24 มีนาคม 2552

หุ้นโลกพุ่งรับสหรัฐแก้ NPL

หุ้นโลกพุ่งรับสหรัฐแก้เอ็นพีแอล โบรกเกอร์คาดดัชนีส่อขยับต่อ


ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมทั้งไทย ทะยานขึ้นรับข่าวสหรัฐประกาศแผนกวาดล้างหนี้เสียในภาคธนาคาร และญี่ปุ่นส่งสัญญาณออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ด้านโบรกเกอร์ประเมินดัชนีขยับต่อหากต่างประเทศไร้ข่าวร้าย-น้ำมันเริ่มทรง ตัว


บรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (23 มี.ค.) ดัชนีปิดซื้อขายที่ระดับ 438.17 จุด เพิ่มขึ้น 8.53 จุด หรือ 1.99% มูลค่าการซื้อขาย 15,333 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,249 ล้นบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 401 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 1,651 ล้านบาท

นางอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นเพิ่มขึ้น 8.53 จุด ตามตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความหวังว่า เศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มได้ผล ส่วนไทย มีปัจจัยบวกเพิ่มขึ้นคือการพิจารณางบกลางปี มูลค่า 1.4 ล้านล้านบาท และนโยบายแจกเงิน 2 พันบาท ช่วยเหลือสำหรับผู้มีรายได้ต่ำ ในวันที่ 26 มี.ค.นี้ นอกจากนี้ ดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นเกิดแรงจูงใจมากขึ้น

สำหรับแนวโน้มดัชนีวันนี้ (24 มี.ค.) เชื่อว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หากตลาดหุ้นต่างประเทศไม่มีข่าวลบ และราคาน้ำมันยังทรงตัว หรือไม่ต่ำไปกว่าระดับปัจจุบัน โดยประเมินแนวต้านที่ 440-450 จุด และแนวรับที่ 430-420 จุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ดัชนีวานนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงและวอลุ่มแน่นกว่า 15,000 ล้านบาท มีปัจจัยบวกหลักจากการตลาดหุ้นในเอเชียที่คึกคัก ซึ่งน่าจะเป็นผลจากความคาดหวังแผนการช่วยเหลือภาคการเงินในสหรัฐ และการจัดการปัญหาหนี้เสียของสถาบันการเงิน ที่คาดว่าจะซื้อหนี้เสียออกจากระบบถึง 1 ล้านล้าน ส่งผลให้มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินและน่าจะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาด หุ้นในระยะสั้นหลังจากนี้

แนวโน้มวันนี้ คาดว่าดัชนีมีโอกาสเผชิญแรงเทขายทำกำไร หลังจากปรับขึ้นมาเร็วและแรง ในวานนี้ ซึ่งหากมองระดับค่าพีอีหุ้นไทยที่สูงถึง 10 เท่า มากกว่าระดับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ซื้อขายกันที่ประมาณ 8-9 เท่า สะท้อนว่าตลาดหุ้นไทยมีความเสี่ยงที่จะถูกขายและโยกเงินไปยังตลาดหุ้นอื่น ที่มี พีอีต่ำกว่าและมีพื้นฐานดีกว่า


หุ้นโลกขานรับแผนสหรัฐขจัดหนี้เน่า

ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกทะยานขึ้นวานนี้ โดยดัชนีหุ้นนิกเคอิในตลาดโตเกียวพุ่งขึ้น 269.57 จุด หรือ 3.39% ปิดที่ระดับ 8,215.53 วานนี้ หลังจากนายคาโอรุ โยซาโน รมว.คลังญี่ปุ่น กล่าวว่า ญี่ปุ่นอาจจำเป็นต้องเพิ่มการใช้จ่ายสาธารณะถึง 20 ล้านล้านเยน เพื่อยุติภาวะเศรษฐกิจถดถอย
นอกจากนี้ ตลาดยังได้เแรงหนุนจากแผนของกระทรวงการคลังสหรัฐ ที่จะซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากธนาคาร โดยนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐ มีกำหนดชี้แจงรายละเอียดช่วงค่ำวานนี้ แต่เขาเปิดเผยผ่านหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ก่อนหน้านั้นว่า แผนการลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนจะอุดหนุนเงินทุนเบื้องต้น 500,000 ล้านดอลลาร์ และอาจขยายเพิ่มเป็น 1 ล้านล้านดอลลาร์ในอนาคต

นักวิเคราะห์คาดว่า นายไกธ์เนอร์จะเปิดเผยแผนการ 3 ขั้นตอน โดยขั้นตอนแรก คือ การปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้แก่นักลงทุนเอกชนที่จะเข้าซื้อสินทรัพย์ด้อย คุณภาพจากธนาคาร ขั้นตอนที่สอง กระทรวงการคลังจะว่าจ้างผู้จัดการการลงทุนให้มาบริหารกองทุนของภาครัฐ-เอกชน เพื่อทำการลงทุนแสวงหาผลกำไรในสัญญาจำนองด้อยคุณภาพ และขั้นตอนที่สาม ขยายวงเงินของโครงการปล่อยกู้สำหรับหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจาก สินทรัพย์ เพื่อให้ครอบคลุมถึงการเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ตกทอดมาจากในอดีต

ตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชียดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยดัชนีหุ้นหั่งเส็งในตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้น 4.78% ปิดที่ระดับ 13,447.42 ดัชนีหุ้นสเตรตส์ไทมส์ของสิงคโปร์เพิ่มขึ้น 4.21% ปิดที่ 1,664.08 ดัชนีหุ้นคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้เพิ่มขึ้น 1.95% ปิดที่ระดับ 3,325.48 ดัชนีหุ้นคอมโพสิตมาเลเซียเพิ่มขึ้น 2.50% ปิดที่ระดับ 878.30 และดัชนีหุ้นของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 3.36% ปิดที่ระดับ 1,406.65

ด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนีหุ้นหลักไต่ระดับสูงขึ้นในช่วงเปิดตลาด โดยดัชนีหุ้นเอฟทีเอสอี 100 ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 1.4% ดัชนีหุ้นแด็กซ์ของเยอรมนีทะยานขึ้น 2.1% และดัชนีหุ้นซีเอซี 40 ของฝรั่งเศส ปรับตัวขึ้น 1.4%


0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4