03 สิงหาคม 2552

กระฉูด!!

กระฉูด!!

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 ส.ค. กระฉูดมาปิดทำการที่ 641.43 จุด บวก 17.43 จุด ทำนิวไฮในรอบกว่า 10 เดือน มีมูลค่าการซื้อขาย 24,243.70 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,030 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด นำโดย PTT ปิด 248 บาท บวก 9 บาท, BANPU ปิด 394 บาท บวก 19 บาท, PTTEP ปิด 142.50 บาท บวก 4.50 บาท, KBANK ปิด 75.25 บาท บวก 2.75 บาท และ SCC ปิด 198 บาท บวก 14 บาท

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟินันเซียไซรัส ระบุว่าเงินทุนยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชีย ที่ช่วยดันตลาดให้ปรับตัวขึ้นแรง ประกอบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 3 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตามความคาดหวังว่าเศรษฐกิจครึ่งปีหลังจะฟื้นตัว ส่งผลบวกต่อการลงทุนตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทย

ขณะที่มองแนวโน้มตลาดระยะสั้น คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวรุนแรงเพราะมีโอกาสโดนแรงขายทำกำไร หลังดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง โดยต้องระวังแรงขายทำกำไรของต่างชาติ

นอกจากนี้ ตลาดยังหมดข่าวดี จากข่าวการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ทำให้นักลงทุนกลับมากังวลกับปัญหาการเมืองภายในประเทศ โดยอาจเป็นผลกดดันต่อการลงทุนอีกครั้ง

ขณะที่ต้องติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯรายสัปดาห์ รวมถึงประเด็นการยื่นถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้อดีตนายก-รัฐมนตรีของกลุ่ม นปช.ในวันที่ 17 ส.ค.นี้

แนะกลยุทธ์การลงทุน ให้เลือกซื้อหุ้นที่ยังไม่ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 แต่คาดการณ์ว่าจะออกมาดี โดยแนะให้เลือกซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี เช่น PTTCH, TOP และ BCP ส่วนกลุ่มอสังหาฯ เช่น SPALI และ QH กลุ่มอาหาร เช่น CPF และ TVO รวมทั้งกลุ่มบันเทิง เช่น BEC และ MCOT ด้านเทคนิค ประเมินแนวต้านไว้ที่ 645-650 จุด แนวรับ 630 จุด

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ เตือนว่าสิ่งที่นักลงทุนต้องระมัดระวัง คือการแกว่งตัวของหุ้นมาร์เกตแคปใหญ่ หากเริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมา อาจเป็นการส่งสัญญาณถึงการปรับฐานระยะสั้นได้

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามคือ สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง โดยเฉพาะกรณียื่นถวายฎีกาขออภัยโทษให้อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งอาจเป็นการจุดกระแสความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นอีกได้

แนะกลยุทธ์การลงทุน ให้ขายทำกำไร โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 628 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 645 จุด.



อินเด็กซ์ 51


0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4