17 เมษายน 2552

ดาวโจนส์ปิดเหนือ 8,100 จุด

ดาวโจนส์ปิดบวกเหนือ 8,100 จุด "ครั้งแรกนับแต่ ก.พ."

สหรัฐ 17 เม.ย. - ตลาดหุ้นสหรัฐปิดในแดนบวกเหนือ 8,100 จุดได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือน ก.พ.
หลังนักลงทุนเชื่อว่า เศรษฐกิจในประเทศส่งสัญญาณฟื้นตัวแล้ว

ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีบวกเพิ่มขึ้น โดยมีแรงซื้อเข้าในหุ้นกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงิน
หลังจาก เจพี มอร์แกน เชส ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้ออกมาดีกว่าที่คาดไว้
หลังจากสัปดาห์ก่อน เวลส์ ฟาร์โก และ โกลด์แมน แซคส์ เป็นสถาบันการเงินอีก 2 แห่ง
ที่ประกาศผลประกอบเป็นที่น่าพอใจ ขณะที่หุ้นของ โนเกีย มีผู้ซื้อหนาแน่น
หลังข้อมูลชี้ว่า สามารถขายโทรศัพท์มือถือได้มากกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้ ช่วยให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.61 พันล้านหุ้น
มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 4 ต่อ 1
ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.37 พันล้านหุ้น

ฟิล โอแลนโด นักวิเคราะห์จาก Federated Investors ในกรุงนิวยอร์กกล่าวว่า
รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดของเจพีมอร์แกน กูเกิล และโนเกีย
ทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าภาคธุรกิจในสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพแล้ว
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่กังวลว่าผลประกอบการของซิตี้กรุ๊ปและเจนเนอรัล อิเล็กทริก
จะออกมาย่ำแย่ เพราะทั้งสองบริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการณ์การเงินโลก

เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐในแง่สินทรัพย์
รายงานว่าบริษัทมีกำไร 2.14 พันล้านดอลลาร์ หรือ 40 เซนต์ต่อหุ้น
ลดลง 10% จากระดับ 2.37 พันล้านดอลลาร์ หรือ 68 เซนต์ต่อหุ้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
แต่ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่บลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็นว่า
กำไรต่อหุ้นน่าจะอยู่ที่ 32 เซนต์

เจมี ไดมอน ซีอีโอเจพีมอร์แกนซึ่งนำเจพีมอร์แกนเข้าขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐ
เป็นจำนวนเงิน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ช่วยให้ธนาคารสามารถฝ่าฟันวิกฤตการเงินในช่วงไตรมาสสี่ปีที่แล้ว
ด้วยการลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชี ตัวเลขขาดทุน และการจัดหาสินเชื่อ รวมมูลค่า 3.33 หมื่นล้านดอลลาร์
ซึ่งถือว่าดีกว่าคู่แข่งหลายราย อาทิ ซิตี้กรุ๊ปที่มีตัวเลขดังกล่าวสูงถึง 8.83 หมื่นล้านดอลลาร์
และดีกว่าตัวเลข 5.59 หมื่นล้านดอลลาร์ของเมอร์ริล ลินช์ ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ
แบงก์ ออฟ อเมริกา ธนาคารรายใหญ่สุดของสหรัฐ

ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงขานรับโกลด์แมน แซคส์ รายงานผลกำไรไตรมาส 1 ปี 2552 ที่ 1.8 พันล้านดอลลาร์
หรือ 3.39 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
เนื่องจากกำไรจากการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ได้ช่วยชดเชยการขาดทุนจากการปล่อยกู้ในภาคอสังหาริมทรัพย์

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่า ภาคการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติกหดตัวลงในเดือนเม.ย.
แต่เป็นสถิติที่หดตัวในอัตราที่ช้าลง โดยดัชนีกิจกรรมภาคการผลิตอยู่ที่ -24.4 จุดในเดือนเม.ย.
กระเตื้องขึ้นจาก -35.0 จุด ในเดือนมี.ค. และดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าดัชนีจะอยู่ที่ -32.0 จุด

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงถูกปกคลุมด้วยความวิตกกังวลเรื่องภาวะซบเซาในตลาดอสังหาริมทรัพย์
หลังจาก RealtyTrac Inc. ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยชื่อดังในด้านอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า
จำนวนบ้านที่ถูกยึดเนื่องจากถูกบังคับจำนอง (foreclosure) ในสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ที่ 803,489 หลังในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ พุ่งขึ้น 24%
เนื่องจากภาคเอกชนลดการจ้างงานในช่วงที่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอยและโครงการก่อสร้างบ้านหลายแห่ง
ถูกเลื่อนออกไปเพราะถูกกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจ

หุ้นเจพีมอร์แกนพุ่งขึ้น 2.1% หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
ขณะที่หุ้นซิตี้กรุ๊ปปิดบวก 1.01% ก่อนการเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสในวันศุกร์นี้
ส่วนหุ้นกูเกิลพุ่งขึ้น 5% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งเกินคาด
ขณะที่หุ้นฮิวเลตต์-แพคการ์ด หุ้นไอบีเอ็ม และหุ้นแอปเปิลดีดตัวขึ้นด้วย


ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์
บวกเพิ่ม 73 เซนต์ ไปปิดที่ระดับ 49.98 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ พุ่งขึ้น 95.81 จุด ไปปิดที่ระดับ 8,125.43 จุด
เป็นการปิดเหนือ 8,100 จุด ครั้งแรก นับตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.
แนสแดค ปิดที่ระดับ 1,670.44 จุด เพิ่มขึ้น 43.64 จุด
และ เอสแอนด์พี ปิดที่ระดับ 865.30 จุด บวกเพิ่ม 13.24 จุด

ที่มา:สำนักข่าวไทย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์

0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4