16 มีนาคม 2552

ดาวโจนส์ปิดบวก

ดาวโจนส์ปิดบวก 53.92 จุด จากแรงซื้อหุ้นบ.ยา-สถาบันการเงิน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ ทำสถิติปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มบริษัทยาและสถาบันการเงิน ขณะที่นักลงทุนเริ่มมองหาปัจจัยใหม่ๆที่อาจช่วยกระตุ้นให้การฟื้นตัวในตลาด เป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก มหาวิทยาลัยมิชิแกนประจำเดือนมี.ค.ที่ดีเกินคาด

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 53.92 จุด หรือ 0.75% แตะที่ 7,223.98 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 5.81 จุดหรือ 0.77% แตะที่ 756.55 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดขยับขึ้นเล็กน้อย 5.40 จุด หรือ 0.38% แตะที่ 1,431.50 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.61 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วนกว่า 2 ต่อ 1

นักลงทุนขานรับปัจจัยบวกจากการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่จัดทำ โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกนซึ่งไต่ระดับขึ้นสู่ 56.6 จุดในเดือนมี.ค.จากระดับ 56.3 จุด ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย รวมถึงกระแสคาดการณ์เรื่องการควบรวมกิจการในอุตสาหกรรมด้านการดูแลสุขภาพที่ จะเกิดขึ้นเป็นระลอก หลังจากที่มีบริษัทในภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวเทคโอเวอร์กันหลายราย

ลอว์เรนซ์ ครีทูลา นักวิเคราะห์จาก Federated Clover Investment Advisors ในนิวยอร์กกล่าวว่า "ความเคลื่อนไหวที่คึกคักในภาคอุตสาหกรรมยาดูเหมือนว่าจะเป็นปัจจัยชี้นำ ตลาดในระยะนี้ ขณะที่สถาบันการเงินก็เริ่มแสดงความคิดเห็นต่อการดำเนินธุรกิจในแง่บวกมาก ขึ้นซึ่งช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนตบเท้าเข้าส่งคำสั่งซื้อในตลาดกันอย่าง คึกคัก"

ทั้งนี้ หุ้น Humana Inc บริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐถีบตัวสูงขึ้น 7.7% เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าบริษัทจะเข้าสู่กระบวนการควบรวมกิจการ ขณะที่หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค ทะยานขึ้น 13% หลังบริษัท Sanford C. Bernstein & Co.แนะให้นักลงทุนซื้อหุ้นหลังจากที่บริษัทดังกล่าวได้เข้าซื้อกิจการของเชอ ริ่ง-พลาว

นอกจากนี้ หุ้นซิตี้กรุ๊ป อิงค์ และมอร์แกน สแตนลีย์ก็ไต่ระดับสูงขึ้นกว่า 5% เช่นกัน หลังจากที่สองบริษัท รวมถึงแบงก์ ออฟ อเมริกา และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โคเปิดเผยว่า บริษัทสามารถทำกำไรได้ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ขณะเดียวกันเจเนอรัล อิเล็กทริก โค กล่าวว่า การที่บริษัทถูกปรับลดอันดับเครดิตนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ

ที่มา:สำนักข่าวอินโฟเควสท์

0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4