20 เมษายน 2552

SET มีโอกาส ยกฐาน

SET มีโอกาส ยกฐาน ในกรอบ 430-460 จุด

โดย : คอลัมน์ Smart Investment:แสงธรรม จรณชัยกุล บล. ธนชาต

โบรกคาด หากไม่มีสถานการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น เงินต่างชาติมีโอกาสไหลเข้า SET มีโอกาสที่จะยกฐานสูงขึ้นมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 430-460จุด

ในสองสัปดาห์แรกของเดือนเมษายน ตลาดหุ้นทั่วโลกนำโดยตลาดหุ้นสหรัฐ ได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน หลังจากที่นักลงทุนพยายามมองหาข่าวดีที่จะช่วยหนุนตลาด ท่ามกลางข่าวร้ายที่ยังปรากฏออกมาเป็นระยะ สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA ได้ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องทั้งสองสัปดาห์
แม้ว่าจะมีข่าวร้ายเล็กน้อยในช่วงต้นเดือนเมษายน เกี่ยวกับแผนฟื้นฟูกิจการของสองบริษัทรถยนต์รายใหญ่ คือเจนเนอรัล มอเตอร์ส และไครสเลอร์ ที่ไม่ผ่านความเห็นชอบ แต่ทางการสหรัฐก็ได้ยืดเวลาให้กับทั้งสองบริษัทไปอีก 60 วันและ 30 วันตามลำดับในการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการเข้ามาให้พิจารณาใหม่

นักลงทุนเริ่มมองหาข่าวดีที่จะสนับสนุนให้กลับเข้ามาซื้อหุ้น จากข่าวดีของภาพรวมทางเศรษฐกิจ เช่น การฟื้นตัวขึ้นของยอดขายรถยนต์ การฟื้นตัวขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงานในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งพลิกฟื้นกลับมาบวก 1.8% หลังจากลดลงอย่างต่อเนื่องมาถึง 6 เดือน โดยเดือนล่าสุดคือเดือนมกราคม ยังติดลบอยู่ 3.5% ข้อมูลดังกล่าวช่วยให้หุ้นกลุ่มภาคการผลิตฟื้นตัวขึ้น

นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มสถาบันการเงินได้ฟื้นตัวขึ้นด้วย จากความคาดหวังเชิงบวกของนักลงทุนว่า คณะกรรมการมาตรฐานการทำบัญชีการเงิน (FASB) จะมีการแก้ไขแนวทางปฏิบัติในการบันทึกบัญชีที่อ้างอิงราคาสินทรัพย์ตามราคาตลาด (Mark to Market) ใหม่ ซึ่งผ่อนคลายลงและจะส่งผลบวกต่องบการเงินของหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินในไตรมาส 2 ปี 2552 ให้มีกำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 20%

ในส่วนของการประชุมของกลุ่มประเทศ จี 20 ได้ช่วยเพิ่มความหวังให้แก่นักลงทุนมากขึ้น เมื่อ กลุ่มประเทศ จี 20 ได้ประกาศที่จะอัดฉีดเงินให้แก่ IMF ถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปใช้ช่วยเหลือประเทศที่ประสบกับวิกฤติเศรษฐกิจและการเงิน นอกจากนี้ยังลงขันใส่เงินอีก 2.5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อให้สถาบันการเงิน นำไปปล่อยกู้เพื่อกระตุ้นการค้าโลก ในด้านปัจจัยดอกเบี้ย มีการเคลื่อนไหวปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางแห่งสหภาพการเงินยุโรป (ECB) ลงอีก 0.25% สู่ระดับ 1.25% ซึ่งเป็นอัตราต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

สำหรับในบ้านเราเอง คณะกรรมการนโยบายการเงินก็ได้มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2552 แต่ข่าวดีเรื่องดอกเบี้ยก็ถูกกลบด้วยข่าวร้ายทางการเมือง หลังจากกลุ่มมวลชนเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ แต่นักลงทุนต่างชาติก็ไม่ได้หวั่นไหวยังใส่เงินเข้ามาซื้อสุทธิ ส่งให้ SET ฟื้นตัวขึ้นมาที่ระดับ 451 จุด (9 เม.ย.2552) ได้ ด้วยการนำขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร โดยจุดต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 426 จุด Fund flow ได้ไหลกลับเข้ามาต่อเนื่องจากสองสัปดาห์ก่อนหน้า โดยในช่วงวันที่ 27 มี.ค.2552-9 เม.ย.2552 นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิเป็นจำนวน 4,747 ล้านบาท

ในอีกสองสัปดาห์หน้า หลังวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เราคาดว่าปัจจัยภายนอก จะเป็นปัจจัยบวกที่จะช่วยหนุนตลาดหุ้นบ้านเราไว้ โดยตลาดหุ้นสหรัฐ (DJIA) มีโอกาสที่จะฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 9000 จุดได้ หากผลประกอบการของหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินพลิกฟื้นกลับมามีกำไรในไตรมาส 1/2552 อย่างที่ได้มีการประเมินไว้ ส่วนในบ้านเราเอง อาจจะถูกถ่วงด้วยปัจจัยลบ จากประเด็นการเมือง

อย่างไรก็ตาม หากไม่มีสถานการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น เราคาดว่า เม็ดเงินของนักลงทุนต่างประเทศยังมีโอกาสที่จะไหลเข้าต่อเนื่อง แต่อาจจะเป็นปริมาณไม่มาก และ SET มีโอกาสที่จะยกฐานสูงขึ้นมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 430-460 จุด

>> กลยุทธ์การลงทุน
เรายังแนะให้ใช้กลยุทธ์ขึ้นขาย-ลงซื้อ โดยคงโครงสร้างพอร์ตการลงทุนไว้ดังนี้
1.กลุ่มน้ำมัน : PTTEP และ PTT
2.กลุ่มธนาคาร : BBL, SCB และ KBANK
3.กลุ่มวัสดุก่อสร้าง : SCC
4.กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม : AMATA
5.กลุ่มสื่อสาร : DTAC และ ADVANC


0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4