11 พฤษภาคม 2552

ภาวะการซื้อขายหุ้น

ภาวะการซื้อขายหุ้น


ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 527.72 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.33% จาก 491.69 จุด ในสัปดาห์ก่อน และพุ่งขึ้น 17.28% จากสิ้นปี 2551

ขณะที่มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสัปดาห์เพิ่มขึ้น 20.54% จาก 67,599.27 ล้านบาท ในสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 81,482.81 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นจาก 16,899.82 ล้านบาท จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 27,160.94 ล้านบาท

โดยนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิที่ 4,824.96 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิที่ 2,424.56 ล้านบาท และ 2,400.40 ล้านบาท ตามลำดับ

ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 166.89 จุด ขยับขึ้น 1.95% จาก 163.69 จุดในสัปดาห์ก่อน และ 2.43% จากสิ้นปีก่อน

สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์นี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยและบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีน่าจะยังคงแกว่งตัวผันผวนขึ้นต่อไป โดยปัจจุบันที่ต้องติดตาม ได้แก่ การรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย.ในวันที่ 14 พ.ค.

ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ต้องติดตามความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในตลาดโลก และการปรับตัวของตลาดหุ้นภูมิภาค ตลอดจนการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ โดยคาดว่าดัชนีจะมีแนวรับอยู่ที่ 523 และ 518 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 535 และ 555 จุดตามลำดับ


ภาวะตลาดการเงิน

เงินบาทในประเทศ ทะยานขึ้นแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นเช่นเดียวกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค ท่ามกลางแรงเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯอย่างต่อเนื่อง

หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ดีเกินคาดได้กระตุ้นกระแสความต้องการเสี่ยง และลดความต้องการสกุลเงินที่เป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย นอกจากนี้ เงินบาทยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นไทย โดยมีนักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ซื้อสุทธิอีกด้วย โดยเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ 34.85 บาทต่อดอลลาร์ฯ ซึ่งเป็นระดับที่แข็งค่าสุดในรอบ 3 เดือน ส่วนเงินเยนอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ เงินยูโรลดช่วงบวกลง หลังจากแข็งค่าแตะระดับสูงสูดในรอบ 1 เดือน อยู่ที่ 1.3437 ดอลลาร์ฯต่อยูโร

และในสัปดาห์นี้ธนาคารพาณิชย์จะมีการตัดจ่ายเงินภาษีหัก ณ ที่จ่ายผ่านระบบธนาคาร อีกทั้งก็จะมีการนำส่งเงินภาษีมูลค่าเพิ่มรายเดือนผ่านระบบธนาคารในช่วงปลายสัปดาห์ด้วย จึงคาดว่าคงจะยังไม่มีปัจจัยที่ทำให้สภาพคล่องในตลาดเงินเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นน่าจะยังทรงตัวใกล้ระดับ 1.25% อย่างต่อเนื่อง และค่าเงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบประมาณ 34.80-35.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ.

บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด.

0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4