29 มีนาคม 2552

ดาวโจนส์ดิ่งลง148จุด

ดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 150 จุด

สหรัฐ 28 มี.ค. - ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงตามคาดเกือบ 150 จุด จากแรงเทขายทำกำไร หลังจากดัชนีปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ นักลงทุนเทขายหุ้นในทุกกลุ่ม เพื่อทำกำไร หลังจากดัชนีพุ่งขึ้นต่อเนื่องในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและพลังงานมีแรงเทขายมากที่สุด ขณะที่ข้อมูลล่าสุดระบุว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคในเดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ขณะที่รายได้เฉลี่ยกลับลดลง 0.2%

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.4 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 1 ต่อ 3

สจ๊วต สวิทเชอร์ นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน ไพรเวท แบงค์ กล่าวว่า "นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นติดต่อกันหลายวัน ส่วนปัจจัยอื่นๆที่กดดันตลาดก็ได้แก่ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและรายได้ส่วนบุคคลในสหรัฐที่น่าผิดหวัง ซึ่งสวนทางกับเมื่อ 2-3 วันก่อนที่บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างคึกคักหลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่แข็งแกร่งเกินคาด"

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคประจำเดือนก.พ.ขยับขึ้นเพียง 0.2% หลังจากพุ่งขึ้น 1% ในเดือนม.ค. ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลประจำเดือนก.พ.ลดลง 0.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 4 ครั้งภายในระยะเวลา 5 เดือน และสะท้อนให้เห็นว่าภาคเอกชนในสหรัฐเลย์ออฟพนักงานจำนวนมาก

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 4 หดตัวลง 6.3% ต่อปี ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวลงครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของปีพ.ศ.2525
ซึ่งเป็นผลมาจากการร่วงลงของยอดส่งออก ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค และอัตราการลงทุนในทุกภาคส่วน
รวมถึงการลงทุนด้านอุปกรณ์และซอฟท์แวร์ แม้รัฐบาลสหรัฐพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะออกมาตรการกระตุ้น
การใช้จ่ายในภาคเอกชนก็ตาม

นักลงทุนตื่นตระหนกกับข่าวที่ว่า บริษัท กูเกิล อิงค์ ประกาศปลดพนักงานครั้งใหญ่เกือบ 200 คน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้แต่บริษัทที่ทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำก็ยังได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยพนักงานที่ถูกปลดซึ่งใหญ่อยู่ในแผนกขายโฆษณานั้น คิดเป็นสัดส่วน 1% ของพนักงานทั้งหมด 20,200 คน

ทั้งนี้ แม้ว่ากูเกิลจะมีกำไรกว่า 4.2 พันล้านดอลลาร์ จากผลประกอบการ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ทางบริษัทก็ยังพยายามลดต้นทุนเพราะไม่ต้องการให้กำไรและราคาหุ้นลดลงไปมากกว่านี้ โดยข่าวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นกูเกิลดิ่งลง 5.59 ดอลลาร์ ปิดที่ 347.70 ดอลลาร์ และหุ้นแอสเซนเจอร์ ร่วงลง 13.5%

ขณะที่การร่วงลงของสัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงด้วย โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิลดิ่งลง 1.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.98 ดอลลาร์ และหุ้นเชฟรอนร่วงลง 1.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 68.90 ดอลลาร์

ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินดิ่งลงข่าวว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐประชุมร่วมกับประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ 12 สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ รวมถึงนายวิกรม บัณฑิต ซีอีโอซิตี้กรุ๊ป โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ปดิ่งลง 6.8% และหุ้นเจพีมอร์แกนร่วงลง 5.8%

ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์
ลดลง 1.96 ดอลลาร์สหรัฐ ไปปิดที่ 52.38 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ 7,776.18 จุด ลดลง 148.38 จุด
แนสแดค ปิดที่ 1,545.20 จุด ลดลง 41.80 จุด
และ เอสแอนด์พี ปิดที่ 815.94 จุด ลงไป 16.92 จุด

ที่มา : สำนักข่าวไทย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์

0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4