08 เมษายน 2552

ม็อบรุนแรงหุ้นหลุด 400

โบรกฯเตือนม็อบรุนแรงหุ้นหลุด 400


นักวิเคราะห์หวั่นม็อบเดือด หลังวอร์รูมพรรคประชาธิปัตย์ ประเมินร่วมชุมนุมนับ 1 แสน เตือนรัฐบาลระวัง การจลาจล-วางเพลิงระบุหากเกิดเหตุการณ์รุนแรงตลาดหุ้นมีสิทธิหลุด 400

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นวานนี้ (7 เม.ย.) ดัชนีแกว่งตัวผันผวนทั้งลบและบวก โดยระหว่างวันดัชนีทะยานขึ้นสูงสุดที่ 449.68 จุด ลดลงต่ำสุดที่ 441.50 จุด จนมาปิดตลาดที่ 442.56 จุด ลดลง 3.48 จุด หรือ 0.78% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 13,353.16 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1.32 พันล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 351 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 980 ล้านบาท

ทั้งนี้หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดคือหุ้น ธนาคารกสิกรไทยหรือ (KBANK) ปิดที่ 50 บาท บวก 1.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1.17 พันล้านบาท ตามด้วยหุ้น ปตท.(PTT) ปิดที่ 160 บาท ลดลง 2 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1.14 พันล้านบาท หุ้น ปตท.สผ.(PTTEP) ปิดที่ 96.50 บาท ลดลง 3 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 961 ล้านบาท หุ้นบ้านปู (BANPU) ปิดที่ 222 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 871 ล้านบาท และหุ้นบริษัทแอ๊ดวานซ์ (ADVANC) ปิดที่ 79.75 บาทลดลง 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 768.85 ล้านบาท

นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผอ.อาวุโส บล. ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน โดยช่วงเช้าเปิดลบตามแนวโน้มตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับฐาน และราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าที่ลดลง บวกกับความกังวลเรื่องการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ขณะเดียวกันก็มีแรงซื้อหุ้นพื้นฐานดี เช่น กลุ่มธนาคาร และบ้านปู เนื่องจากจะขึ้นเครื่องหมายผู้ถือหุ้นไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผล (เอ็กซ์ดี) ในวันที่ 8 เม.ย.นี้ รวมถึงการมีคำสั่งซื้อขายที่ค้างจากวานก่อน ซึ่งเมื่อปรับตัวเพิ่มขึ้นจึงเจอแรงเทขายทำกำไรออกมาในช่วงบ่าย

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (8 เม.ย.) มองว่า ดัชนียังแกว่งตัวผันผวน ซึ่งต้องติดตามการชุมนุม ว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่ รวมทั้งแนวโน้มตลาดหุ้นตลาดประเทศที่ยังปรับฐานอยู่ ประเมินแนวรับที่ 438-440 จุด และแนวต้าน 448-450 จุด ด้านกลยุทธ์การลงทุน เมื่อดัชนีขึ้นใกล้แนวต้าน ควรเทขายทำกำไร เนื่องจากปลายสัปดาห์อาจเจอแรงเทขายทำกำไร จากวันหยุดยาวและตลาดหุ้นปรับฐาน

นายวรุฒม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันซ่า กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ค่อนข้างผันผวน โดยดัชนีฯเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่จากความกังวลหลักในประเด็นการเมือง ที่จะมีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ในวันนี้ (8 เม.ย.) ซึ่งสุ่มเสี่ยงจะเกิดเหตุรุนแรงถึงขั้นนองเลือดจากท่าทีของแกนนำที่ปลุกระดม ให้เกิดความแตกหัก และเร่งเร้าให้เกิดการรวมตัวของกลุ่มผู้สนับสนุนในแต่ละจังหวัดให้แสดงพลัง ขึ้นมากดดันรัฐบาล

นอกจากนี้ยังถูกซ้ำเติมจากปัจจัยลบต่างประเทศ ที่นักวิเคราะห์ชื่อดังของ บล.แคลยอน ระบุว่า ภาคธนาคารยังคงได้รับผลกระทบจากการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงที่มากเกินไป และเตือนว่า ยอดหนี้เสียจะเพิ่มสูงขึ้นก่อนสิ้นปี 2010

อย่างไรก็ตาม แรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มธนาคารฯและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ก่อนการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่คาดการณ์ว่าจะมีมติลดดอกเบี้ย ผลักดันให้ดัชนีฯยืนในแดนบวกได้ในระหว่างการซื้อขาย

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นวานนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช.ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เข้ามามีอิทธิพลกับการเคลื่อนไหวของดัชนีสูงสุด ในช่วงนี้

โดยล่าสุดคณะทำงานปฏิบัติการทางการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ (วอร์รูม) ประเมินการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 8 เม.ย.ว่า จะผู้มาร่วมชุมนุมประมาณ 1 แสนคน โดยสิ่งที่รัฐบาลต้องระมัดระวัง คือ การก่อการจลาจล การปิดการจราจร และการวางเพลิง เพื่อนำไปสู่การรุนแรง พร้อมทั้งหวั่นเกรงว่าจะมีม็อบชนม็อบ คือ"กลุ่มคนรักป๋าเปรม"จะมาชุมนุมปะทะกับกลุ่มคนเสื้อแดง เจ้าหน้าที่ปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม และการสร้างสถานการณ์ต่างๆ และหากรัฐบาลตัดสินใจใช้กำลังสลายการชุมนุมพร้อมจับแกนนำหรือประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อความเชื่อมั่นการลงทุน ทำให้นักลงทุนต่างชาติโยกเงินออกจากตลาดหุ้นไทยยาว และฉุดให้ดัชนีดิ่งลงหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 400 จุด

0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4