สัปดาห์หน้ายังอันตราย
แรงขายที่ยังหนักหน่วงของนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังคงเป็นเหตุมาจาก การปรับตัวขึ้นแรงของดัชนี SET ในช่วงตั้งแต่กลางเดือนเม.ย. เป็นต้นมาส่งผลให้ค่า P/E ของตลาดหุ้นไทยขึ้นมาสูงสุดอย่างที่ไม่เคยเป็นในรอบ 10 ปี คือทะลุ 20 เท่า โดยมีปัจจัยหนุนจากแรงซื้อต่างชาติมาเข้าอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนรายย่อยกลับเข้าตลาดมากขึ้นเม็ดเงินที่ไหลเข้ามายังเอเชียในรอบนี้มีทั้งประเภทลงทุนและเก็งกำไร ซึ่งจะเห็นได้จากแรงซื้อลงทุนในหุ้นธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ ส่วนประเภทเก็งกำไรก็ดูได้จากการซื้อหุ้นพลังงาน และปิโตรเคมี ที่เข้าซื้ออย่างมากในช่วง เม.ย. ถึงกลาง พ.ค. แต่พอถึงปัจจุบันกลับมีแรงขายออกมาอย่างหนัก เพราะการเล่นในกลุ่มนี้เป็นการเล่นอิงกับราคาน้ำมันดิบในแต่ละวัน (มากกว่าซื้อแล้วถือยาว) เนื่องจากจะมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมัน และปิโตรเคมี
แรงขายหุ้นพลังงานอย่างหนักส่งผลให้ดัชนี SET ปรับตัวลงอย่างรุนแรง และมีทีท่าว่าจะยังมีแรงขายออกมาอีก เนื่องจาก
1. ราคาหุ้นในปัจจุบันถือว่ายังแพง
2. ผลดำเนินงาน Q2 ที่จะทยอยประกาศยังถือว่าไม่ดีขึ้นกว่า Q1 จะมีก็เพียง PTTEP ที่กำไรจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก Q1 โดยหุ้นโรงกลั่นแม้จะได้กำไรจากการสต็อกน้ำมันแต่จะถูกหักล้างจากค่าการกลั่นที่ยังต่ำกว่า Q1 โดยใน Q1 ค่าการกลั่นเฉลี่ยในสิงคโปร์อยู่ที่ 5.5 แต่ใน Q2 อยู่ที่ 4.3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน BANPU กำไรใน Q2 จะต่ำสุดของปี
3. ในส่วน Spread ของปิโตรเคมีในสายของพาราไซลีนปรากฏกว่าปรับตัวลงแรง ดังนั้นหุ้นโรงกลั่นหลังจากนี้คือ Q3 จะยังถูกกดดันจากค่าการกลั่นที่ไม่ดีขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันดิบน่าจะมีแนวโน้มปรับตัวลง (จนอาจเกิดการขาดทุนจากการสต็อกน้ำมัน) และการเข้ามาของโรงกลั่นใหม่ในจีน 3 โรงรวมทั้งการเพิ่มกำลังการผลิตของโรงกลั่นที่มีอยู่ในปัจจุบัน
เมื่อหุ้นพลังงานขึ้นไม่ได้ และยังมีแรงขายอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับไม่มีแรงซื้อหุ้นธนาคารพาณิชย์ และอสังหาริมทรัพย์เข้ามาหนุนแต่กลับขายตามลักษณะอย่างนี้จะส่งผลให้ดัชนี SET ปรับตัวลงแรงมาก และโอกาสการดีดตัวกลับมีได้ยากขึ้นหากมีก็ไปได้ไม่ไกล ประกอบกับที่ผ่านมาข่าวที่เป็นปัจจัยบวกกับตลาดทั้งต่างประเทศ และในประเทศตลาดรับรู้ไปมากแล้ว นอกจากนั้นการที่ดัชนีดาวโจนส์แกว่งตัวในกรอบที่แคบลงทุกวันก็กำลังบอกว่าข่าวดีในเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจตลาดรับทราบล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นตลาดดาวโจนส์จะเป็นอย่างไรคงขึ้นอยู่กับผลดำเนินงาน Q2 ที่จะทยอยประเทศในกลางเดือนหน้า โดยเฉพาะหุ้นสถาบันการเงินที่ปรากฏกว่าจะออกมาไม่ดีกว่า Q1 (จากข้อมูล IBES)
สำหรับแรงขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นเกิดใหม่ในเอเชียน่าจะเริ่มมีมากขึ้นตามลำดับ หลังจากที่ดัชนีแต่ละประเทศปรับตัวขึ้นสร้างสถิติสูงสุดคงมีเหตุผลเดียวก็คือเริ่มแพง เนื่องจากมองว่าอัตราการทำกำไรใน Q2 และ Q3 นี้ของบริษัทจดทะเบียนจะยังไม่ดีขึ้น แม้หลายโบรกเกอร์ของต่างชาติจะเริ่มปรับมุมมองของค่า EPS ของแต่ละตลาดเพิ่มขึ้นรวมทั้งปรับราคาเป้าหมายดัชนีใน 12 เดือนข้างหน้าในหลาย ๆ ตลาดเพิ่มขึ้นรวมทั้งไทยตรงนี้ถือว่ายังยาวเกินไปสำหรับภาวะที่เป็นอยู่ในขณะนี้
ดังนั้นในสัปดาห์หน้าทิศทางตลาดหุ้นไทยจะยังเป็นขาลงอย่างต่อเนื่องและจะหลุดที่ 550 จุด และเรายังคงให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปรับหุ้นจนกว่าดัชนีจะลงมาที่ระดับ 520-525 จุด (ประเมินขั้นต้น)
สำหรับในช่วงที่ตลาดยังเป็นขาลง หุ้นที่ยังพอถือหรือเล่นสั้น ๆ ได้ยังคงเป็น BEC จากผลดำเนินงาน Q2 ออกมาดีคือเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ (ราคาเป้าหมายที่ 23.5 บาท) และ TPIPL จากเหตุที่ P/BV ยังเล่นกันต่ำกว่าในช่วงเกิดวิกฤติเศรษฐกิจของบริษัทในปี 40 (ราคาเป้าหมายที่ 6.7 บาท)
------------------------------------------------
ที่มา...บล.ซิกโก้ นักวิเคราะห์ เกียรติก้อง เดโช
Categories
- กองทุน (2)
- ข่าวห้องค้า (7)
- ความรู้ หุ้น (15)
- ความรู้อนุพันธ์ (6)
- ความรู้อนุพันธ์;TFEX (1)
- ความรู้ SET (5)
- คอลัมน์ทองคำ (1)
- คอลัมน์หุ้น (30)
- ค่าเงิน (4)
- ค่าระวางเรือ (2)
- ดอกเบี้ย (6)
- ตลาดเงิน (3)
- ตลาดหุ้นทั่วโลก (9)
- ตลาดหุ้นไทย (239)
- ตลาดหุ้นสหรัฐ (46)
- ตลาดหุ้นสหรัฐ;เศรษฐกิจสหรัฐ (2)
- ตัวเลขส่งออก (1)
- ตัวเลข GDP (2)
- ทองคำ (14)
- น้ำมัน (15)
- แนวโน้มตลาดรายวัน (8)
- บทความหุ้น (56)
- ปฎิทินหุ้น (3)
- แผนกู้วิกฤตการเงิน (19)
- วอร์แรนท์ (3)
- เศรษฐกิจญี่ปุ่น (1)
- เศรษฐกิจไทย (91)
- เศรษฐกิจโลก (29)
- เศรษฐกิจสหรัฐ (11)
- หุ้น (65)
- หุ้นกู้ (3)
- หุ้นเด่นวันนี้ (4)
- หุ้นแบงค์ (2)
- G20 (3)
- warrant (1)
--==::: ข่าวประกาศ :::==--
ตลาดหลักทรัพย์ เปลี่ยนช่วงราคา และการแสดงราคา จาก 3 ระดับเป็น 5 ระดับ เริ่มวันจันทร์ 30 มี.ค.2552
บทความย้อนหลัง
- 05 ก.ค. (1)
- 11 ก.ย. (3)
- 09 ก.ย. (6)
- 03 ก.ย. (3)
- 02 ก.ย. (2)
- 27 ส.ค. (2)
- 20 ส.ค. (3)
- 18 ส.ค. (4)
- 10 ส.ค. (4)
- 04 ส.ค. (1)
- 03 ส.ค. (5)
- 30 ก.ค. (5)
- 28 ก.ค. (4)
- 27 ก.ค. (3)
- 24 ก.ค. (4)
- 23 ก.ค. (4)
- 22 ก.ค. (5)
- 21 ก.ค. (3)
- 20 ก.ค. (7)
- 17 ก.ค. (3)
- 16 ก.ค. (4)
- 15 ก.ค. (2)
- 14 ก.ค. (4)
- 13 ก.ค. (5)
- 10 ก.ค. (5)
- 09 ก.ค. (5)
- 08 ก.ค. (4)
- 03 ก.ค. (6)
- 30 มิ.ย. (5)
- 29 มิ.ย. (6)
- 26 มิ.ย. (4)
- 25 มิ.ย. (5)
- 24 มิ.ย. (5)
- 23 มิ.ย. (5)
- 22 มิ.ย. (5)
- 19 มิ.ย. (5)
- 18 มิ.ย. (5)
- 17 มิ.ย. (4)
- 16 มิ.ย. (4)
- 15 มิ.ย. (6)
- 12 มิ.ย. (5)
- 11 มิ.ย. (4)
- 10 มิ.ย. (4)
- 09 มิ.ย. (4)
- 08 มิ.ย. (4)
- 05 มิ.ย. (5)
- 04 มิ.ย. (4)
- 03 มิ.ย. (1)
- 28 พ.ค. (4)
- 27 พ.ค. (4)
- 26 พ.ค. (6)
- 25 พ.ค. (6)
- 22 พ.ค. (8)
- 21 พ.ค. (5)
- 20 พ.ค. (4)
- 19 พ.ค. (3)
- 14 พ.ค. (3)
- 13 พ.ค. (2)
- 12 พ.ค. (2)
- 11 พ.ค. (5)
- 07 พ.ค. (3)
- 06 พ.ค. (4)
- 30 เม.ย. (4)
- 29 เม.ย. (5)
- 28 เม.ย. (4)
- 24 เม.ย. (4)
- 23 เม.ย. (4)
- 22 เม.ย. (4)
- 20 เม.ย. (3)
- 17 เม.ย. (4)
- 16 เม.ย. (4)
- 10 เม.ย. (5)
- 09 เม.ย. (3)
- 08 เม.ย. (7)
- 07 เม.ย. (7)
- 05 เม.ย. (4)
- 03 เม.ย. (7)
- 02 เม.ย. (8)
- 01 เม.ย. (8)
- 31 มี.ค. (5)
- 30 มี.ค. (6)
- 29 มี.ค. (4)
- 28 มี.ค. (2)
- 27 มี.ค. (9)
- 26 มี.ค. (8)
- 25 มี.ค. (4)
- 24 มี.ค. (6)
- 23 มี.ค. (7)
- 20 มี.ค. (6)
- 19 มี.ค. (9)
- 18 มี.ค. (6)
- 17 มี.ค. (6)
- 16 มี.ค. (7)
- 13 มี.ค. (3)
- 12 มี.ค. (3)
- 11 มี.ค. (5)
- 10 มี.ค. (8)
- 09 มี.ค. (7)
- 05 มี.ค. (7)
- 04 มี.ค. (6)
- 03 มี.ค. (3)
- 02 มี.ค. (5)
- 27 ก.พ. (5)
- 26 ก.พ. (2)
- 25 ก.พ. (5)
- 18 ก.พ. (2)
- 17 ก.พ. (3)
- 16 ก.พ. (2)
- 12 ก.พ. (2)
- 11 ก.พ. (3)
- 09 ก.พ. (1)
19 มิถุนายน 2552
สัปดาห์หน้ายังอันตราย
โดย Mboy เวลา 09:06
ป้ายกำกับ: ตลาดหุ้นไทย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น