03 กรกฎาคม 2552

ปักป้ายเตือนTIESเสี่ยงสูง

ปักป้ายเตือนTIESเสี่ยงสูง
*ส่อแววติด Turnover List วางเงินสด100%


วงการประสานเสียง ปักป้ายเตือน TIES แม่-ลูก เสี่ยงสูง แม้ช่วงที่ผ่านมาหุ้นบวกกระฉูด โดยเฉพาะตัวแม่ 41 วันทำการ พุ่งกว่า120% เหตุไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับมากนัก หนี้ระยะสั้นมาก แถมอาจอยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องรับงาน จนกระทบผลการดำเนินงานในอนาคต นอกจากนี้ประเมินมีแนวโน้มเข้าข่าย Turnover List โดยลูกค้าต้องวางเงินสด 100% โดยใช้บัญชี Cash Balance ระบุหลายโบรกฯ เริ่มไหวตัวทัน เตือนลูกค้าหากรอบนี้โดน อาจทำให้ราคาหุ้นทั้งแม่-ลูก ซึมถึง 3 สัปดาห์ ขณะที่ผู้บริหาร ย้ำเป้ารายได้ปีนี้ที่ 1.3 พันลบ. ลั่น พร้อมทำกำไร ล้างขาดทุนสะสมประมาณ 250 ลบ. ก่อนจ่ายเงินปันผล พร้อมขอดูเกณฑ์ตลาดฯ วันนี้ หลังหุ้นแม่-ลูกดิ่งเหว

หลังจากวิ่งแรงมาอย่างต่อเนื่องสำหรับ หุ้นของบริษัท ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) (TIES) ในที่สุดวานนี้ (2 ก.ค.) ราคาหุ้น TIES ก็เริ่มอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัดเจน รวมไปถึงหุ้น TIES-W1 ที่เพิ่งเข้ามาซื้อขาย เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมาด้วย ทั้งนี้ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงติดฟลอร์นั้นสอดคล้องไปกับภาวะการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โดยรวมที่ปรับตัวลดลง แต่ประเด็นหลักอีกด้านก็คือข่าวที่ว่าตลาดหลักทรัพย์ จะกำหนดให้สมาชิกต้องให้ลูกค้าซื้อหลักทรัพย์โดยวางเงินสดไว้ล่วงหน้าเต็มจำนวนก่อนการซื้อ (Cash Balance) รวมไปถึงเข้าตรวจสอบการซื้อขายหุ้นราคาหุ้นของ TIES ก่อนหน้านี้ จนส่งผลให้นักลงทุนเทขายออกมาอย่างหนัก อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากพื้นฐานและฐานะการเงินของ TIES ซึ่งล้วนแต่กระทบต่อจิตวิทยาการลงทุน


ทั้งนี้ราคาหุ้น TIES ไต่ระดับเพิ่มขึ้นมาถึง 41 วันทำการ โดยคำนวนจากราคาปิดวันที่ 4 พ.ค. 52 ราคาหุ้น TIES อยู่ที่ 1.30 บาท จากนั้นปรับเพิ่มขึ้นมาสูงสุดในวันที่ 30 มิ.ย. 52 ราคาอยู่ที่ 2.88 บาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 1.58 บาท หรือ121.54% โดยวานนี้ TIES ปรับตัวลดลงมาติดฟลอร์ และปิดที่ 1.94 บาท คิดเป็นลดลงจากวันที่ 30 มิ.ย. 0.94 บาท.หรือ 32.64% ส่วน TIES-W1 ภายหลังจากเข้าซื้อขายวันแรกวันที่ 30 มิ.ย. 52 ที่ผ่านมานั้นราคาก็ทะยานเพิ่มขึ้นมาปิดอยู่ที่ระดับ 2.20 บาท และถูกเทขายวันนี้จนติด Floor และปิดตลาดที่ 1.38 บาท คิดเป็นลดลง 0.82 บาท หรือ -37.27%




* Q1/52 กระแสเงินสดการดำเนินงานติดลบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบฐานะการเงินของบริษัทสิ้นสุด ณ ไตรมาสแรก ปี 2552 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.52 นั้นสินทรัพย์ของ TIES ณ วันที่ 31 มี.ค.52 มีสินทรัพย์หมุนเวียน 335.07 ล้านบาท มีลูกหนี้การค้าตามสัญญาก่อสร้างเพิ่มขึ้น 134.76 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 91.43 ล้านบาท ขณะที่รายได้ที่ยังไม่ได้เรียกชำระไตรมาสแรกอยู่ที่ 173.76 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 91.43 ล้านบาท ส่วนสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนไตรมาส 1/52 อยู่ที่ 699.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 640.20 ล้านบาท

ทั้งนี้หนี้สินหมุนเวียนในไตรมาส 1/52 รวมอยู่ที่ 641.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 573.80 ล้านบาท และหนี้สินไม่หมุนเวียนอยู่ที่ 320.19 ล้านบาท รวมแล้วหนี้สิน ณ สิ้นไตรมาสแรกอยู่ที่ 642.09 ล้านบาทน้อยกว่าสินทรัพย์รวม ณ สิ้นไตรมาสอยู่ที่ 699.71 ล้านบาท

สำหรับกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของ TIES ณ ไตรมาส 1/52 ติดลบ 52.99 ล้านบาท เปรียบเทียบกับไตรมาส 1/51 เป็นบวก 94.49 ล้านบาท ขณะที่กระแสเงินสดจากการลงทุนไตรมาส 1/52 เป็นบวก 4.35 ล้านบาท เปรียบเทียบกับไตรมาส 1/51 ติดลบ 7.94 แสนบาท กระแสเงินสดจากกิจกรรมการจัดหาเงินนั้นโดยรวมในไตรมาสแรกเป็นบวก 53.62 ล้านบาท โดยอัตราดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มเป็น 5.99 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 4.09 ล้านบาท เงินเบิกเกินบัญชีธนาคารและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นเป็น 60.14 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ลดลงถึง 78.68 ล้านบาท โดยกระแสเงินสดสุทธิของ TIES ณ สินไตรมาสมาสแรกอยู่ที่ 2.39 แสนบาท

ณ สิ้นไตรมาสแรก TIES ขาดทุนสะสม 214.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 206.28 ล้านบาท ขณะที่ส่วนผู้ถือหุ้นยังเป้นบวกที่ 57.61 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 65.93 ล้านบาท



* วงการ ฟันธง มีสิทธิ์ถูกเทรดเงินสด แนะเลี่ยงลงทุน

นายธวัชชัย อัศวพรไชย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า หากมองทางปัจจัยพื้นฐานของหุ้น TIES ขณะนี้ไม่มีปัจจัยอะไรรองรับมากนัก เนื่องจากพบว่ามีจำนวนหนี้สินระยะสั้นจำนวนมาก ซึ่งอาจอยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีปัญหาในเรื่องการรับงาน โดยยังไม่สามารถประมูลงานใหม่ๆ อาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในอนาคต

'หุ้นตัวนี้มีคนเล่นบ้าง เขาก็ซื้อๆ ลากขึ้นไปยาว แต่พอมีคนซื้อเยอะ ก็ต้องปรับตัวลงเป็นธรรมดา แต่เรื่องข่าวยังไม่มีเห็นมีอะไรใหม่ๆ' นายธวัชชัย กล่าว

ด้านนักวิเคราะห์เทคนิค บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้น TIES ปรับลดลงแรงมาก นักลงทุนควรลดความเสี่ยงด้วยการหลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้น TIES ในขณะนี้ ส่วนราคาหุ้น TIES-W1 สัญญาณเทคนิคก็ไม่ดีนัก หากสนใจเก็งกำไร แนะนำให้มีจุดตัดขาดทุน 1.37 บาท

นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป กล่าวว่า ราคาหุ้นของ TIES และ TIES-W1 มีโอกาสที่จะเข้าข่ายติด Turnover List ซึ่งลูกค้าต้องวางเงินสด 100% ก่อนการซื้อหุ้นโดยใช้บัญชี Cash Balance เพราะจากประเมินเบื้องต้นจากปริมาณการซื้อขายและการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่หวือหวา

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้คงต้องพิจาณาถึงฟรีโฟลททางตลาดหลักทรัพย์ เพราะหากเปลี่ยนแปลงอาจจะมีผลต่อการคำนวนในเรื่องของการติดTurnover List

ทั้งนี้ นักลงทุนควรขาย เพื่อลดความเสี่ยงไปก่อน ซึ่งหากไม่ติดเกณฑ์จริงแล้วค่อยพิจารณาอีกครั้ง เพราะราคาหุ้นอาจรีบาวน์ขึ้นมาได้

ขณะที่ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง กล่าวว่า หุ้น TIES และ TIES-W1 มีแนวโน้มที่จะเข้าข่าย Turnover List โดยลูกค้าต้องวางเงินสด 100% ก่อนการซื้อหุ้น โดยใช้บัญชี Cash Balance และจะทำให้ราคาหุ้นเริ่มอ่อนตัวลดลงไปต่อจากนี้อีกระยะ ซึ่งถ้าสังเกตจากวันนี้ น่าจะสะท้อนว่านักลงทุนพอที่ทราบข่าวหรือคาดการณ์ได้ว่าเข้าเกณฑ์ จึงทำให้ราคาหุ้นดิ่งลงมาติด Floor ทั้ง แม่และลูก

"ถ้าดูจากราคาหุ้นวันนี้ ก็น่าจะบอกได้ว่าไม่รอด เพราะราคาดิ่งแรงมาก แต่เท่าที่ดู ก็พบว่าหลายโบรกฯ ก็ไหวตัวทัน แจ้งเตือนลูกค้าไปแล้ว ซึ่งหากรอบนี้โดน ก็น่าจะทำให้ทั้งแม่และลูก ซึมไปอีก 3 สัปดาห์ " นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าว


* บิ๊กTIES ย้ำพื้นฐานไม่เปลี่ยน ย้ำเป้ารายได้ 1.3 พันลบ.

ด้านนายธีรพล เต็มสุข กรรมการบริษัท ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TIES กล่าวกับ eFinanceThai.com ถึงกรณีที่ ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวลงแรง ท่ามกลางกระแสข่าวตลาดหลักทรัพย์ กำหนดให้สมาชิกต้องให้ลูกค้าซื้อหลักทรัพย์โดยวางเงินสดไว้ล่วงหน้าเต็มจำนวนก่อนการซื้อ(Cash Balance)และตลาดหลักทรัพย์เข้าตรวจสอบการซื้อขายหุ้น ว่า คงต้องดูเกณฑ์วันนี้ (3ก.ค.) จะมีการเปลี่ยนแปลงและใช้ฐานเปอร์เซ็นต์ในการคิดอย่างใด ซึ่งจะมีเกณฑ์ปกติอยู่แล้ว โดยในแง่ของบริษัทฯจะนำพาให้ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจไปให้ได้ เพื่อสร้างประโยชน์ แสวงหาผลกำไรให้กับบริษัทฯ

ส่วนกรณีการหรือตลาดหลักทรัพย์เข้าตรวจสอบการซื้อขายหุ้นว่า โดยทั่วไป บริษัทฯก็คุยกับตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว ซึ่งเวลามีข่าวหรือมีเรื่องก็จะโทรศัพท์พูดคุยกับตลาดหลักทรัพย์ตลอด ปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ยังถือหุ้นเหมือนเดิม เพียงแต่ตอนนี้หุ้นTIES กระจายในวงกว้างหลังจากเพิ่มทุน 100 ล้านหุ้น

เขากล่าวว่า ในแง่ของปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ยังคงเป้าหมายรายได้ไว้ที่ประมาณ 1.3 พันล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันมีงานอยู่ในมือ 1.1 พันล้านบาท ปัจจุบันบริษัทฯอยู่ระหว่างการทบทวนแผนงานต่างๆ หลังจากมีหลายสถาบันได้ประกาศเศรษฐกิจผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อย่างไรก็ตามบริษัทฯจะพยายามสร้างผลกำไร เพื่อล้างขาดทุนสะสมประมาณ 250 ล้านบาท จากนั้นจะได้จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น


" ผลประกอบการครึ่งปีแรกปีนี้ ตอนนี้เพิ่งจะปิดงบการเงินครึ่งปี จึงยังไม่สามารถตอบได้ ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทฯก็ได้หยุดรับงานอันเป็นผลมาจากราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวขึ้นแรง และภาวะเศรษฐกิจโลก ส่วนพันธมิตรทางธุรกิจนั้น ยังไม่ความคืบหน้า โดยจะต้องคำนึงถึงปัจจัยภายนอกประกอบการพิจารณา" นายธีรพล กล่าว



0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4