05 เมษายน 2552

เก็งกำไรหุ้น

บทความเรื่องรายได้ : มุมมอง set : เก็งกำไรหุ้น

ในชีวิตประจำวันของเราต้องใช้เงินเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนกับสินค้าหรือบริการที่ เราอยากได้ เงินเป็นเครื่องมือที่ทำให้ชีวิตเรามีความสะดวกสบายขึ้นอย่างมาก และทุกคนต่างอยากมีเงินเก็บสะสมไว้เพื่อที่ว่าจะได้ใช้ในยามที่ต้องการ แต่ทำไมเงินที่เราหามาได้นั้นมักจะไม่พอกับค่าใช้จ่าย ไม่ใช่เป็นเพราะว่าเราใช้จ่ายมากเกินไปหรอกค่ะ แต่เป็นเพราะว่าค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นมากและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วต่างหาก เงินที่เราหามาได้ในจำนวนเท่าเดิมจึงไม่สามารถเพียงพอต่อการดำรงชีวิต หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ เงินเฟ้อเพิ่มสูงมากจนทำให้ค่าของเงินลดน้อยลง และเราไม่สามารถหาเงินมาทดแทนให้เพียงพอกับมูลค่าของเงินที่ลดลงไปอย่างรวด เร็วได้

เมื่อเราได้ยินใครสักคนพูดว่า เงินมีความสำคัญ มันเป็นคำพูดที่เราทุกคนปฏิเสธไม่ได้ มีบางคนเริ่มโต้แย้งว่า ผม/ฉัน คิดว่าเงินไม่มีความสำคัญ ดิฉันอยากบอกว่า เงินมีความสำคัญ ถ้าสิ่งที่คุณต้องการนั้นต้องใช้เงินในการแลกเปลี่ยน แต่ถ้าสิ่งที่คุณไม่ต้องการนั้นมันไม่ต้องใช้เงินในการแลกเปลี่ยน เงินก็กลายเป็นสิ่งไม่สำคัญ เช่น ถ้าคุณต้องการซื้อรถ คุณสามารถไปบอกคนขายได้ไหมคะว่า ผมมีความรักอยู่มากมายเลย ช่วยแลกเปลี่ยนรถคันนี้(ที่ผมอยากได้มากๆ)กับความรักที่ผมมีเถอะ คุณผู้อ่านคิดว่า คนขายเค้าจะขายรถให้คุณหรือไม่ ดิฉันคิดว่าคนขายคงบอกให้ใครก็ได้มาพาคุณออกไปจากโชว์รูมขายรถของเค้าแน่นอน

ดิฉันกำลังจะชวนคุณผู้อ่านว่า พวกเรามาเล่นเกมการเงินกันเถอะค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้สิ่งที่เราต้องการเพื่อทำให้ชีวิตของเราสะดวกสบาย สิ่งของเหล่านี้ต้องใช้เงินในการแลกเปลี่ยนแทบทั้งนั้น คุณผู้อ่านเห็นด้วยไหมคะ เอาอย่างที่มองเห็นใกล้ๆตัวเราก่อน ข้าว ข้าวเราก็ต้องซื้อเค้ากิน ไม่ว่าจะเป็นข้าวสารหรือข้าวสวย เห็นภาพชัดเจนเลยใช่ไหมคะ

ถ้าเราจะเล่นเกมการเงิน เพื่อให้ได้ความเป็นอิสระทางการเงิน เราก็ต้องเริ่มให้ความสำคัญของรายได้และรายจ่ายอย่างเท่าเทียมกันเสียก่อน

ความเป็นอิสระทางการเงินในที่นี้หมายความว่า เราจะมีเวลาเหลือเฟือ ไม่ว่าจะเป็นเวลาสำหรับครอบครัว เวลาสำหรับพักผ่อน ถ้าอยากทำงานก็ทำงานด้วยความสนุก ไม่เครียด ทำงานเพราะอยากทำงานนั้นๆ ไม่ใช่เป็นเพราะว่างานที่ตนเองกำลังทำอยู่นั้น ต้องบังคับให้ตัวเองไปทำงานเพื่อให้ได้เงินมาใช้จ่าย กรณีที่ต้องบังคับให้ตัวเองไปทำงานนั้น ย่อมไม่ใช่เรื่องน่าสนุกแน่ๆ

คุณผู้อ่านเริ่มที่จะสนใจเรื่องของรายได้และรายจ่ายหรือยังคะ ถ้าสนใจก็ต้องเริ่มที่จะรู้ก่อนว่า

ถ้าเรามีรายได้น้อยกว่ารายจ่าย เราจะไม่มีเงินเหลือเลย และมีโอกาสเป็นหนี้ 100%
ถ้าเรามีรายได้เท่ากับรายจ่าย เราก็จะไม่มีเงินเหลือเลย และยังมีโอกาสเป็นหนี้อยู่
ถ้าเรามีรายได้มากกว่ารายจ่าย เราก็จะมีเงินเหลือ

ทีนี้คุณผู้อ่านทราบไหมคะว่า รายจ่ายมีความสัมพันธ์อย่างไรกับรายได้ มันมีความสัมพันธ์ว่า ถ้ารายได้สูงรายจ่ายก็จะเพิ่มสูงตามไปด้วย นี่เป็นความจริงอย่างแน่นอนที่สุด แล้วเราจะทำยังไงดียิ่งมีรายรับมากรายจ่ายก็ยิ่งมากตามไปด้วย

ก่อนที่เราจะมานั่งเป็นกังวลเรื่องของรายได้และรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นเป็นเงา ตามตัว เรามารู้จักแหล่งที่มาของรายได้เสียก่อน แหล่งที่มาของรายได้ของคนเรานั้นมีสองทางค่ะ ทางหนึ่งคือ รายได้จากการทำงานและอีกทางหนึ่งคือ รายได้งอกเงย

รายได้จากการทำงาน คือ รายได้ที่คนส่วนมากกำลังทำกันอยู่ทุกวันนี้ นั่นคือตื่นแต่เช้าทุกวัน ไปทำงาน ตอนเย็นกลับมาบ้าน สิ้นเดือนรับเงินเดือน

รายได้จากการทำงาน (หนัก) นี้ย่อมไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น ปกติเราขับรถไปทำงานทุกวัน ค่าใช้จ่ายสำหรับน้ำมันรถต่อเดือนเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์วิกฤตทางด้านพลังงานราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นไป ทำให้ค่าใช้จ่ายสำหรับน้ำมันรถต่อเดือนเพิ่มขึ้นไปจนถึงเดือนละ 4,000 บาท ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มต่อเดือนเฉพาะค่าน้ำมันก็เพิ่มขึ้นไปถึงเดือนละ 2,000 บาท คิดเป็น 100% ต่อเดือน นี่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอื่นๆที่ทยอยเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆตาม ราคาน้ำมัน พอสิ้นปีสมมุติว่าเงินเดือนเพิ่มขึ้น 25% (เพิ่มขึ้นมากเลยนะเนี่ย) มันก็ยังไม่พอกับค่าน้ำมันที่เพิ่มขึ้นตั้ง 200% ถ้าคุณบอกว่า งั้นขึ้นรถเมล์ไปทำงานก็ได้ ดิฉันจะบอกว่า ได้ค่ะ แต่ชีวิตคุณเริ่มไม่สะดวกสบายแล้วใช่ไหมคะ

ส่วนรายได้งอกเงย คือ รายได้ที่ได้จากการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากการลงทุนใน หุ้น พันธบัตร รายได้จากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ รายได้จากค่าลิขสิทธิ์ซอฟแวร์ ลิขสิทธิ์งานเขียน หรือรายได้จากสิ่งอื่นใดก็ตามที่คุณนำเงินไปลงทุนแล้วได้รับผลตอบแทนจากการ ลงทุนนั้นๆ โดยที่ไม่ต้องใช้แรงของคุณไปทำงาน แต่ใช้แรงของเงินไปทำงานแทน

รายได้งอกเงยหรือรายได้จากการลงทุนนั้น สามารถให้ผลตอบแทนที่มากมายมหาศาล คุณจะมีเวลาว่างมากมาย ถ้าคุณอยากได้รายได้เพิ่ม คุณก็แค่ไปลงทุนเพิ่ม อยากได้เพิ่มมากเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับคุณที่ว่าคุณต้องการให้เงินของคุณทำ งาน(หนัก)มากน้อยแค่ไหน แต่ส่วนมากแล้ว เราก็อยากให้เงินไปทำงาน(หนัก) แทนเราใช่ไหมคะ

ถ้าคุณอยากมีอิสระทางการเงินได้อย่างรวดเร็วแล้ว คุณต้องมีรายได้งอกเงย มากกว่า รายจ่ายของคุณทั้งหมด คุณถึงจะชนะเกมการเงินและมีอิสระทางการเงิน

เขียนและเรียบเรียง ณัฐพร แสงกรชัยพัฒน์
มีข้อแนะนำติชมอย่างไรส่งมาได้ที่ nsangkorn@hotmail.com

0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4