12 มิถุนายน 2552

ผันผวน!!

ผันผวน!!

ดัชนีหุ้นวันที่ 11 มิ.ย.52 ปิดที่ 627.07 จุด เพิ่มขึ้น 2.52 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 34,255 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,159 ล้านบาท

ตลาดหุ้นผันผวน นักลงทุนขายทำกำไรสลับออกมาตลอดทั้งวันในจังหวะที่ดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้น

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน มองว่า กรณีที่มอร์แกนสแตนเลย์ออกบทวิเคราะห์ระบุว่า ดัชนีตลาดหุ้นของตลาดเกิดใหม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น

โดยข้อมูลจากเอ็มเอสซีไอระบุว่า ปีนี้ดัชนีเอ็มเอสซีไอตลาดเกิดใหม่ ได้เพิ่มขึ้นมาแล้ว 39% สูงกว่าดัชนีเอ็มเอสซีไอเวิลด์ที่เพิ่มขึ้นเพียง 7.3% ประเด็นดังกล่าวได้ส่งผลบวกต่อจิตวิทยาการลงทุน

ขณะที่มองแนวโน้มตลาดจะยังคงผันผวนและมีโอกาสปรับฐานลง แนะกลยุทธ์ ให้เทขายทำกำไรเมื่อดัชนีปรับตัวขึ้น

ฝ่ายกลยุทธ์ บล.ฟาร์อีสท์ ชี้ว่า ตลาดได้รับผลดีที่รัฐบาลเตรียมคลอดแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ 1.4 ล้านล้านบาท คาดว่าตลาดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อ

ส่วนการเตรียมเบิกจ่ายเช็คช่วยชาติรอบ 2 มูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาท จะส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มพาณิชย์และบันเทิง จึงแนะให้เก็งกำไร รวมทั้งหุ้นพลังงานที่ยังได้รับแรงส่งจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น

ปิดท้าย มีข้อมูลนับจากต้นปีถึง 11 มิ.ย.ที่ดัชนีหุ้นบวกขึ้นมาร่วม 200 จุด พบว่ามูลค่ามาร์เกตแค็ปของตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นมาถึง 1.18 ล้านล้านบาท จากต้นปีอยู่ที่ 3.79 ล้านล้านบาท ล่าสุดขยับขึ้นมาใกล้แตะ 5 ล้านล้านบาทแล้ว

ขณะที่ค่าพี/อีของตลาดหุ้นไทยขึ้นมาอยู่ที่ 21.24 เท่า จากต้นปีที่อยู่ที่ระดับ 7.46 เท่า

"ชนิตร ชาญชัยณรงค์" ผู้ช่วยผู้จัดการตลาดหุ้นแนะ ให้พิจารณาปัจจัยพื้นฐานมากกว่าดูค่าพี/อี และยอมรับว่าหุ้นใหญ่ 100 อันดับแรกราคาอาจขึ้นมาสูงแล้ว

จึงอยากให้นักลงทุนหันมาพิจารณาหุ้นขนาดกลางที่มาร์เกตแค็ป ต่ำกว่า 8 พันล้านบาท รวมทั้งหุ้นในตลาด mai ซึ่งยังมีหุ้นดีๆที่น่าสนใจลงทุนอีกมาก.


อินเด็กซ์ 51


0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4