22 เมษายน 2552

หุ้นสหรัฐกระเตื้องขึ้น

หุ้นสหรัฐกระเตื้องขึ้น น้ำมันดิบเพิ่ม 63 เซนต์


สหรัฐ 22 เม.ย. - ตลาดหุ้นสหรัฐปรับเพิ่มขึ้น หลังรัฐมนตรีคลังสหรัฐแสดงความเห็นที่ดีต่อภาคธนาคารและสถาบันการเงิน

ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีพุ่งขึ้นจากแรงซื้อหนาแน่นในหุ้นกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงิน หลังจากนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ระบุระหว่างให้ปากคำต่อกรรมาธิการสภาคองเกรส ว่า ธนาคารหลายแห่งสามารถจ่ายคืนเงินช่วยเหลือที่ได้รับจากรัฐบาลได้

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.67 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2,409 ต่อ 634 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.45 พันล้านหุ้น

จอห์น นิโคล นักวิเคราะห์จาก Federated Investors กล่าวว่า
นักลงทุนแห่เข้าซื้อหุ้นอย่างคึกคัก โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารที่ได้รับแรงซื้อหนาแน่นที่สุด
หลังจากทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งสภาคองเกรสเมื่อคืนนี้ว่า
ธนาคารส่วนใหญ่มีทุนสำรองเพียงพอที่จะปกป้องการขาดทุนได้ และธนาคารบางแห่งมีศักยภาพสูงพอที่จะจ่ายเงินต้นคืนให้กับรัฐบาล

"การแสดงความคิดเห็นของไกธ์เนอร์ช่วยผ่อนคลายกระแสความวิตกกังวลในตลาด หลังจากดาวโจนส์ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์เมื่อแบงค์ ออฟ อเมริกา เปิดเผยว่าจำนวนลูกค้าที่ผิดนัดชำระหนี้พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ธนาคารต้องตั้งบัญชีสำรองหนี้สูญมูลค่า 1.34 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ยังช่วยให้นักลงทุนมั่นใจมากขึ้นไม่ว่าผลการตรวจสอบความสามารถในการรักษาฐานะทางการเงิน (stress test) ของ 19 ธนาคารพาณิชย์ในเดือนหน้าจะออกมาเป็นเช่นไรก็ตาม" นิโคลกล่าว

กระทรวงการคลังสหรัฐกำลังดำเนินการตรวจสอบ stress tes ของ 19 ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ภายในประเทศ เพื่อประเมินว่าสถาบันการเงินแต่ละแห่งมีเงินทุนเพียงพอที่จะรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่
โดยสถาบันการเงินเหล่านี้รวมถึง ซิตี้กรุ๊ป, อเมริกัน เอ็กซ์เพรส, แบงค์ ออฟ อเมริกา, โกลด์แมน แซคส์,
เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, มอร์แกน สแตนลีย์ และธนาคารเวลล์ส ฟาร์โก ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะเปิดเผยผลการตรวจสอบ stress test ในวันที่ 4 พ.ค.นี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับนายโดนัลด์ โคห์น รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่คาดการณ์ว่า
เศรษฐกิจสหรัฐจะเริ่มมีเสถียรภาพในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และจากนั้นจะเริ่มดีดตัวขึ้นหลังจากตลาดการเงิน
ซึ่งตกอยู่ในภาวะเปราะบางมาโดยตลอดนั้น แข็งแรงขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับที่เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดเชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ระยะแรกของการฟื้นตัว หลังจากเฟดอัดฉีดเม็ดเงินหลายแสนล้านดอลลาร์เข้าสู่ตลาดการเงิน

หุ้นกลุ่มธนาคารทะยานขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นเจพีมอร์แกนพุ่งขึ้น 9.6% หุ้นซิตี้กรุ๊ปพุ่งขึ้น 10.2% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ปิดบวก 4.7% และหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ปิดบวก 4.8%

การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารช่วยชดเชยการร่วงลงของหุ้นโคคา-โคลา โดยหุ้นดังกล่าวดิ่งลง 2.8%
หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกลดลง 10% เนื่องจากการปรับโครงสร้างองค์กรและมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีที่ลดลง

ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์
เพิ่มขึ้น 63 เซนต์ ไปปิดที่ระดับ 46.51 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์บวกเพิ่ม 127.83 จุด ปิดที่ระดับ 7,969.56 จุด
แนสแดคปิดที่ระดับ 1,643.85 จุด เพิ่มขึ้น 35.64 จุด
และเอสแอนด์พี ปิดที่ระดับ 850.08 จุด เพิ่มขึ้น 17.69 จุด

ที่มา :สำนักข่าวไทย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์

0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4