แนะพักเงินมันนี่มาร์เก็ต รอจังหวะลงทุน
นักวิเคราะห์กองทุนรวม แนะพักเงินมันนี่มาร์เก็ต "รอจังหวะลงทุน”
หลังจากที่สินทรัพย์เสี่ยงเริ่มขยับปรับตัวขึ้นมาในตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค.2552 ถึงปัจจุบัน จากเม็ดเงินลงทุนที่เคยไหลไปพักไว้ในกองทุนตราสารตลาดเงินที่ให้ผลตอบแทนต่ำมาก เมื่อสัญญาณเศรษฐกิจเริ่มออกมาดีก็เริ่มโยกย้ายกลับเข้ามาหาผลตอบแทนที่ดีกว่ากันทั้งในตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์จนทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลก
รวมทั้งตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งในระยะสั้นเริ่มเห็นสัญญาณของการปรับฐานลดดีกรีความร้อนแรงลงมาบ้างแล้ว เราจะวางกลยุทธ์รับมือในระยะสั้นอย่างไรดี
“ศุภมาศ พยัคพันธ์” นักวิเคราะห์กองทุนรวม บมจ.หลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะนำ ในช่วงที่ราคาหุ้นและราคาน้ำมันน่าจะยังมีการปรับฐานอย่างต่อเนื่องยังแนะนำพักเงินในกองทุนตราสารตลาดเงินที่มีระดับความเสี่ยงต่ำเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ ที่มีอายุเฉลี่ย (Duration) ของตราสารหนี้ที่ลงทุนต่ำและมีสัดส่วนเงินฝากในพอร์ตการลงทุนสูงเพื่อลดความผันผวนที่อาจจะ เกิดขึ้นจากปริมาณการออกพันธบัตรภาครัฐในอนาคต ซึ่งปัจจุบันผลตอบแทนของกองทุนตราสารตลาดเงินโดยเฉลี่ยในอุตสาหกรรมจะอยู่ประมาณ 0.3-1.0%
หากเทียบกับผลตอบแทนของเงินฝากออมทรัพย์ถือว่าดีกว่า และหากจะเทียบกับเงินฝากประจำ 6 เดือน ปัจจุบันเฉลี่ยหลังหักภาษีอยู่ที่ 0.4-0.6% ส่วนเงินฝากประจำ 1 ปี ให้ผลตอบแทนสุทธิหลังหักภาษีไม่ถึง 1.0% ซึ่งจะเห็นว่าผลตอบแทนไม่ต่างกันมากแต่กองทุนตราสารตลาดเงินได้เปรียบกว่าในเรื่องของสภาพคล่องซึ่งเหมาะที่จะพักเงินเพื่อรอจังหวะลงทุนต่อไป
“แนวโน้มของดอกเบี้ยเงินฝากในตลาดยังมีโอกาสจะปรับลงได้อีก โดยมุมมองของนักวิเคราะห์ในตลาดส่วนใหญ่มองว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังมีโอกาสจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (R/P 1 วัน) ลงได้อีก 0.25% ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
เรายังแนะนำผู้ฝากเงินลงทุนในกองทุนต่างประเทศประเภท Locked-in fund ที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ทั้งหมด เพราะผลตอบแทนของกองทุนประเภทนี้ปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากการลดภาษีดอกเบี้ยหัก ณ ที่จ่ายของรัฐบาลเกาหลีใต้ โดยพันธบัตรอายุประมาณ 1 ปี ให้ผลตอบแทนประมาณ 3% กว่า ซึ่งดีกว่าผลตอบแทนดอกเบี้ยเงินฝากประจำในประเทศไทยมากพอสมควรทีเดียว”
โดยศุภมาศแนะนำให้ลดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลงในช่วงนี้ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ทองคำ หรือน้ำมันเพราะอยู่ในช่วงที่ตลาดมีโอกาสปรับฐาน จึงควรจะขายลดความเสี่ยงเข้ามาพักเงินไว้ในกองทุนตราสารตลาดเงินก่อนบางส่วนเพื่อรอความชัดเจนและหาโอกาสเข้าลงทุนต่อไป
ในส่วนของตลาดหุ้นไทยเริ่มมีการอ่อนตัวให้เห็นหลังมีปัจจัยลบมากระทบจากข่าวของ S&P ที่อาจจะมีการปรับลดอันดับเครดิตของประเทศไทยจาก BBB+ เนื่องจาก ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และจากการอัดฉีดเงินจากภาครัฐที่ลดลง โดยการส่งออกของไทยในเดือน พ.ค. 2552 ลดลง 26.6% กระทรวงพาณิชย์คาดว่า การส่งออกของไทยในปี 2552 จะหดตัว 15-19% นอกจากนี้ทางธนาคารโลกยังออกมาปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกในปีนี้ลงอีก
“ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบก็อ่อนตัวลงจากข่าวนักเก็งกำไรน้ำมันดิบล่วงหน้าในตลาด NYMEX มีการปรับลดสถานะซื้อสุทธิลงเกือบครึ่งหนึ่งในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 มิ.ย. 2552 ด้านราคาทองคำก็ลดลงเช่นกัน หลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมาประกอบกับมีข่าวว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) อาจจะมีการขายทองคำ 400 ตัน ออกมาในตลาด จึงอาจจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อราคาทองคำในระยะนี้ได้ จึงแนะนำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนในน้ำมันและทองคำในระยะนี้ออกไปก่อน”
ด้าน “สิทธิศักดิ์ ณัฐวุฒิ” ผู้อำนวยการอาวุโส หัวหน้าฝ่ายการลงทุนตราสารทุน บลจ.ยูโอบี (ไทย) บอกว่า บนสมมติฐานที่ว่าเศรษฐกิจโลกได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและกำลังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว เงินเฟ้อต่ำ อนาคตเศรษฐกิจมีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้ในอีก 1-3 ปีข้างหน้า จังหวะนี้การลงทุนในหุ้นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด โดยแนะนำให้นักลงทุนลงทุนในหุ้นประมาณ 60% ของพอร์ต
ในส่วนนี้ควรจะกระจายไปในหุ้นจีน 20% หุ้นเอเชีย 10% และหุ้นไทยอีก 10% ส่วนที่เหลืออีก 20% กระจายไปในโอกาสลงทุนในหุ้นสหรัฐในบริษัทที่แข็งแกร่งคิดว่ายังไงก็ต้องฟื้นตรงนี้เป็นโอกาสเช่นกัน แบ่งลงทุนในตราสารหนี้ 30% โดยเน้นหุ้นกู้ภาคเอกชนเพื่อลดผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่อาจจะปรับสูงขึ้นได้จากการออกพันธบัตรจำนวนมากของรัฐบาล ที่เหลืออีก 10% เป็นสินค้าโภคภัณฑ์และอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีโอกาสจะปรับขึ้นได้เมื่อเศรษฐกิจฟื้น
คำแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้นและการจัดพอร์ตให้เหมาะสมกับสถานการณ์น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ลงทุนอยู่บ้างไม่มากก็น้อย
Categories
- กองทุน (2)
- ข่าวห้องค้า (7)
- ความรู้ หุ้น (15)
- ความรู้อนุพันธ์ (6)
- ความรู้อนุพันธ์;TFEX (1)
- ความรู้ SET (5)
- คอลัมน์ทองคำ (1)
- คอลัมน์หุ้น (30)
- ค่าเงิน (4)
- ค่าระวางเรือ (2)
- ดอกเบี้ย (6)
- ตลาดเงิน (3)
- ตลาดหุ้นทั่วโลก (9)
- ตลาดหุ้นไทย (239)
- ตลาดหุ้นสหรัฐ (46)
- ตลาดหุ้นสหรัฐ;เศรษฐกิจสหรัฐ (2)
- ตัวเลขส่งออก (1)
- ตัวเลข GDP (2)
- ทองคำ (14)
- น้ำมัน (15)
- แนวโน้มตลาดรายวัน (8)
- บทความหุ้น (56)
- ปฎิทินหุ้น (3)
- แผนกู้วิกฤตการเงิน (19)
- วอร์แรนท์ (3)
- เศรษฐกิจญี่ปุ่น (1)
- เศรษฐกิจไทย (91)
- เศรษฐกิจโลก (29)
- เศรษฐกิจสหรัฐ (11)
- หุ้น (65)
- หุ้นกู้ (3)
- หุ้นเด่นวันนี้ (4)
- หุ้นแบงค์ (2)
- G20 (3)
- warrant (1)
--==::: ข่าวประกาศ :::==--
ตลาดหลักทรัพย์ เปลี่ยนช่วงราคา และการแสดงราคา จาก 3 ระดับเป็น 5 ระดับ เริ่มวันจันทร์ 30 มี.ค.2552
บทความย้อนหลัง
- 05 ก.ค. (1)
- 11 ก.ย. (3)
- 09 ก.ย. (6)
- 03 ก.ย. (3)
- 02 ก.ย. (2)
- 27 ส.ค. (2)
- 20 ส.ค. (3)
- 18 ส.ค. (4)
- 10 ส.ค. (4)
- 04 ส.ค. (1)
- 03 ส.ค. (5)
- 30 ก.ค. (5)
- 28 ก.ค. (4)
- 27 ก.ค. (3)
- 24 ก.ค. (4)
- 23 ก.ค. (4)
- 22 ก.ค. (5)
- 21 ก.ค. (3)
- 20 ก.ค. (7)
- 17 ก.ค. (3)
- 16 ก.ค. (4)
- 15 ก.ค. (2)
- 14 ก.ค. (4)
- 13 ก.ค. (5)
- 10 ก.ค. (5)
- 09 ก.ค. (5)
- 08 ก.ค. (4)
- 03 ก.ค. (6)
- 30 มิ.ย. (5)
- 29 มิ.ย. (6)
- 26 มิ.ย. (4)
- 25 มิ.ย. (5)
- 24 มิ.ย. (5)
- 23 มิ.ย. (5)
- 22 มิ.ย. (5)
- 19 มิ.ย. (5)
- 18 มิ.ย. (5)
- 17 มิ.ย. (4)
- 16 มิ.ย. (4)
- 15 มิ.ย. (6)
- 12 มิ.ย. (5)
- 11 มิ.ย. (4)
- 10 มิ.ย. (4)
- 09 มิ.ย. (4)
- 08 มิ.ย. (4)
- 05 มิ.ย. (5)
- 04 มิ.ย. (4)
- 03 มิ.ย. (1)
- 28 พ.ค. (4)
- 27 พ.ค. (4)
- 26 พ.ค. (6)
- 25 พ.ค. (6)
- 22 พ.ค. (8)
- 21 พ.ค. (5)
- 20 พ.ค. (4)
- 19 พ.ค. (3)
- 14 พ.ค. (3)
- 13 พ.ค. (2)
- 12 พ.ค. (2)
- 11 พ.ค. (5)
- 07 พ.ค. (3)
- 06 พ.ค. (4)
- 30 เม.ย. (4)
- 29 เม.ย. (5)
- 28 เม.ย. (4)
- 24 เม.ย. (4)
- 23 เม.ย. (4)
- 22 เม.ย. (4)
- 20 เม.ย. (3)
- 17 เม.ย. (4)
- 16 เม.ย. (4)
- 10 เม.ย. (5)
- 09 เม.ย. (3)
- 08 เม.ย. (7)
- 07 เม.ย. (7)
- 05 เม.ย. (4)
- 03 เม.ย. (7)
- 02 เม.ย. (8)
- 01 เม.ย. (8)
- 31 มี.ค. (5)
- 30 มี.ค. (6)
- 29 มี.ค. (4)
- 28 มี.ค. (2)
- 27 มี.ค. (9)
- 26 มี.ค. (8)
- 25 มี.ค. (4)
- 24 มี.ค. (6)
- 23 มี.ค. (7)
- 20 มี.ค. (6)
- 19 มี.ค. (9)
- 18 มี.ค. (6)
- 17 มี.ค. (6)
- 16 มี.ค. (7)
- 13 มี.ค. (3)
- 12 มี.ค. (3)
- 11 มี.ค. (5)
- 10 มี.ค. (8)
- 09 มี.ค. (7)
- 05 มี.ค. (7)
- 04 มี.ค. (6)
- 03 มี.ค. (3)
- 02 มี.ค. (5)
- 27 ก.พ. (5)
- 26 ก.พ. (2)
- 25 ก.พ. (5)
- 18 ก.พ. (2)
- 17 ก.พ. (3)
- 16 ก.พ. (2)
- 12 ก.พ. (2)
- 11 ก.พ. (3)
- 09 ก.พ. (1)
08 กรกฎาคม 2552
แนะพักเงินมันนี่มาร์เก็ต
โดย Mboy เวลา 09:34
ป้ายกำกับ: ตลาดหุ้นไทย, เศรษฐกิจไทย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น