07 เมษายน 2552

จอร์จ โซรอส ชี้หุ้นสหรัฐ

"จอร์จ โซรอส"ชี้ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังไม่อยู่ใน"ภาวะกระทิง"เหตุเศรษฐกิจสหรัฐยังหดตัวต่อเนื่อง

จอร์จ โซรอส ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินระดับโลกแสดงความคิดเห็นว่า การซื้อขายอันคึกคักซึ่งเกิดขึ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์กตลอด 4 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ไม่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของภาวะกระทิง เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงหดตัวลง โดยคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มหดตัวลงอย่างยืดเยื้อยาวนาน และ อาจเผชิญกับช่วงเวลาการขยายตัวที่ค่อนข้างต่ำในแบบที่ญี่ปุ่นเคยประสบ

"ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงอยู่ในภาวะหมี เพราะเศรษฐกิจยังไม่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น วิกฤตการณ์การเงินรอบนี้รุนแรงกว่าทุกครั้งที่เราเคยประสบมา อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าตราบเท่าที่ผู้นำทั่วโลกเกาะกลุ่มกันไว้และให้ความร่วมมือกันแบบข้ามชาติ เราจะก้าวผ่านวิกฤตการณ์นี้ไปได้" โซรอสกล่าวให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์ก

โซรอสมีมุมมองที่เป็นบวกต่อคณะทำงานของบารัค โอบามา โดยกล่าวว่า "โอบามาทุ่มสุดตัวในทุกๆด้าน ผมเชื่อว่ามาตรการกู้วิกฤติในภาคการธนาคารและการปรับโครงสร้างในตลาดปล่อยกู้จำนองของรัฐบาลชุดนี้จะประสบความสำเร็จ"

ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นแข็งแกร่งในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่ง 216.48 จุด หรือ 2.79% แตะที่ 7,978.08 จุด หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนก.พ. และที่ประชุมสุดยอด G20 มีมติอัดฉีดเงินทุนให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพิ่มอีก 5 แสนล้านดอลลาร์ รวมกับเงินทุนเดิมเป็น 7.5 แสนล้านดอลลาร์ สำหรับช่วยเหลือประเทศที่เผชิญกับมรสุมทางเศรษฐกิจและการเงิน และจะเปิดทางให้ IMF ปล่อยกู้เงินยืมฉุกเฉินให้กับตลาดทุนทั่วโลกในกรณีที่จำเป็น

ทั้งนี้ โซรอสกล่าวว่า การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กในช่วงหลายวันที่ผ่านมาเป็นผลมาจากปัจจัยทางจิตวิทยา แต่ภาวะเศรษฐกิจซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริงยังคงอ่อนแอ นอกจากนี้ โซรอสกล่าวว่าปัญหาในระบบการธนาคารของสหรัฐยังไม่สามารถแก้ไขได้จนถึงขณะนี้ เนื่องจากหนี้เสียที่มีอยู่เป็นจำนวนมากและมูลค่าสินทรัพย์ที่ลดน้อยลง

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 สนับสนุนให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) มีบทบาทเป็นแกนนำในการรับมือกับวิกฤตการเงินและวางระเบียบควบคุมระบบการเงินโลก และมีมติอัดฉีดงบประมาณรวม 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์การเงินและยับยั้งเศรษฐกิจโลกจากภาวะถดถอย ซึ่งครอบคลุมถึงการอัดฉีดเงินทุนให้กับ IMF เพิ่มอีก 5 แสนล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมกับเงินทุนก้อนเดิมเป็น 7.5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือประเทศที่เผชิญกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงิน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน

ที่มา: IQ ข่าวเศรษฐกิจ 07/04/2009 14:42:17

0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4