หุ้นไทยมีโอกาสทำ New High ใหม่ภายใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า |
ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้บังคับบัญชา สายงานวิจัยหลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน กล่าวในรายการ Trading Hour (Afternoon) ว่า ในสัปดาห์หน้าสหรัฐฯจะประกาศตัวเลข GDP ของไตรมาส 2/52 ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยบวกสำคัญต่อการลงทุนได้ เนื่องจากนักวิเคราะห์มองว่า จะออกมาดีกว่างที่คาดไว้ คือจากติดลบ 5.5% ในไตรมาส 1/52 มาเป็นติดลบ 1.5% ในไตรมาส 2/52 นอกจากนี้ แม้ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดประมาณการณ์ GDP ของไทยในปีนี้ลง 1.5% แต่ก็ปรับเพิ่มประมาณการณ์ในปีหน้า 1.5% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่คาดกันไว้ และน่าจะทำให้หลาย ๆ สำนักมีการทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจของไทยตามมา บล.พัฒนสินเชื่อว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ตลาดหุ้นไทยจะสามารถทำสถิติ New Hi ใหม่ของปีเหมือนกับที่ตลาดหุ้นเกาหลีใต้และฮ่องกงทำได้แล้วในขณะนี้ โดยมีหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) ที่ยัง Underperform เป็นผู้นำตลาด อย่าง บมจ. ปตท. (PTT) บมจ.ปตท.สผ. (PTTEP) และ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) โดยมีห้วงเวลาของการสิ้นสุดการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/52 หรือในกลางเดือนสิงหาคมเป็นจุดสิ้นสุดที่สำคัญ หรือในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า โดยเชื่อว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะขึ้นไปทำสถิติใหม่ที่ระดับ 630 จุด “เราให้น้ำหนัก Speculative Buy 3 อาทิตย์ เราเชื่อว่าน่าจะไปถึงวันสุดท้ายที่จะประกาศงบก็คือกลางเดือนหน้า จะเป็น Earning ของไตรมาสที่แล้ว ส่วนใหญ่ออกมาเชื่อว่าเป็นโทนบวกตลอด” ถนอมศักดิ์กล่าว บล.พัฒนสินยังคาดว่า หุ้นกลุ่มที่จะสร้างความประทับใจให้กับนักลงทุนในการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/52 คือกลุ่มวัสดกุก่อสร้าง กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มพลังงาน ส่วนกลุ่มที่น่าจะสร้างความผิดหวังคือ กลุ่มค้าปลีก รับเหมาก่อสร้างและกลุ่มสื่อสาร ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 614.24 จุด เพิ่มขึ้น 2.05 จุด มูลค่าการซื้อขาย 17,685.83 ล้านบาท - นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 363.77 ล้านบาท - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 741.92 ล้านบาท - นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 1,105.69 ล้านบาท |
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น