23 มีนาคม 2552

SETมีโอกาสทะลุ 434

SETมีโอกาสทะลุ434
วันที่ 23 มีนาคม 2552 05:00
โดย : บล.อยุธยา

บล.อยุธยา คาดระยะสั้นดัชนีหุ้นมีโอกาสทะลุ 434 จะยืนยันขึ้น เป้าหมาย 452 จุด และมีจุดตัดขาดทุนที่ 420 จุด

SET ปรับสูงขึ้นทดสอบเป้า 430 จุดแล้ว...อาจอ่อนตัวระยะสั้น

SET ปรับสูงขึ้นไปที่เป้าหมายการ REBOUND แรกที่เราให้ไว้บริเวณ 430 จุด ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และเริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง ปิดตลาดที่ 429.64 จุด

ทั้งนี้แม้ว่าตัวเลขการส่งออกเดือน ก.พ.จะหดตัวลงเพียง 11.3% YOY ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวเมื่อเทียบกับเดือน ม.ค.ที่มูลค่าการส่งออกหดตัวลงถึง 26.5% YOY แต่ถ้าพิจารณาในรายละเอียดแล้วจะเห็นว่า ตัวเลขการส่งออกที่หดตัวลดลงเป็นสาเหตุมาจากการส่งออกทองคำที่เพิ่มขึ้นถึง 1100% YOY เป็น US$1.8 พันล้าน ซึ่งถ้าเรานำมูลค่าการส่งออกทองคำออกจากการคำนวณจะเห็นว่ามูลค่าการส่งออก เดือน ก.พ.ยังหดตัวมากถึง 24.5% ทีเดียว

ตัวเลขการส่งออกที่หดตัวลงต่อเนื่อง ทำให้เราคาดว่าจะเห็นตัวเลขดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม อัตราการใช้กำลังการผลิต ที่ตกต่ำต่อเนื่อง และอัตราการจ้างงานมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นในช่วง 1H09 นี้

ขณะที่ล่าสุด IMF ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจโลกเหลือ -0.6% จากเดิมในเดือน ม.ค.ที่คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว +0.5%....อย่างไรก็ตามแม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่จะยังแสดงให้เห็นถึงการ ชะลอตัวต่อเนื่อง และอาจเห็นแรงขายทำกำไรบ้างที่เป้าหมายการ REBOUND แรกบริเวณ 430 จุด แต่เราคงมองเป้าหมายการปรับสูงขึ้นของ SET ในระยะกลางที่บริเวณ 480 จุด ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน เนื่องจาก

1. ตลาดหุ้นทั่วโลกมี SENTIMENT ที่ดีขึ้น เนื่องจาก ผู้บริหารสถาบันการเงินขนาดใหญ่อย่าง CITIGROUP, JP MORGAN, BANK OF AMERICA และ STANDARD CHARTERED ให้ความเห็นเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน (OPERATING) ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. ที่ฟื้นตัว ขณะที่ประธานเฟด คาดการณ์ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะจบลงภายในปี 2009 นี้ นอกจากนี้ถ้าพิจารณาจากการประมาณการเศรษฐกิจของ IMF แม้คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัว 0.6% ในปีนี้ แต่เศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวอีกครั้ง 2.3% ในปีหน้า

2. ระดับ DOWNSIDE RISK ของ SET ไม่มากนัก ทำให้เรามองว่ามีนักลงทุนบางส่วนเริ่มกลับเข้ามาสะสมหุ้นบ้าง โดยเรามองระดับ DOWNSIDE RISK ที่บริเวณ 380 - 400 จุด หรือที่ระดับ P/BV 1 เท่า เท่านั้น ขณะที่มี UPSIDE GAIN ที่ระดับ 520 จุด (อิง BOTTOM UP APPROACH) นอกจากนี้เรายังมองถึงผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงถึงระดับ 7.0% ในปัจจุบันที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปีที่ 1.25% มาก

3. ค่าเงินดอลลาร์ฯ ที่อ่อนค่าลง เป็นปัจจัยบวกต่อค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับสูงขึ้นของ SET และหุ้นกลุ่มพลังงาน

สำหรับกลุ่มหุ้นแนะนำ เล่นรอบการ REBOUND เราคงเน้นการลงทุนในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ที่เราคาดว่าจะเป็นกลุ่มหุ้นนำตลาด อย่าง PTT PTTEP TOP PTTAR BANPU BBL KBANK SCB KTB SCC LH QH MINT และ BEC


วิเคราะห์ทางเทคนิค

ตลาดมีแนวโน้มจบขาลงระยะกลาง จะฟื้นตัวขึ้นไม่เกิน 488 จุด

กราฟดัชนี SET ย้อนหลัง 2 ปี มีรูปแบบ HEAD& SHOULDERS เป็นสัญญาณกลับตัวลงของแนวโน้มระยะกลาง เมื่อเดือนพฤษภาคม 2551 ดัชนีหลุดต่ำกว่า 730 จุด ตลาดเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนกระทั่งดัชนีลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 380 จุดในเดือนพฤศจิกายน 2551 และฟื้นตัวขึ้นบ้างมาอยู่ที่ 488 จุด ชนเส้นแนวโน้มขาลงระยะกลางเมื่อต้นปี 2552 ทำให้เรากำหนดให้กรอบแนวโน้มขาลงดังกล่าวเป็นแนวต้านสำคัญ

ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สังเกตพบว่าดัชนี SET เริ่มขึ้นมาอยู่เหนือเส้นแนวโน้มขาลงระยะกลาง และจากจุดต่ำสุดเมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่บริเวณ 408 จุด ทำให้เราสร้างเส้นแนวโน้มขาขึ้นได้เป็นครั้งแรก ซึ่งจะยืนยันได้เมื่อดัชนีสามารถทะลุขึ้นมาปิดเหนือ 435 จุดได้สำเร็จ และคาดว่าดัชนี SET จะเคลื่อนไหวแบบ SIDEWAYS รูปแบบสามเหลี่ยมขาขึ้นในระยะ 3 เดือนข้างหน้า มีเป้าหมายขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 488 จุดอีกครั้ง

เครื่องมือทางเทคนิคในกราฟรายสัปดาห์ เป็นการยืนยันว่าปัจจุบันตลาดยังคงเคลื่อนไหวไร้ทิศทาง เมื่อใช้เครื่องมือ DIRECTIONAL INDICATORS จากการอ่านค่า DI+ เท่ากับ 18.88 จุด แนวโน้มฟื้นตัว, DI- เท่ากับ 35.20 จุด แนวโน้มอ่อนตัว และ ADX เท่ากับ 38.87 จุด ทิศทางลง วิเคราะห์ได้ว่า ตลาดมีความเป็นไปได้ที่จะจบแนวโน้มลง และมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
โดยคาดว่า สัปดาห์นี้จะมีความชัดเจนของการฟื้นตัวของตลาดในแนวโน้มระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม การขึ้นของตลาดยังไม่มีความรุนแรงมากพอที่จะทำให้เปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวได้

ระยะสั้นมีโอกาสทะลุ 434 จะยืนยันขึ้น เป้าหมาย 452 จุด และมีจุดตัดขาดทุนที่ 420 จุด
หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้ว ดัชนี SET เปิดช่องว่างขึ้นเหนือ 420 จุด และดัชนีขึ้นต่อเนื่องเข้าใกล้เส้นแนวโน้มขาลงระยะสั้นบริเวณ 434 จุดเป็นแนวต้านสำคัญในสัปดาห์นี้ ถ้าทะลุได้จะยืนยันการเกิดเส้นแนวโน้มขาขึ้นเส้นใหม่ที่ลากจากจุดต่ำสุด 380 จุดมายัง 408 จุด และแนวโน้มระยะกลางเป็นรูปแบบสามเหลี่ยมขาขึ้น


ในขณะที่การปรับตัวลงไม่ต่ำกว่าแนวรับ 420 จุด จะไม่ใช่สัญญาณลบที่รุนแรงนัก และยังคาดหวังการฟื้นตัวขึ้นไปทะลุ 434 จุดได้อีกครั้ง มีแนวต้านถัดไปที่ 452 จุด และเป้าหมายสูงสุดคือ 488 จุด

0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4