20 สิงหาคม 2552

10 เดือนรัฐขาดดุล 3.7 แสนล้าน

10 เดือนรัฐขาดดุล 3.7 แสนล้าน


คลังแจงฐานะช่วง 10 เดือนรัฐบาลขาดดุลเงินสดรวมทั้งสิ้น 378,103 ล้านบาท คิดเป็น 4.3% ของจีดีพี สะท้อนถึงบทบาทของภาครัฐในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงที่ภาคเอกชนชะลอการใช้จ่าย




นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเศรษฐกิจมหภาค ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด ว่า ในเดือน ก.ค. 2552 รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณจำนวน 62,661 ล้านบาท ส่งผลให้ช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณจำนวนรวมทั้งสิ้น 449,241 ล้านบาท และเมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่เกินดุล 71,138 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวมทั้งสิ้น 378,103 ล้านบาท คิดเป็น 4.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) สะท้อนถึงบทบาทของภาครัฐในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงที่ภาคเอกชนชะลอการใช้จ่าย

ทั้งนี้ รัฐบาลได้ชดเชยการขาดดุลเงินสดด้วยการออกพันธบัตร ตั๋วสัญญาใช้เงิน และตั๋วเงินคลัง ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนก.ค.2552 เท่ากับ 278,987 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่มีความมั่นคงต่อฐานะการคลังของรัฐบาล

โดยฐานะการคลังในช่วง 10 เดือนแรกปีงบประมาณ 2552 หรือ ต.ค.2551-ก.ค.2552 นั้นรายได้นำส่งคลัง รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1,128,844 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 107,150 ล้านบาท คิดเป็น 8.7% เนื่องจากการจัดเก็บภาษีของ 3 กรมหลักที่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเงินได้นิติบุคคล อากรขาเข้า ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และภาษีธุรกิจเฉพาะ นอกจากนั้นการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจก็ลดลงด้วยเช่นเดียวกัน

ส่วนรายจ่ายรัฐบาล การเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 1,578,085 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 219,165 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16.1% ประกอบด้วยรายจ่ายปีปัจจุบัน 1,467,057 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว15.6% คิดเป็นอัตราการเบิกจ่าย 75.2% ของวงเงินงบประมาณ 1,951,700 ล้านบาท และรายจ่ายปีก่อน 111,028 ล้านบาท สูงกว่าปีที่แล้ว 22.9%

โดยรายจ่ายปีปัจจุบันจำนวน 1,467,057 ล้านบาท แบ่งออกเป็นรายจ่ายประจำ 1,228,648 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 19.1% และรายจ่ายลงทุน 238,409 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 0.8%

นายเอกนิติ กล่าวว่า สำหรับดุลการคลังรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด ขาดดุล 378,103 ล้านบาท โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 449,241 ล้านบาท ส่วนดุลเงินนอกงบประมาณเกินดุลจำนวน 71,138 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการออกพันธบัตรตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังฯ จำนวน 50,000 ล้านบาท และการได้รับรายได้จากการชดใช้เงินคงคลังจำนวน 27,540 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลได้บริหารเงินสดให้สอดคล้องกับความต้องการใช้เงิน รวมทั้งสร้างความมั่นคงของฐานะการคลัง จึงได้ชดเชยการขาดดุลดังกล่าวด้วยการออกพันธบัตร ตั๋วสัญญาใช้เงิน และตั๋วเงินคลังรวม 428,030 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสด เกินดุล 49,927 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน ก.ค.2552 มีจำนวน 278,987 ล้านบาท

สำหรับฐานะการคลังเดือน ก.ค.นั้นรัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 101,457 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 2,677 ล้านบาท คิดเป็น 2.6% โดยมีสาเหตุสำคัญจากการจัดเก็บรายได้ที่ลดลงในช่วงเศรษฐกิจหดตัว ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเงินได้นิติบุคคล และอากรขาเข้าลดลงเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้ว


0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4