25 มีนาคม 2552

เอกชนออกหุ้นกู้ล็อกต้นทุนต่ำ

แนะเอกชนออกหุ้นกู้ล็อกต้นทุนต่ำ ชี้ความต้องการซื้อเพียบ-รับยีลด์บอนด์ระยะยาวขึ้น


สมาคม ตลาดตราสารหนี้ชี้ผลตอบแทนบอนด์ระยะยาวลดแค่ระยะสั้น เทรนด์ยังปรับขึ้นได้อีกจากแรงกู้ภาครัฐ ด้านเอกชนเตรียมออกหุ้นกู้อีก 8 หมื่นล้าน คาดทะลุเป้าทั้งปี 2.2 แสนล้าน แนะเอกชนฉวยโอกาสระดมทุนก่อนดอกเบี้ยขึ้นตามเงินเฟ้อ หลังรัฐบาลอัดมาตรการกระตุ้นขณะตลาดยังมีความต้องการซื้อเพียบ


นาย ณัฐพล ชวลิตชีวิน กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่า ระยะนี้อัตราผลตอบแทน (ยีลด์) พันธบัตรรัฐบาลระยะยาวเริ่มปรับตัวลดลง เป็นผลของการปรับสู่ระดับที่เหมาะสม จากที่ได้ปรับตัวขึ้นในช่วงกลางเดือน ก.พ.เป็นต้นมาตามการคาดการณ์ของนักลงทุนที่คาดว่าดอกเบี้ยอาจจะปรับตัวขึ้น ตามเงินเฟ้อที่จะเพิ่ม หลังจากรัฐบาลอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมีการทิ้งพันธบัตรระยะยาวและเข้า ซื้อระยะสั้นเป็นจำนวนมาก



โดย นางสาวอริยา ติรณะประกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สมาคมตราสารหนี้ไทยระบุว่า หลังจากรัฐบาลสหรัฐได้ประกาศ เข้าซื้อตราสารการเงินในตลาดมูลค่ากว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะ 5-10 ปี ลดลงอย่างมาก 0.20-0.30% จึงส่งผลมายังผลตอบแทนในประเทศไทยให้ลดลงแรงด้วย

โดยในวันที่ 19 มี.ค.เพียงวันเดียวพันธบัตรระยะ 10 ปี ลดลง 0.20% ส่วนอายุ 5 ปี ลดลง 0.09-0.10% ทำให้ ณ สิ้นวันอัตราผลตอบแทนลดลงเหลือ 3.95% และ 2.63% ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการลดลงจะเกิดขึ้นระยะสั้นตามข่าวที่ออกมา แต่ในระยะยาวหากพิจารณาจากปัจจัยในประเทศที่จะมีพันธบัตรออกมาตามความต้อง การกู้ของรัฐบาลอีกจำนวนมาก ผลตอบแทนพันธบัตรระยะกลางถึงระยะยาวจึงยังอยู่ในเทรนด์ที่จะสูงขึ้น

" แนวโน้มยีลด์จะกลับมาสูงขึ้นได้อีก เพราะรัฐบาลมีแผนที่จะกู้อีกจำนวนมาก และถ้าแบงก์ชาติสิ้นสุดการลดดอกเบี้ยก็ต้องติดตามผลการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ อาจส่งผลต่อเงินเฟ้อและดอกเบี้ยในตลาดให้สูงขึ้น"

นางสาวอริยา กล่าวว่า การที่รัฐบาลทุกประเทศใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้เกิดความไม่แน่นอน เรื่องเงินเฟ้อ ดังนั้น ภาคเอกชนที่ต้องการระดมทุนควรใช้ช่วงนี้ที่เงินเฟ้อและดอกเบี้ยยังต่ำเป็น โอกาสในการออกหุ้นกู้เพื่อล็อกต้นทุน และขณะนี้ก็มีความต้องการซื้อหุ้นกู้สูงขึ้น เนื่องจาก ผลตอบแทนจากการลงทุนประเภทอื่น ค่อนข้างต่ำ

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีมีเอกชนออกหุ้นกู้แล้ว กว่า 7.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 7 เท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และยังมีการแจ้งความประสงค์จะออกอีก 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากแนวโน้มการออกยังต่อเนื่องและในปริมาณมากเหมือนต้นปี อาจทำให้ภาคเอกชนออกหุ้นกู้สูงกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ปีนี้ที่ 2.2 แสนล้านบาท แต่ต้องติดตามสถานการณ์ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจจะมีความพลิกผันอีกหรือไม่

นาย พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า จากที่รัฐบาลจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมอีก 1 แสนล้านบาท สบน.จึงปรับเพิ่มการกู้ยืมของรัฐบาลประจำปีงบประมาณ 2552 จาก 435,690 ล้านบาท เป็น 535,690 ล้านบาท ประกอบกับดอกเบี้ยทั่วโลกและไทยลดลงจึงมีการปรับแผนการออกพันธบัตร

โดย เพิ่มการออกพันธบัตรระยะสั้นอายุ 2 ปี วงเงิน 7.8 หมื่นล้านบาท ลดการออกพันธบัตรอายุ 30 ปี ทั้ง 4 พันล้านบาท ลดการออกพันธบัตรออมทรัพย์จาก 6 หมื่นล้านบาท เหลือ 1 หมื่นล้านบาท และเพิ่มวงเงินคงค้างตั๋วเงินคลังเป็น 9.9 หมื่นล้านบาท

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ

0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4