05 มีนาคม 2552

ดาวโจนส์ปิดบวกอีกครั้ง

ดาวโจนส์กลับมาปิดบวกอีกครั้ง
ชื่อ:  ScreenHunter_123.gif ครั้ง: 471 ขนาด:  33.3 กิโลไบต์

สหรัฐ 5 มี.ค. - ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นวันแรก หลังถูกเทขายอย่างหนักติดต่อกันมา 5 วัน

ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีหุ้นมีแรงซื้อกลับเข้ามาอีกครั้ง หลังดัชนีถูกเทขายอย่างหนักมา 5 วันติดต่อกัน หลังข้อมูลล่าสุดของสถาบันจัดการทรัพยากรฯ ชี้ว่า ดัชนีภาคบริการในเดือน ก.พ. อยู่ที่ระดับ 41.6 ซึ่งแม้จะลดลงจากเมื่อเดือน ม.ค. แต่ก็ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้

ขณะที่รัฐบาลสหรัฐเตรียมเผยแผนช่วยเจ้าของบ้านกว่า 9 ล้านคนทั่วประเทศ
ไม่ให้สูญเสียบ้านไป ด้วยการลดภาระค่าผ่อนส่งลง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 140 จุดเมื่อคืนนี้ (4 มี.ค.)
หลังจากมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจีนจะประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
รวมทั้งข่าวที่ว่ารัฐบาลสหรัฐยังคงมุ่งมั่นฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศ
ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกถดถอย

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 149.82 จุด หรือ 2.23% แตะที่ 6,875.84 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 16.54 จุด หรือ 2.38% แตะที่ 712.87 จุด
และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 32.73 จุด หรือ 2.48% แตะ 1,353.74 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.80 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 4 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.36 พันล้านหุ้น

นิโคลัส โคลาส์ นักวิเคราะห์จาก BNY ConvergEx กล่าวว่า "เมื่อวานนี้สื่อมวลชนทั่วโลกนำเสนอข่าวที่ว่ารัฐบาลจีนอาจเพิ่มงบประมาณอีก 4 ล้านล้านหยวน หรือ 5.85 แสนล้านดอลลาร์ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและรักษาเสถียรภาพทางสังคม ซึ่งครอบคลุมถึงการสนับสนุนโครงการก่อสร้าง ทำให้นักลงทุนคาดว่าโครงการดังกล่าวจะกระตุ้นราคาวัตถุดิบทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นและจะทำให้บริษัทผลิตวัตถุดิบและสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัวขึ้นด้วย"

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐกล่าวในการประชุมที่ทำเนียบขาว ว่า เมื่อพิจารณาจากมุมมองในระยะยาวแล้ว ราคาหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงในระดับที่น่าจูงใจนักลงทุนให้เข้าช้อนซื้อเก็งกำไร โดยการแสดงความคิดเห็นของโอบามามีเป้าหมายที่จะกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน และมีขึ้นหลังจากดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงหลุดจากระดับ 7,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า คณะทำงานของโอบามาเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการให้ความช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการเปิดทางให้เจ้าของบ้านกว่า 9 ล้านคนสามารถรีไฟแนนซ์เงินกู้เพื่อให้สามารถรักษาบ้านของตนเองเอาไว้ได้

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ทะยานขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่ารัฐบาลจีนเตรียมใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยหุ้นอัลโค ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตอลูมิเนียมของโลก พุ่งขึ้น 12.8% หุ้นแคทเทอร์พิลลาร์ดีดขึ้น 13.2% หุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.1% และหุ้นเชฟรอนพุ่งขึ้น 2.7%

ส่วนหุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ดิ่งลง 4.6% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 18 ปีเนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าจีอีอาจสูญเสียเงินจำนวนมากในกิจการบริษัทในเครืออย่าง จีอี แคปิตอล

นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.พ. ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะร่วงลง 650,000 ตำแหน่ง
ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงรุนแรงที่สุดในรอบ 60 ปี

ADP Employer Services เปิดเผยว่า การจ้างงานในภาคเอกชนของสหรัฐลดลง 697,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. หลังจากลดลง 614,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ ADP เริ่มจัดเก็บข้อมูลในปีพ.ศ.2544

ด้านราคาน้ำมันดิบ
ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 3.73 ดอลลาร์สหรัฐ ไปปิดที่ 45.38 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ 6,875.84 จุด เพิ่มขึ้น 149.82 จุด
แนสแดค ปิดที่ 1,353.74 จุด เพิ่มขึ้น 32.73 จุด และ เอสแอนด์พี ปิดที่ 712.87 จุด เพิ่มขึ้น 16.54 จุด

ที่มา : สำนักข่าวไทย

0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4