20 กรกฎาคม 2552

"จีอี"แจงขายพอร์ตเข้า"กรุงศรีฯ"

"จีอี"แจงขายพอร์ตเข้า"กรุงศรีฯ"ชูกลยุทธ์ร่วมทุนเสริมแกร่ง


"จีอี" แจงขายธุรกิจเข้าเครือแบงก์กรุงศรีฯช่วยเสริมประสิทธิภาพธุรกิจ แถมขานรับนโยบาย ธปท. ชี้ธุรกิจการเงินไทยเข้มแข็ง-ศักยภาพเติบโตดี ชูนโยบายจับมือพันธมิตรขยายธุรกิจเร็วกว่า ยืนยันลงทุนในไทยต่อเนื่อง



หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกรุงศรี อยุธยาได้เข้าซื้อธุรกิจในเครือของจีอี มันนี่ ประเทศไทย และธุรกิจบางส่วนของอเมริกัน อินเตอร์แนชชั่นแนล กรุ๊ป อิงก์ หรือ AIG ด้วยมูลค่าเงินลงทุนเกือบ 1.4 หมื่นล้านบาท เพื่อเสริมศักยภาพในการ เข้าถึงลูกค้ารายย่อยมากขึ้นบนฐานลูกค้าของธุรกิจจีอี มันนี่ ที่มีกว่า 3 ล้านบัญชี และตอบโจทย์นโยบายของธนาคารที่ต้องการเป็นผู้ให้บริการทางการเงินที่ครบวงจร (universal banking)

นายพรเลิศ ลัธธนันท์ ประธาน จีอี ประเทศไทย เปิดเผยว่า กรณีที่กลุ่มจีอีได้ขายหุ้นในธุรกิจทางการเงินในตลาดรายย่อยให้แก่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ถือเป็น การดำเนินตามนโยบายที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องการให้รวมธุรกิจเข้าไว้ในเครือเดียวกัน ภายใต้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจเดียวกัน เพื่อให้การกำกับดูแลและดำเนินธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งกลุ่มจีอีได้ปรึกษากับธนาคารกรุงศรีฯที่มีความสนใจ จึงนำมาสู่การปรับโครงสร้างธุรกิจ

สำหรับเหตุผลที่ทำให้กลุ่มจีอียังลงทุนเพิ่มขึ้นในธุรกิจการเงินของไทย นายพรเลิศกล่าวว่า ธุรกิจการเงินในไทยมีความน่าสนใจและมีการพัฒนาสูงขึ้นมากเทียบกับในระยะที่ผ่านมา และที่สำคัญภาคธุรกิจการเงินไทยมีระบบที่เข้มแข็ง รวมถึงสามารถสนับสนุนทางธุรกิจในเครือจีอีได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้กลุ่มจีอีเองได้ปรับแนวคิดมาเน้นดำเนินธุรกิจร่วมกับพันธมิตรที่มีแนวคิดทางธุรกิจที่สอดคล้องกัน เพื่อสนับสนุนให้มีการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

"สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับกลุ่มจีอี เพราะรูปแบบธุรกิจที่กลุ่มจีอีเข้าไปลงทุนในธุรกิจการเงินหลายประเทศก็ได้ปรับโครงสร้างในลักษณะเดียวกัน เช่น ในเกาหลีที่เราเข้าไปร่วมทำธุรกิจกับบริษัท ฮุนไดที่เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหญ่ที่สุดในเกาหลี เราก็กลายเป็นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดไปด้วย ซึ่งแต่เดิมกลุ่มจีอีเคยคิด ที่จะต้องการทำธุรกิจเองทั้งหมด แต่เมื่อโลกาภิวัตน์ที่ขยายกว้างขึ้น เราก็คงไม่สามารถเข้าไปลงทุนทำธุรกิจได้เองทั้งหมด จึงค่อยปรับมาเป็นการร่วมทุนด้วยการเป็น ผู้ถือหุ้นใหญ่ หรืออย่างในกรณีของการลงทุนในธนาคารกรุงศรีฯ เราก็ถือว่าเป็นเพียงกลุ่มหนึ่งที่มีสัดส่วนการถือหุ้นมากที่สุดกว่า 30% แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพราะไม่ได้ถือหุ้นเกิน 50%"

นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจอื่นๆ ที่กลุ่มจีอีมีความสนใจจะลงทุนในประเทศไทยนั้น นายสจ๊วต ดีน ประธานจีอี อาเซียน กล่าวว่า กลุ่มจีอียังมีความสนใจขยายการลงทุนในอีกหลายธุรกิจในไทย ทั้งธุรกิจด้านการบิน, พลังงานและพลังงานทางเลือก, ระบบการขนส่งมวลชน, ธุรกิจสุขภาพและการแพทย์ รวมถึงบริการทางการเงินแก่ภาคธุรกิจอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนให้มีการลงทุนใน 2 ธุรกิจสำคัญ คือ พลังงานทางเลือกและธุรกิจเช่าซื้อเครื่องบิน

"กลุ่มจีอียังมีความสนใจที่จะลงทุนในไทยต่อเนื่อง เพราะเป็นตลาดขนาดใหญ่ นอกจากนี้ไทยถือเป็นประเทศผู้นำในตลาดอาเซียน และยังเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของกลุ่มจีอีในอาเซียนด้วย ทำให้กลุ่มจีอีมีฐานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่อยู่ในไทยหลายราย ซึ่งปีนี้รายได้ของกลุ่มจีอีในไทยยังเติบโตได้ถึง 20% ขณะที่แนวโน้มรายได้รวมของกลุ่มจีอีทั่วโลกปีนี้อาจทรงตัวเป็นปีแรก หลังเติบโตเฉลี่ย 20% มาตลอด ตั้งแต่ปี 2544"

ทั้งนี้การลงทุนของกลุ่มจีอีในครึ่งปีแรกจะเน้นไปที่การลงทุนขนาดกลาง เช่น ในกลุ่มสุขภาพและการแพทย์, พลังงาน และเครื่องยนต์ รวมถึงน้ำมันและก๊าซ แต่ยัง ไม่ได้เข้าไปลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ เนื่องจากต้องรอดูสัญญาณความชัดเจนของรัฐบาลเป็นหลัก



0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4