30 มีนาคม 2552

กลยุทธ์การลงทุน (30/3/52)

กลยุทธ์การลงทุน (30/3/52)

อาจพักฐาน..ภาพระยะสั้นยังแกว่งตัวในกรอบ

ภาวะ ตลาดวานนี้ SET แกว่งตัวแคบตลอดทั้งวัน ความไม่แน่นอนทางการเมือง จากการชุมนุมของกลุ่ม “เสื้อแดง” และการเทขายทำกำไรในตลาดหุ้นภูมิภาค จำกัดการเคลื่อนไหว แต่ด้วยแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน และธนาคาร ช่วยหนุนให้ SET เพิ่มขึ้น 1.41 จุด ปิดที่ 440.81 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6 พันล้านบาท

ภาวะตลาดวันนี้ SET มีโอกาสพักฐานเช่นเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังดีดตัวแรงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดยังรอข่าวบวกจากต่างประเทศ หากการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่ม “เสื้อแดง” ไม่พัฒนาไปในแนวทางที่รุนแรง (เราคาดว่าจะไม่ยืดเยื้อ เพราะจะมีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวันในช่วงต้นเดือน เม.ย.) SET ก็จะไม่ปรับตัวลงแรง (แนวรับ 435 และ 425 จุดตามลำดับ)

ระยะสั้น คาดว่า SET ยังคงแกว่งตัวในกรอบ 425 – 450 จุด เอื้อต่อการเก็งกำไร (ขึ้นขายลงซื้อ) โดยยังเน้นการลงทุนในหุ้นกลุ่มหลัก อาทิ พลังงาน (อานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ยังยืนเหนือ 50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และแนวโน้มการพลิกฟื้นกำไร แนะนำ BCP) ธนาคาร (SCB, BBL)

เก็บเอามาเล่า

SET ปรับเสปรดซื้อขายใหม่เริ่มวันนี้ SET ปรับช่วงราคาซื้อขาย (price spread) ใหม่ โดยลดระดับจากเดิม 10 ระดับ เหลือเพียง 8 ระดับ โดยปรับระดับความกว้างของช่วงราคาจากเดิม 0.48-0.97% เป็น 0.34-0.79% ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มโอกาสในการซื้อขาย โดยเฉพาะในหุ้นขนาดใหญ่มากขึ้น ดีต่อธุรกิจหลักทรัพย์ แนะนำ KEST และเก็งกำไร BSEC

BAY ปรับลดมูลค่าพื้นฐาน 17% ในการพูดคุยกับผู้บริหาร BAY ล่าสุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เราปรับลดประมาณการกำไรในปี 52 – 53 ลง 16% และ 25% ตามลำดับ หลังปรับลดคาดการณ์รายได้ และปรับเพิ่มต้นทุนการปล่อยสินเชื่อ และได้มูลค่าพื้นฐานใหม่ที่ 9.20 บาท (อ้างอิง PBV 0.6 เท่าปี 52) ลดลงจากเดิม 17% สูงกว่าราคาตลาดราว 3% ในภาวะที่เศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน เราชอบธนาคารขนาดใหญ่อย่าง SCB หรือ BBL มากกว่า เพราะเชื่อว่าจะสามารถรองรับความผันผวนได้ดีกว่า

ประเด็นสำคัญ

ตลาด หุ้นสหรัฐร่วงจากความกังวล ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 148.38 จุด (-1.87% จุดปิดที่ 7,776.18 จุด) ไม่มั่นใจความสามารถในการทำกำไรกลุ่มธนาคาร อีกทั้งตลาดก็ปรับขึ้นมาแล้วกว่า 17% ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

  • สหรัฐ: ประธานาธิบดีโอบามาประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของธนาคารขนาดใหญ่ (อาทิ เจพี มอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป, แบงก์ ออฟ อเมริกา และอื่นๆ) เกี่ยวกับวิกฤติทางการเงิน โดยผู้บริหารธนาคารยอมรับแผนการซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากธนาคาร และยังมีการถกเถียงแผนปฏิรูประบบสถาบันการเงินด้วย อย่างไรก็ดี ผู้บริหารของเจพี มอร์แกน และแบงก์ ออฟ อเมริกา ยอมรับว่า ธุรกิจในเดือน มี.ค. ถดถอยเมื่อเทียบกับ 2 เดือนแรกของปี
  • สหรัฐ: หนังสือพิมพ์ วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่ารัฐบาลอาจขยายเวลาในการช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ออกไปจากกำหนด เส้นตายเดิมวันที่ 31 มี.ค. ไปอีก 30 วัน เพื่อให้อุตสาหกรรมรถยนต์มีเวลาคุยกับสหภาพแรงงานในการปรับปรุงเรื่อง สวัสดิการ และอื่นๆ เพื่อให้เป็นที่พึงพอใจแก่ประชาชนผู้เสียภาษี เป็นผลให้ราคาหุ้น GM พุ่งขึ้น 12%
  • สหรัฐ: จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 5.56 ล้านคน และผู้ขอรับสวัสดิการครั้งแรกมีมากกว่า 6.5 แสนรายในสัปดาห์ล่าสุด
  • ญี่ปุ่น: ยอดค้าปลีกเดือน ก.พ. ลดลงมากเกินคาด 5.8%YoY และคาดการณ์กันว่า ญี่ปุ่นอาจจะประสบกับภาวะเงินฝืด
  • ราคา น้ำมันดิบร่วง หลังโอเปคยังผลิตสูง ราคาน้ำมันในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. ลดลง 3.61% ปิดที่ 52.38 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล (-1.96 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล) จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก หลังประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ และญี่ปุ่น นอกจากนี้ ข้อมูลจากบริษัทปิโตรโลจิสติกส์ยังพบว่า การผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปคในเดือน มี.ค. ยังอยู่ในระดับที่สูงเฉลี่ยเกินกว่าเป้าหมายถึง 1 ล้านบาร์เรล/วัน โดยอิหร่าน แองโกลา และเวเนซุเอล่ายังผลิตเกินกว่าโควต้าที่ได้รับ
  • ราคา น้ำมันช่วงนี้ดูเหมือนยังแกว่งตัว (ขึ้นวันลงวัน) ซึ่งเราคาดว่าอย่างน้อยที่สุดน่าจะผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว (หากไม่เกิดวิกฤติรอบใหม่) และคงเคลื่อนไหวในกรอบ 45 – 55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จึงยังให้น้ำหนักการลงทุนเป็นบวก แนะนำ PTTEP, BCP

BAY - BAY: ปรับลดมูลค่าพื้นฐาน 17%
SET - SET: ปรับเสปรดซื้อขายใหม่เริ่มวันนี้
MNIT2 - MNIT2: 31 มี.ค. 52 เข้าซื้อขายเป็นวันแรกใน SET หมวด PFUND
BMCL - BMCL: ร่วมประมูลบริหารเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วง 3Q52
THAI - THAI: คาดกำไรจากเที่ยวบินในประเทศเพิ่มปีละ 100 ลบ. หลังย้ายมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ
EASTW - EASTW: ลดค่าน้ำมันดิบเหลือ 1.35 บาท/ลบ.ม.
TOG - TOG: คาดรายได้รวม 1Q52 เติบโต 5%
TMB - TMB: ลดดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากลงเฉลี่ย 0.25% มีผล 30/3/52
TMB - TMB: ลดเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศตราสารหนี้ Hybrid Tier1 เป็น B+

ที่มา : บล.ซีมิโก้ จำกัด

0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4