ถือเงินสด รอการเมืองชัดเจน
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
โบรกคาดหุ้นวันนี้ยังคงผันผวน ขึ้นอยู่กับทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศและปัจจัยการเมือง คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวภายในกรอบแนวรับ 429-431 จุด
สภาพตลาดวันวาน : ภาคเช้าผลจากการปรับฐานของตลาดหุ้นต่าง ประเทศ จากความไม่มั่นใจว่าแผนสะสางงบดุลของภาคธนาคาร และการฟื้นฟูระบบการเงินของสหรัฐ จะได้ผลหรือไม่ ทำให้มีแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มหลักออกมาบ้าง ในขณะที่แนวโน้มผันผวนของราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า ทำให้การซื้อขายหุ้นกลุ่มพลังงานไม่คึกคักเหมือนหลายวันก่อนหน้า ส่งผลให้ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบๆ บริเวณ 437-440 จุด เกือบตลอดภาคเช้า
โดยมีปริมาณซื้อขายซบเซาลง เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์การเมืองในช่วงปลายสัปดาห์ ซึ่งกลุ่ม นปช. จะไปชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งรอดูทิศทางที่ชัดเจนของตลาดหุ้นไทย โดยดัชนีได้ปิดภาคเช้าที่ระดับ 437.21 จุด ลดลงเพียง 0.95 จุด
ภาคบ่าย : การปรับตัวลงของตลาดหุ้นหลัก ในภูมิภาคและความกังวลจากการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม นปช. ส่งผลให้ดัชนีเปิดตลาดลดลงมาอยู่ที่บริเวณ 436 จุด ประกอบกับแรงขายทำกำไรอย่างต่อเนื่องในกลุ่มธนาคารและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กดดันให้ดัชนีลดลงมาต่ำสุดที่ 433.88 จุด ก่อนที่จะมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มพลังงาน หนุนให้ดัชนีปรับตัวขึ้นจนมาปิดตลาดที่ 436.92 จุด ลดลง 1.24 จุด (-0.28%) โดยมีปริมาณการซื้อขายลดลงเป็น 7.9 พันล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 อีก 463 ล้านบาท
แนวโน้มตลาด : ขึ้นอยู่กับผลกระทบจากปัจจัยสำคัญ ต่อไปนี้
1. ทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ : ตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดแกนนำ ยังคงมีแนวโน้มปรับฐานในระยะสั้นอีกสักระยะ หลังจากตลาดเริ่มไม่แน่ใจต่อความสำเร็จของแผนซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพออกจาก งบดุลของภาคธนาคาร รวมทั้งแผนฟื้นฟูระบบการเงินของรัฐบาลสหรัฐ หลังจากเริ่มมีนักวิชาการที่มีชื่อเสียงออกมาวิจารณ์แผนช่วยเหลือดังกล่าว กันมากขึ้น
ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ไม่ว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และยอดขายบ้านใหม่เดือน ก.พ. รวมทั้งตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ปี 2551 คาดว่าจะยังคงลดลงต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้นักลงทุนมีความกังวลต่อตัวเลข GDP และผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ ในไตรมาส 1 ปี 2552 มากขึ้น โดยล่าสุดประธานาธิบดีโอบามา ได้ยอมรับว่าการฟื้นฟูภาวะถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐ คงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร
2. ปัจจัยการเมืองในประเทศ : ยังต้องจับตาดูสถานการณ์การเมืองในช่วงปลายสัปดาห์ ว่าจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด หลังกลุ่ม นปช. นัดชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แม้ว่าวันนี้นายกรัฐมนตรีจะไม่ได้เข้าไปปฏิบัติงานในทำเนียบ แต่ก็ต้องดูว่ากลุ่ม นปช. จะชุมนุมยืดเยื้อยาวนานแค่ไหน และจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่ เนื่องจากผู้นำกลุ่ม นปช. ยืนยันจะร่วมต่อสู้จนกว่าจะได้รับชัยชนะ ในขณะที่ประเด็นเศรษฐกิจคงต้องรอดูการใช้จ่ายเงินของผู้ที่ได้รับเช็คช่วย ชาติ 2 พันบาท ว่าจะมีการบริโภคสินค้าและบริการ ต่าง ๆ มากน้อยเพียงใด ภายใต้สถานการณ์ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงในช่วงนี้ คงจะทำให้นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนต่อไป
3. ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า : หลังจากราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า ได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาหลายวัน ปัจจัยหนุนส่วนใหญ่เริ่มอ่อนกำลังลง โดยเฉพาะการคาดหวังผลบวกจากมาตรการช่วยเหลือภาคธนาคารของรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ซึ่งเริ่มจะเปลี่ยนทิศทางกระเตื้องขึ้นบ้าง ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าจึงมีแนวโน้มปรับฐานลงในระยะสั้นเช่นกัน และอาจจะผันผวนรุนแรงหากปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาด
จากปัจจัยข้างต้น คาดว่าตลาดหุ้นวันนี้ ยังคงมีแนวโน้มผันผวน ขึ้นอยู่กับทิศทางของตลาดหุ้นต่าง ประเทศ และปัจจัยการเมืองในประเทศว่าจะมีแนวโน้มวุ่นวายมากน้อยเพียงใด คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวภายในกรอบแนวรับ 429-431 จุด กับแนวต้าน 439-441 จุดเช่นเดิม โดยมีปริมาณซื้อขายซบเซาลง
- นักลงทุนระยะสั้น : ลดพอร์ตลงบ้าง ช่วงดัชนีแกว่งขึ้นใกล้แนวต้าน รอซื้อคืนสัปดาห์หน้า
- นักลงทุนระยะยาว : ถือเงินสด หรือทยอย Short Against Port บ้าง หากดัชนีไม่อาจผ่านแนวต้าน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น