25 มีนาคม 2552

ปัจจัยการเมือง อาจรบกวนบรรยากาศการลงทุน

ปัจจัยการเมือง อาจรบกวนบรรยากาศการลงทุน

โดย : โกสินทร์ ศรีไพบูลย์ บล.ยูโอบีเคย์เฮียน

คาดว่าตลาดหุ้นวันนี้ จะผันผวนในกรอบแคบ ขึ้นอยู่กับทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ และความกังวลต่อแนวโน้มความวุ่นวายของสถานการณ์การเมืองในประเทศ

สภาพตลาดวันวาน : ภาคเช้าการดีดขึ้นค่อนข้างแรงของตลาดหุ้นสหรัฐ และการแกว่งขึ้นต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า ช่วยหนุนให้มีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มหลักๆ เข้ามาต่อเนื่องจากวันก่อน ส่งผลให้ดัชนีเปิดเพิ่มขึ้นจากวันก่อนเกือบ 4 จุด โดยขึ้นไปสูง สุดที่บริเวณ 443 จุด (+1.1%) ภายใน 5 นาทีแรก จากนั้นจึงมีแรงขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่อง จากความกังวลในประเด็นการเมือง ซึ่งกลุ่ม นปช. นัดชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง ในวันที่ 26 มี.ค. รวมทั้งความกังวลต่อปัจจัยเศรษฐกิจซึ่งยังคงชะลอตัวลง ส่งผลให้ดัชนีอ่อนตัวลงมาบ้าง โดยลงไปต่ำสุดที่ระดับ 436.70 จุด (-0.3%) ก่อนที่จะมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มหลัก ในช่วงชั่วโมงสุดท้าย หนุนให้ดัชนีกระเตื้องขึ้น และปิดภาคเช้าที่ 439.92 จุด เพิ่มขึ้น 1.75 จุด โดยมีปริมาณซื้อขายหนาแน่นขึ้น

ภาคบ่าย : การปรับตัวลงของดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้า ประกอบกับแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มสื่อสาร จากความกังวลว่ารัฐบาลจะกลับมาเก็บภาษีสรรพสามิตผู้ประกอบการโทรคมนาคม ในขณะที่มีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มธนาคาร หลังจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาของภาคธนาคารสหรัฐ ผ่อนคลายลง ส่งผลให้ดัชนีผันผวนในกรอบแคบระหว่าง 439-441 จุด เกือบตลอดภาคบ่าย ก่อนที่จะมีแรงขายทำกำไรในช่วง CALL MARKET กดดันให้ดัชนีลดลงมาปิดตลาดที่ 438.16 จุด ลดลงเพียง 0.01 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขายลดลงเป็น 1.3 หมื่นล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 อีก 1,300 ล้านบาท

แนวโน้มตลาด : ขึ้นอยู่กับผลกระทบจากปัจจัยสำคัญ ต่อไปนี้
1. ความผันผวนของตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐ ได้ดีดตัวขึ้นตอบรับข่าวการออกมาตรการช่วยเหลือภาคธนาคารทั้งจากธนาคารกลาง และกระทรวงการคลังสหรัฐ มาอย่างต่อเนื่องร่วม 2 สัปดาห์แล้ว แรงหนุนจากปัจจัยดังกล่าวอาจจะเริ่มอ่อนแรงลงบ้าง เนื่องจากมาตรการช่วยเหลือทั้งหลาย ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเริ่มดำเนินการได้จริงเมื่อใด เป็นจำนวนเงินเท่าใด และที่สำคัญก็คือปัญหาของภาคธนาคารของสหรัฐ จะหมดสิ้นแท้จริงหรือไม่ ในขณะที่ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงได้รับการช่วยเหลือมากน้อยเพียงใด และทันเวลาหรือไม่ ในระยะสั้น คาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐ จะมีความผันผวนมากขึ้น จากการขายทำกำไรระยะสั้น และจากแรงกดดันของข้อมูลเศรษฐกิจที่จะทยอยประกาศในสัปดาห์นี้

2. ปัจจัยภายในประเทศ ในขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจยังค่อนข้างน่ากังวลเช่นเดิม เนื่องจากต้องรอลุ้นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ โดยเฉพาะการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่กลุ่มมีรายได้น้อย จะช่วยเพิ่มปริมาณการบริโภคได้มากน้อยเพียงไหน ความกังวลต่อปัจจัยการเมืองจะเริ่มทวีกดดันต่อบรรยากาศการลงทุนในช่วงนี้มาก ขึ้น โดยเฉพาะจากประเด็นการนัดชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลของกลุ่ม นปช. ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. เป็นต้นไป เนื่องจากยังไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าสถานการณ์การเมืองจะวุ่นวายมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งจะยืดเยื้อ บานปลายหรือไม่เพียงใด ซึ่งอาจกดดันให้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยออกเหมือนผลจากการชุมนุมในปี 2551 ที่ผ่านมา

3. ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า ผลจากความชัดเจนของแนวทางการแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของภาคธนาคาร สหรัฐ รวมทั้งการอ่อนค่าลงต่อเนื่องของเงินดอลลาร์สหรัฐ ช่วยหนุนให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. แกว่งขึ้นไปอยู่เหนือระดับ 53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่งผลให้ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานยังคงแกว่งขึ้นได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าอาจมีแนวโน้มอ่อนตัวลงในระยะสั้น หากปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามคาด ซึ่งก็จะสร้างความผันผวนต่อราคาหุ้นกลุ่มพลังงานบ้าง

จากปัจจัยข้างต้น คาดว่าตลาดหุ้นวันนี้ จะผันผวนในกรอบแคบ ขึ้นอยู่กับทิศทางของตลาดหุ้นต่าง ประเทศ และความกังวลต่อแนวโน้มความวุ่นวายของสถานการณ์การเมืองในประเทศ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนลง คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวระหว่างกรอบแนวรับ 430-432 จุด กับแนวต้าน 443-445 จุด โดยมีปริมาณซื้อขายลดลง

นักลงทุนระยะสั้น : ทยอยลดพอร์ตลง ช่วงดัชนีแกว่งเข้าใกล้แนวต้าน รอซื้อคืนสัปดาห์หน้า
นักลงทุนระยะยาว : ถือเงินสด หรือทยอย SHORT AGAINST PORT หากดัชนีไม่อาจผ่านแนวต้าน


ที่มา:บล.ยูโอบีเคย์เฮียนฯ

0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4