18 มีนาคม 2552

ดาวโจนส์พุ่งกว่า 180 จุด !!

ดาวโจนส์พุ่งกว่า 180 จุด !! นักลงทุนพอใจตัวเลขสร้างบ้าน-เงินเฟ้อ

นิวยอร์ก 18 มี.ค.-ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นกว่า 180 จุด จากข้อมูลน่าพอใจเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและตลาดอสังหาริมทรัพย์

ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องเกือบ 180 จุด โดยมีแรงซื้อเข้ามาหนาแน่นในหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินและอสังหาริมทรัพย์ หลังข้อมูลล่าสุดชี้ตัวเลขการสร้างบ้านใหม่ในเดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น สวนทางกับอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง

ขณะที่นักลงทุนคาดหวังว่า เฟดจะส่งสัญญาณที่ดีเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐในอนาคต หลังเสร็จสิ้นการประชุมเป็นเวลา 2 วันในวันนี้

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.49 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 4 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.12 พันล้านหุ้น



แรนดี้ เบทแมน นักวิเคราะห์จาก Huntington Funds ในรัฐโอไฮโอ กล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านและกลุ่มธนาคารอย่างคึกคัก หลังจากกระทรวงพาณิชย์รายงานว่าตัวเลขการสร้างบ้านใหม่พุ่งขึ้น 22.2% แตะระดับ 583,000 ยูนิตในเดือนก.พ. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขการสร้างบ้านใหม่จะร่วงลง 3.4% เหลือเพียง 450,000 ยูนิต

ตัวเลขสร้างบ้านที่พุ่งขึ้นเหนือความคาดหมายนับเป็นข่าวดีล่าสุดที่หนุนตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดได้รับปัจจัยบวกจากข่าวแบงค์ ออฟ อเมริกา, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และซิตี้กรุ๊ป สามารถทำกำไรได้ในเดือนม.ค.-ก.พ. ซึ่งช่วยให้ตลาดคลายความกังวลเรื่องปัญหาในภาคการธนาคาร

นอกจากนี้ นายปีเตอร์ แซนส์ ซีอีโอธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์รายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาด ระบุว่า ธนาคารมีผลประกอบการที่ "แข็งแกร่ง" ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ พร้อมยืนยันว่าไม่มีแผนปลดพนักงานและจะมุ่งเน้นสร้างการเติบโตในเชิงรุก ด้วยการเข้าซื้อกิจการธนาคารในเอเชียและตะวันออกกลาง และแสดงความเชื่อมั่นในสถานะเงินทุนของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด



ทั้งนี้ ข้อมูลสร้างบ้านที่สดใสช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านดีดตัวขึ้น โดยหุ้นพัลท์-โฮมส์ พุ่งขึ้น 6.7%
หุ้นเลนนาร์ คอร์ป ดีดขึ้น 8.7% หุ้นโทลล์ บราเธอร์ส พุ่งขึ้น 5.9% ส่วนหุ้นค้าปลีกเครื่องใช้ภายในบ้าน รวมถึงหุ้นโฮม ดีโปท์ และหุ้นโลว์ คอส พุ่งขึ้นกว่า 6%

หุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ปพุ่งขึ้น 7.7%
หุ้นพีเอ็นซี ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส ดีดขึ้น 4.4%
และหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ทะยานขึ้น 8.9%

ขณะที่ตลาดหุ้นสำคัญของยุโรป
ดัชนี FTSE 100 ตลาดลอนดอน ปิดที่ 3,857.10 จุด ลดลง 6.89 จุด หรือ 0.18%
ดัชนี CAC 40 ตลาดปารีส ปิดที่ 2,767.28 จุด ลดลง 24.38 จุด หรือ 0.87%
ดัชนี DAX ตลาดแฟรงก์เฟิร์ต ปิดที่ 3,987.77 จุด ลดลง 56.77 จุด หรือ 1.40%

ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนต์ ตลาดลอนดอน ขยับขึ้น 1.78 ดอลลาร์สหรัฐ
ปิดที่ 48.24 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์
ปรับเพิ่ม 1.81 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ระดับ 49.16 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ด้านราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก (17 มี.ค.) ปิดที่ 916.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
ลดลง 5.20 ดอลลาร์สหรัฐ

ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 7,395.70 จุด เพิ่มขึ้น 178.73 จุด หรือ 2.48%
ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 1,462.11 จุด เพิ่มขึ้น 58.09 จุด หรือ 4.14%
และดัชนีเอสแอนด์พี ปิดที่ 778.12 จุด เพิ่มขึ้น 24.23 จุด หรือ 3.21%

ที่มา:สำนักข่าวไทย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์

0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4