08 เมษายน 2552

ถือเงินสด รอดู

ถือเงินสด รอดูสถานการณ์การเมือง


สภาพตลาดวันวาน
:
ภาคเช้าการปรับฐานของตลาดหุ้นต่างประเทศและราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า รวมทั้งความกังวลต่อแนวโน้มวุ่นวายของการเมืองในประเทศ กดดันให้มีแรงขายหุ้นกลุ่มหลักออกมาบ้าง โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน และหุ้น ADVANC ส่งผลให้ดัชนีลดลงจากวันศุกร์บ้าง โดยลดลงไปต่ำสุดที่ระดับ 441.50 จุด (-1%) จากนั้นจึงมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร และหุ้น BANPU ซึ่งจะทยอยขึ้นเครื่องหมาย XD ในสัปดาห์นี้เข้ามาเป็นระยะ ๆ หนุนให้ดัชนีกระเตื้องขึ้นบ้าง จนขึ้นไปสูงสุดที่บริเวณ 445.79 จุด (-0.25 จุด) ก่อนที่จะปิดตลาดภาคเช้าที่ 445.06 จุด ลดลงเกือบ 1 จุด โดยมีปริมาณซื้อขายลดลงบ้าง


ภาคบ่าย : แรงซื้อเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มธนาคารและ SCC จากแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 1/52 ที่คาดว่าจะออกมาดี ส่งผลให้ดัชนีแกว่งขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 450 จุด ต่อมามีแรงขายทำกำไรจากความกังวลจากสถานการณ์การเมืองในประเทศจะวุ่นวายมาก ขึ้น หลังจากมีกลุ่มเสื้อแดงพยายามจะทำร้ายนายกรัฐมนตรี หลังจากการประชุม ครม. ที่พัทยา ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลดลงจนมาปิดตลาดที่ 442.56 จุด ลดลง 3.48 จุด (-0.78%) โดยมีปริมาณการซื้อขายลดลงเป็น 1.3 หมื่นล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิติดต่อกันเป็นวันที่ 3 อีก 1,332 ล้านบาท

แนวโน้มตลาด : ขึ้นอยู่กับผลกระทบจากปัจจัยสำคัญ ต่อไปนี้

1. สถานการณ์การเมืองในประเทศ การนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม นปช. ในวันนี้ คงเป็นปัจจัยหลักที่จะกดดันบรรยากาศการลงทุนในช่วงนี้ แม้มีแนวโน้มจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรง เนื่องจากทางการคาดว่าจะมีผู้ร่วมชุมนุมประมาณ 3-4 หมื่นคน เนื่องจากระยะนี้มีฝนฟ้าคะนองเกือบทุกวัน และเข้าใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ผู้เข้าร่วมชุมนุมจึงอาจน้อยกว่าที่ทางแกนนำประเมินไว้ รวมทั้งเป็นผลจากการพยายามชี้แจงข้อมูลของฝ่ายรัฐบาล ที่เน้นการไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา และต้องการสร้างบรรยากาศที่ดีขึ้น ก่อนการประชุม Asian +3 ปลายสัปดาห์นี้ การชุมนุมในสัปดาห์นี้ จึงไม่น่ากังวลเท่าที่การนัดชุมนุมอีกครั้ง หลังจากผ่านเทศกาลสงกรานต์ไปแล้ว อย่างไรก็ดีบรรยากาศอึมครึมทางการเมือง อาจทำให้นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุน ออกไปอีกสักระยะ รวมทั้งรอดูผลการประชุมของ กนง. ในบ่ายวันนี้ ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกเท่าใด

2. ทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ ความผันผวนของตลาดหุ้นต่างประเทศ จะมีส่วนสร้างความผันผวนต่อตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้เช่นกัน ความกังวลต่อปัญหาของภาคธนาคารของสหรัฐฯ ได้กลับมากดดันทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดแกนนำอีกครั้ง จากคำเตือนของนักวิเคราะห์กลุ่มธนาคาร รวมทั้งคำเตือนของนายจอร์จ โซรอส ต่อแนวโน้มการชะลอตัวอย่างยืดเยื้อของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผลจากการใช้เงินจำนวนมหาศาลในการฟื้นฟูภาคธนาคาร อาจทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีการแกว่งตัวปรับฐานในระยะสั้นบ้าง รวมทั้งการรอดูตัวเลขประมาณการผลการดำเนินงานไตรมาส 1/52 ของกลุ่มธนาคารว่าจะออกมาดีขึ้นหรือไม่

3. ความผันผวนราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า ความไม่แน่ใจต่อทิศทางของตลาดหุ้นและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีส่วนทำให้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า มีแนวโน้มผันผวนบ้างในระยะสั้น โดยนักลงทุนเริ่มไม่แน่ใจต่อภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ว่าจะเริ่มกระเตื้องขึ้นในไตรมาส 3/52 ตามที่เคยคาดการณ์กันไว้จริงหรือไม่ หลังจากมีการเตือนถึงเสถียรภาพของกลุ่มธนาคาร และเศรษฐกิจโดยรวมในช่วงไตรมาส 2/52 ถึงครึ่งปีหลัง ในขณะที่คาดว่าแนวโน้มการลดลงต่อเนื่องของปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาจะยิ่งเพิ่มความกังวลต่อแนวโน้มการลดลงของอุปสงค์การใช้ น้ำมัน ซึ่งจะกดดันต่อทิศทางของราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าบ้าง

จากปัจจัยข้างต้น คาดว่าตลาดหุ้นวันนี้ ยังคงมีแนวโน้มผันผวน ขึ้นอยู่กับ Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติว่าจะยังคงซื้อหุ้นพื้นฐานดีต่อเนื่องหรือไม่ รวมทั้งสถานการณ์การเมืองในประเทศว่าจะมีแนวโน้มวุ่นวาย หรือบานปลายมากน้อยแค่ไหน คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวภายในกรอบแนวรับ 435-437 จุด กับแนวต้าน 445-447 จุด

นักลงทุนระยะสั้น - ทยอยขายบ้าง เมื่อดัชนีเข้าใกล้แนวต้าน รอซื้อคืนปลายสัปดาห์
นักลงทุนระยะยาว - ถือเงินสด หรือ Short Against Port บ้าง หากดัชนีไม่ผ่านแนวต้าน
โกสินทร์ ศรีไพบูลย์


0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4