21 พฤษภาคม 2552

ดาวโจนส์ปิดลบ 52.81 จุด

ดาวโจนส์ปิดลบ 52.81 จุด หลัง FED หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจ

นิวยอร์ก 21 พ.ค.-ตลาดหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวขาลง หลังเฟดปรับลดการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจในปีนี้ลง

ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ นักลงทุนผิดหวังหลังจากแถลงการณ์ของบอร์ดเฟด ระบุว่าแม้ภาคเศรษฐกิจหลายส่วนของประเทศอาจจะเริ่มฟื้นตัวได้ในปีนี้ แต่โดยรวมแล้วเศรษฐกิจสหรัฐตลอดทั้งปีจะยังเคลื่อนไหวในแดนลบ และอัตราว่างงานอาจพุ่งแตะหลัก 10% ทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมา แม้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายอย่าง ทั้งทองคำ โลหะมีค่า จะปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ที่บวกเพิ่ม 1.94 ดอลลาร์สหรัฐ ไปปิดที่ 62.04 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล สูงที่สุดในรอบ 6 เดือน

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.65 พันล้านหุ้น
มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในสัดส่วน 1,591 ต่อ 1,452
ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.30 พันล้านหุ้น


ด็อจ โรเบิร์ตส์ นักวิเคราะห์จากบริษัท ChannelCapitalResearch.com กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กซบเซาลงทันทีที่เฟดประกาศลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐปีนี้จะหดตัวลง 1.3-2% ซึ่งมากกว่าก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะหดตัวเพียง 0.5-1.3% และคาดว่าอัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับ 10% จากเดิมที่คาดว่าไว้ที่ 8.8%

การปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของเฟดส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายย่ำแย่ลงกว่าเดิม หลังจากเมื่อวันอังคาร ตลาดได้รับแรงกดดันอย่างหนักหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในเดือนเม.ย.ร่วงลง 12.8% แตะระดับ 458,000 ยูนิต ซึ่ง เป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 525,000 ยูนิต ส่วนตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างในเดือนเม.ย.ร่วงลง 3.3% แตะระดับ 494,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 511,000 ยูนิต

หุ้นกลุ่มธนาคารถูกกระหน่ำขายอย่างหนักหลังจากแบงก์ ออฟ อเมริกา สถาบันการเงินรายใหญ่สุดของสหรัฐในแง่สินทรัพย์ ประกาศเดินหน้าระดมทุนจำนวน 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านการขายหุ้นสามัญ หวังกระตุ้นฐานเงินทุนให้พร้อมรับมือในกรณีที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยยังยืดเยื้อต่อไป

แบงก์ ออฟ อเมริกา มีความจำเป็นต้องระดมทุนมากที่สุดในบรรดาธนาคารทั้ง 19 แห่งที่ได้ทำการทดสอบภาวะวิกฤติ (stress test) โดยธนาคารต้องระดมทุนเพิ่มขึ้น 3.39 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมาเวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค ได้ระดมทุนเพิ่ม 8.6 พันล้านดอลลาร์ ส่วนมอร์แกนสแตนลีย์เพิ่มทุนไป 4 พันล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ หุ้นเจพีมอร์แกนปิดร่วง 3.5% หุ้นซิตี้กรุ๊ปปิดลบ 2.1% หุ้นรีเจียนส์ ไฟแนนเชียล ปิดร่วง 6.7% แต่หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ปิดบวก 2.1%

ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX โดยหุ้นมาราธอน ออยล์ ปิดบวก 2.3% และหุ้นชลัมเบอร์เกอร์ปิดพุ่ง 10.3 ดอลลาร์

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ โดยในวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เตรียมเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.

ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 8,422.04 จุด ลดลง 52.81 จุด หรือ 0.62% ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 1,727.84 จุด ลดลง 6.70 จุด หรือ 0.39% และดัชนีเอสแอนด์พี ปิดที่ 903.47 จุด ลดลง 4.66 จุด หรือ 0.51%

ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐสัปดาห์ล่าสุดสำรวจโดย ก.พลังงาน ถึง 15 พ.ค. ลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล ส่วนน้ำมันเบนซินสำรองลดลง 4.3 ล้านบาร์เรล

ด้านตลาดหุ้นสำคัญของยุโรป
ดัชนี FTSE 100 ตลาดลอนดอน ปิดที่ 4,468.41 จุด ลดลง 13.84 จุด หรือ 0.31%
ดัชนี DAX ตลาดแฟรงก์เฟิร์ต ปิดที่ 5,038.94 จุด ปรับขึ้น 79.32 จุด หรือ 1.60%
และดัชนี CAC 40 ตลาดปารีส ปิดที่ 3,303.37 จุด ปรับขึ้น 28.41 จุด หรือ 0.87%

ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ ตลาดลอนดอน
ปิดที่ 60.59 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ปรับขึ้น 1.67 ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก
ปิดที่ 937.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ปรับขึ้น 10.70 ดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนตลาดลอนดอนปิดที่ 935.75 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ปรับขึ้น 9.85 ดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : สำนักข่าวไทย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์

0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4