28 กรกฎาคม 2552

ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2552

ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2552

BY นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.,BAM)
Tuesday, 28 July 2009 09:25





นายบรรยง วิเศษมงคลชัย

พอกล่าวถึงคำว่า “ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ “ คนทั่วไปอาจเข้าใจถึง “ ตลาดของบ้านสร้างใหม่ “ เท่านั้น แต่จริงๆ แล้วมีหลายส่วนที่สามารถแยกแยะออกมาได้ เช่น

· ตลาดของที่ดินเปล่า

· ตลาดของที่ดินพร้อมบ้านไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์

· ตลาดของคอนโดมิเนียม

· ตลาดของบ้านมือสอง




ปีนี้หากพูดถึงตลาดบ้านใหม่แล้วดูไม่สดใสมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้แย่กว่าที่คาดไว้ เดิมผู้ประกอบการต่างๆ คาดว่าปี 2552 น่าจะหดตัวระหว่างร้อยละ 20-30 เทียบกับปี 2551 เอาเข้าจริงคาดว่าจะหดตัวเพียงร้อยละ 15-20 เท่านั้น โดยคาดว่าจำนวนบ้านสร้างใหม่ขายได้ปีนี้น่าจะอยู่ที่ราวๆ 50,000-60,000 หน่วย เหตุที่เป็นเช่นนี้น่าจะมีหลายๆ เหตุผลประกอบกัน เช่น ราคาน้ำมันครึ่งปีแรกของปี 2552 ลดลงกว่าปี 2551 ค่อนข้างมาก ทำให้ต้นทุนวัสดุก่อสร้างและอื่นๆ ลดลง ช่วยผู้ประกอบการใช้เป็นส่วนลดให้กับผู้ซื้อได้มาก อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยยังเอื้อต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยถือว่าเป็นอัตราที่ต่ำอยู่ อีกทั้งจากสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ที่ยังมีมากในระบบอยู่ในขณะนี้ โดยมีสภาพคล่องล้นระบบอยู่เกินกว่า 1 ล้านล้านบาท อีกทั้งในช่วงไตรมาสที่ 1 และ 2 การปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ก็หดตัวลงไปพอสมควร จึงคาดว่าธนาคารพาณิชย์ต่างๆ จะเร่งระดมการปล่อยสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลังกันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อยอดขายอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างมาก



สำหรับตลาดของที่ดินเปล่านั้น พบว่า จำนวนรายการที่มีการซื้อขายกันในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2552 มีจำนวน 283,872 รายการ เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปี 2551 ซึ่งมีจำนวน 283,774 รายการ เพิ่มขึ้น 0.03% แต่ที่น่าสนใจ คือ ดัชนีราคาที่ดินเปล่าย้อนหลัง 10 ปี เพิ่มขึ้นค่อนข้างน่าสนใจ ดังภาพข้างล่าง






จากข้อมูลจะเห็นว่า ที่ดินปี 2551 ราคาเพิ่มจากปี 2550 จาก 169.2 มาเป็น 180.2 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 6.10% แต่จากปี 2542-2551 ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นจาก 135.5 เป็น 180.2 ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงถึง 32.99% หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3.08% ต่อปี โดยปีที่ราคาที่ดินเพิ่มมากขึ้นมากที่สุดคือปี 2551 ซึ่งมีอัตราการเติบโตที่ 6.10%

ที่กล่าวมาเป็นเพียงทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในส่วนของที่ดินเปล่าและบ้านสร้างใหม่เท่านั้น ส่วนบ้านมือสองและตลาดคอนโดมิเนียมจะกล่าวถึงในครั้งหน้าครับ

โดยสรุป

ตลาดบ้านสร้างใหม่ในปี 2552 คาดว่าจะหดตัวจากปี 2551 ไม่มากนัก ซึ่งมีสาเหตุมาจากเหตุผลต่างๆ ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว แต่สำหรับที่ดินเปล่ายังมีอนาคตโดยที่ราคามีการเคลื่อนไหวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และน่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่มีเงินที่จะลงทุนในยามดอกเบี้ยต่ำที่เป็นอยู่ในขณะนี้ สามารถที่จะลงทุนและได้รับอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

กระแสหุ้น

0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4