้นกลุ่มสร้างบ้านพุ่งขึ้น 7.4%
และหุ้นโลว์ส คอส ปิดบวก 6.6%
หุ้นเบเซอร์ โฮมส์ ยูเอสเอ ปิดบวก 20%
และหุ้นเลนนาร์ คอร์ป พุ่งขึ้น 13.7%

สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นของผู้สร้างบ้านในสหรัฐ
พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนในเดือนพ.ค. ซึ่งสนับสนุนมุมมองที่ว่าภาวะตกต่ำของ
ตลาดบ้านที่ดำเนินมา 3 ปีอาจใกล้สิ้นสุดลง
โดยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยของ NAHB/เวลส์ ฟาร์โก พุ่งขึ้นสู่ระดับ 16จุด ในเดือนพ.ค.
จากระดับ 14 จุด ในเดือนเม.ย. ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าตลาดการเงินจะฟื้นตัวขึ้นเร็วๆนี้
โดยหุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ปิดพุ่ง 9.9%
หุ้นสเตท สตรีท ปิดบวก 8.5%

ดัชนี S&P หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 3.1% โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ปิดบวก 2%
หุ้นโคโนโคฟิลลิป ปิดบวก 3.6%
หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX พุ่ง 2.69 ดอลลาร์ หรือ 4.8%
แตะที่ 59.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.เป็นต้นมา

ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์พุ่งขึ้น 3.7%
หลังจากนักวิเคราะห์แสดงความคิดเห็นในด้านบวกต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์
โดยหุ้นควอลคอมม์ อิงค์ ปิดบวก 3.1%
และหุ้นไอบีเอ็มปิดบวก 3.2%

ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.69 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ระดับ 59.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 8,504.08 จุด เพิ่มขึ้น 235.44 จุด หรือ 2.85%
ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 1,732.36 จุด เพิ่มขึ้น 52.22 จุด หรือ 3.11%
ดัชนีเอสแอนด์พี ปิดที่ 909.71 จุด เพิ่มขึ้น 26.83 จุด หรือ 3.04%

ด้านตลาดหุ้นสำคัญของยุโรป
ดัชนี FTSE 100 ตลาดลอนดอน ปิดที่ 4,446.45 จุด เพิ่มขึ้น 98.34 จุด หรือ 2.26%
ดัชนี DAX ตลาดแฟรงก์เฟิร์ต ปิดที่ 4,851.96 จุด ปรับขึ้น 114.46 จุด หรือ 2.42%
และดัชนี CAC 40 ตลาดปารีส ปิดที่ 3,245.39 จุด เพิ่มขึ้น 76.34 จุด หรือ 2.41%

ส่วนราคาน้ำมันดิบแหล่งเบรนต์ ตลาดลอนดอน
ปิดที่ 58.47 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.47 ดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก
ปิดที่ 921.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ลดลง 9.60 ดอลลาร์สหรัฐ
จากราคาปิดเมื่อวันศุกร์ ที่ 930.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4