09 กันยายน 2552

ลดพอร์ตบ้าง เมื่อเข้าใกล้ 700

ลดพอร์ตบ้าง เมื่อเข้าใกล้ 700


สภาพตลาดวันวาน
ภาคเช้า : การเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นในภูมิภาค และการกลับมาซื้อสุทธิอีกครั้งของนักลงทุนต่างชาติ หนุนให้มีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มหลักเข้ามาต่อเนื่องจากวันก่อน ทำให้ดัชนีเปิดเพิ่มขึ้นกว่า 5 จุด ก่อนที่จะมีแรงขายทำกำไร กดดันให้ดัชนีอ่อนตัวลงบ้าง โดยลดลงไปต่ำสุดที่ระดับ 683.62 จุด


จากนั้นจึงมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มหลัก โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน และธนาคาร กลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หนุนให้ดัชนีแกว่งขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 690 จุด ได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี หลังจากนั้นจึงมีการขายทำกำไรออกมาบ้าง แต่ก็มีแรงรับซื้อเป็นระยะๆ หนุนให้ดัชนีแกว่งตัวแคบๆ บริเวณ 686-689 จุด เกือบตลอด 1 ชั่วโมงครึ่งสุดท้าย โดยหุ้น 3 ธนาคารใหญ่ที่ขึ้น XD เป็นวันแรก ก็ยังมีราคาเพิ่มขึ้นจากวันก่อน และดัชนีได้ปิดภาคเช้าที่ 688.95 จุด เพิ่มขึ้น 6.38 จุด โดยมีปริมาณซื้อขายหนาแน่นถึง 2 หมื่นล้านบาท

ภาคบ่าย : การเพิ่มขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าและราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า ประกอบกับข่าวการควบรวมกิจการของบริษัทในกลุ่ม PTT หนุนให้มีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มหลักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีเปิดภาคบ่ายเพิ่มขึ้นเกือบ 2 จุด และสามารถแกว่งตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 696 จุด ก่อนที่จะอ่อนตัวลงจากแรงขายทำกำไรในช่วง 30 นาทีสุดท้ายของการซื้อขาย จนมาปิดตลาดที่ 691.73 จุด เพิ่มขึ้น 9.16 จุด (+1.34%) โดยมีปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 4.3 หมื่นล้านบาท สูงที่สุดในรอบกว่า 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. 2550 เป็นต้นมา ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่อง


แนวโน้มตลาด : ขึ้นอยู่กับผลกระทบจากปัจจัยสำคัญ ต่อไปนี้

1.ทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ การดีดขึ้นต่อเนื่องจนทำระดับสูงสุดในรอบปีของตลาดหุ้นเอเชียหลายแห่ง คงจะส่งผลบวกต่อทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดแกนนำด้วยเช่นกัน แม้ว่าอาจไม่หนุนต่อตลาดหุ้นสหรัฐได้เต็มที่นัก เนื่องจากนักลงทุนในสหรัฐอาจจะรอดูสัญญาณเศรษฐกิจจากรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐในช่วงกลางสัปดาห์ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะประกาศในช่วงปลายสัปดาห์ อาทิ ตัวเลขดุลการค้าเดือน ก.ค. และงบประมาณของรัฐบาลกลาง เดือน ส.ค. ซึ่งคาดว่าจะมีตัวเลขขาดดุลเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ซึ่งอาจกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์ และการเก็งกำไรในตลาดการเงินที่เกี่ยวข้องบ้าง

2.ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ มาหลายวัน ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค. อาจจะแกว่งตัวผันผวนในกรอบที่กว้างขึ้น ตามการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งมีแนวโน้มแกว่งตัวขึ้น ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่าลง ซึ่งอาจหนุนให้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า โลหะมีค่า และสินค้าโภคภัณฑ์หลักๆ มีแนวโน้มแกว่งตัวขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานแกว่งตัวผันผวนเพิ่มขึ้น

3.ปัจจัยภายในประเทศ ปัจจัยการเมืองในระยะสั้นมีแนวโน้มผ่อนคลายลง หลังจากนายกรัฐมนตรีมีการเคลื่อนไหวในลักษณะที่จะยอมให้การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในบางประเด็น รวมทั้งแนวทางการแก้ไขปัญหาในการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่สะดวกขึ้น หลังจาก ปปช. มีมติชี้มูลความผิดของ ผบ.ตร. คนปัจจุบัน ในขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น หลังจากรัฐบาลเริ่มดำเนินการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง และเริ่มมีการคาดหวังในเชิงบวกต่อผลประกอบการไตรมาส 3/52 ของบริษัทจดทะเบียน ว่าธุรกิจหลักๆ จะยังคงมีผลประกอบการออกมาค่อนข้างน่าพอใจ ส่งผลให้นักลงทุนมีความมั่นใจต่อทิศทางของตลาดหุ้นไทยมากขึ้น

จากปัจจัยข้างต้น คาดว่าตลาดหุ้นวันนี้ มีแนวโน้มผันผวนบ้าง จากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น โดยยังคงขึ้นอยู่กับทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า และทิศทางการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวภายในกรอบแนวรับ 680-685 จุด กับแนวต้าน 695-700 จุด

กลยุทธ์ นักลงทุนระยะสั้น - ขายทำกำไร ลดพอร์ตลงบ้างที่แนวต้าน รอซื้อคืนปลายสัปดาห์
นักลงทุนระยะยาว - ถือต่อ หรือ Short Port บ้าง ที่บริเวณแนวต้าน

โกสินทร์ ศรีไพบูลย์


0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4