คาด"มาร์เก็ตแคป" กลุ่มปตท. ครึ่งปีหลังรุ่งราคาน้ำมันหนุน
มาร์เก็ตแคป หุ้นกลุ่ม ปตท.ครึ่งแรกปีนี้เติบโตประมาณ 30% เทียบกับครึ่งปี 2551 ขณะที่ ปตท.สผ.ขยับน้อยที่สุด 18% ด้านโบรกฯ คาดว่าผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.7% แต่จะลดลง 47% หากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณการขายสูงขึ้น คาดว่าทั้งปีกำไรสุทธิ 2.8 หมื่นล้านบาท
จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า มูลค่าตลาดรวมหุ้นกลุ่มปตท. 6 บริษัทรวมอยู่ที่ 1.32 ล้านล้านบาท เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1.01 ล้านล้านบาท คิดเป็น 30.75% โดยหุ้น ปตท.อะโรเมติกส์ และการกลั่น (PTTAR) มาร์เก็ตแคปเพิ่มขึ้น 80.61% จากระดับ 2.90 หมื่นล้านบาท เป็น 5.24 หมื่นล้านบาท รองลงมาหุ้น ปตท.เคมิคอล (PTTCH) เพิ่มขึ้น 65.35% จากระดับ 4.75 หมื่นล้านบาท เป็น 7.85 หมื่นล้านบาท
หุ้นไออาร์พีซี (IRPC) เพิ่มขึ้น 48.15% จากระดับ 4.25 หมื่นล้านบาท เป็น 6.3 หมื่นล้านบาท หุ้นไทยออยล์ (TOP) เพิ่มขึ้น 44.07%จากระดับ 4.81 หมื่นล้านบาทเป็น 6.93 หมื่นล้านบาท หุ้น ปตท.(PTT) เพิ่มขึ้น 30.31% จากระดับ 4.49 แสนล้านบาท เป็น 6.44 แสนล้านบาท และ หุ้น ปตท.สผ (PTTEP) เพิ่มขึ้น 18.71% จากระดับ 3.53 แสนล้านบาท เป็น 4.20 แสนล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า การที่ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวขึ้นมายืนระดับ 66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจาก 37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อปลายปีก่อน ทำให้คาดว่าแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังกลุ่ม ปตท.น่าจะฟื้นตัวได้จากการที่ทิศทางเศรษฐกิจที่น่าจะฟื้นตัว และช่วยหนุนให้ราคาน้ำมันดิบดูไบกระเตื้องน่าจะไต่ระดับ 70-80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่ง บล.กิมเอ็ง ได้ปรับประมาณการราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปีนี้ใหม่ขึ้นเป็น 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ดังนั้นผลประกอบการครึ่งปีหลัง น่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก
"ปัจจุบันส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีมาถึงปัจจุบันขึ้นมาอยู่ที่ 51.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ดีขึ้นกว่าไตรมาสแรกที่มีราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 44.6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลและดีกว่าสมมติฐานราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยทั้งปีของเราที่ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนให้ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวตามไปทำให้ต้องปรับประมาณการผลกำไรของบริษัทปตท.ปีนี้ขึ้นอีก 13% คาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5.45 หมื่นล้านบาทเติบโต 5.6%จากปีก่อน"นักวิเคราะห์กล่าว
ฝ่ายวิจัยคาดว่าผลประกอบการของบริษัทที่จะฟื้นตัวขึ้นทุกหน่วยธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP), ธุรกิจก๊าซ, ธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจปิโตรเคมี (คาดธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีจะรายงานกำไรสูงสุดของปีในไตรมาสนี้ตามการพุ่งขึ้นของราคาปิโตรเคมีและผลกำไรจากสต็อกน้ำมันของธุรกิจโรงกลั่น)ในไตรมาสที่ 2/2552 และในครึ่งปีหลังจะเป็นปัจจัยสำคัญสนับสนุนให้บริษัทสามารถทำกำไรได้ตามที่คาดไว้ได้ ส่วนคำแนะนำการลงทุนให้ซื้อลงทุนหุ้นปตท.โดยแนะนำให้นักลงทุนเข้าทยอยสะสมหุ้นเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวลง ในช่วงที่ราคาน้ำมันมีการปรับฐานลง โดยคาดว่าราคาน้ำมันจะฟื้นตัวได้ดีในครึ่งปีหลัง
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ แนะนำหาจังหวะขายหุ้นปตท.สผ. หลังได้เข้าฟังข้อมูลจากผู้บริหารของบริษัทเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา พบว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2552 จะมีปัจจัยบวกจากปริมาณขายที่คาดจะเพิ่มขึ้นราว 2% จากงวดไตรมาสแรก ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยแม้จะมีแรงกดดันจากการปรับลดราคาค่าก๊าซ (โดยเฉพาะจากแหล่งบงกชและไพลิน) แต่จะได้รับชดเชยจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบ ทำให้คาดราคาขายเฉลี่ยไตรมาสนี้จะเพิ่มขึ้น โดยคาดจะอยู่ที่ราว 38.7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 4.5% งวดไตรมาสแรก และประเมินยอดขายรวมไตรมาสที่ 2 จะอยู่ที่ราว 2.63 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 5%จากงวดไตรมาสแรก แต่ลดลง 29% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ทางด้านค่าใช้จ่ายต่างๆ ล่าสุดทางบริษัทระบุยังไม่มีการตัดจำหน่ายหลุมใดๆ อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น หากพิจารณาบนสมมติฐานดังกล่าว คาดกำไรสุทธิไตรมาส ที่ 2/2552 จะอยู่ที่ประมาณ 6.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.7%จากงวดไตรมาสที่ 1/2552 แต่ลดลง 47%งวดเดียวกันของปีก่อน สำหรับแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปี คาดผลการดำเนินงานจะปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกเนื่องจากปริมาณขายที่คาดจะเพิ่มขึ้นจากแหล่ง อาทิตย์เหนือและ MTJDA ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยที่คาดจะสูงขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับปี 51 แล้วคาดจะชะลอตัวหนักเนื่องจากราคาน้ำมันที่คาดจะลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อน โดยยังคงประมาณการปี 2552 ตามเดิม โดยคาดว่ากำไรสุทธิที่ราว 2.8 หมื่นล้านบาท ลดลง 31% จากงวดเดียวกันปีก่อน
ทั้งนี้ มองว่าด้วยปัจจัยพื้นฐานระยะสั้น ของทางบริษัทเองไม่ได้มีปัจจัยบวกที่ชัดเจนในการผลักดันราคาหุ้น ขณะที่ราคาน้ำมันคาดจะเริ่ม Sideways หลังจากที่ปรับขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรก ราคาหุ้น ปตท.สผ. มีความสัมพันธ์ กับราคาน้ำมันราว 91% ดังนั้น คาดทิศทางเคลื่อนไหวของราคาหุ้นจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาด และไม่โดดเด่น ซึ่งราคาหุ้นปัจจุบันไม่ได้ถูก โดยซื้อขายที่ พีอีเรโชสูงถึง 14.5 เท่า สูงกว่าพีอีเรโชในอดีตที่ซื้อขายระดับ 9-13 เท่า หากมองข้ามไปที่ปีหน้า โดยประเมินที่ระดับราคาน้ำมันเฉลี่ย 60-70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาหุ้นน่าจะมีค่าพีอีเรโชที่ 11-12 เท่า ดังนั้น จะได้ราคาหุ้นราว 121-144 บาท ดังนั้น เมื่อมองว่าหากราคาน้ำมันไม่กลับไปเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจนอีกครั้ง คาดว่าราคาหุ้น ปตท.สผ.จะแกว่งตัวใกล้เคียงราคาในปัจจุบัน สำหรับคำแนะนำ มองว่าควรหาจังหวะขาย และไปรอซื้ออีกครั้งเมื่อราคาอ่อนตัว
Categories
- กองทุน (2)
- ข่าวห้องค้า (7)
- ความรู้ หุ้น (15)
- ความรู้อนุพันธ์ (6)
- ความรู้อนุพันธ์;TFEX (1)
- ความรู้ SET (5)
- คอลัมน์ทองคำ (1)
- คอลัมน์หุ้น (30)
- ค่าเงิน (4)
- ค่าระวางเรือ (2)
- ดอกเบี้ย (6)
- ตลาดเงิน (3)
- ตลาดหุ้นทั่วโลก (9)
- ตลาดหุ้นไทย (239)
- ตลาดหุ้นสหรัฐ (46)
- ตลาดหุ้นสหรัฐ;เศรษฐกิจสหรัฐ (2)
- ตัวเลขส่งออก (1)
- ตัวเลข GDP (2)
- ทองคำ (14)
- น้ำมัน (15)
- แนวโน้มตลาดรายวัน (8)
- บทความหุ้น (56)
- ปฎิทินหุ้น (3)
- แผนกู้วิกฤตการเงิน (19)
- วอร์แรนท์ (3)
- เศรษฐกิจญี่ปุ่น (1)
- เศรษฐกิจไทย (91)
- เศรษฐกิจโลก (29)
- เศรษฐกิจสหรัฐ (11)
- หุ้น (65)
- หุ้นกู้ (3)
- หุ้นเด่นวันนี้ (4)
- หุ้นแบงค์ (2)
- G20 (3)
- warrant (1)
--==::: ข่าวประกาศ :::==--
ตลาดหลักทรัพย์ เปลี่ยนช่วงราคา และการแสดงราคา จาก 3 ระดับเป็น 5 ระดับ เริ่มวันจันทร์ 30 มี.ค.2552
บทความย้อนหลัง
- 05 ก.ค. (1)
- 11 ก.ย. (3)
- 09 ก.ย. (6)
- 03 ก.ย. (3)
- 02 ก.ย. (2)
- 27 ส.ค. (2)
- 20 ส.ค. (3)
- 18 ส.ค. (4)
- 10 ส.ค. (4)
- 04 ส.ค. (1)
- 03 ส.ค. (5)
- 30 ก.ค. (5)
- 28 ก.ค. (4)
- 27 ก.ค. (3)
- 24 ก.ค. (4)
- 23 ก.ค. (4)
- 22 ก.ค. (5)
- 21 ก.ค. (3)
- 20 ก.ค. (7)
- 17 ก.ค. (3)
- 16 ก.ค. (4)
- 15 ก.ค. (2)
- 14 ก.ค. (4)
- 13 ก.ค. (5)
- 10 ก.ค. (5)
- 09 ก.ค. (5)
- 08 ก.ค. (4)
- 03 ก.ค. (6)
- 30 มิ.ย. (5)
- 29 มิ.ย. (6)
- 26 มิ.ย. (4)
- 25 มิ.ย. (5)
- 24 มิ.ย. (5)
- 23 มิ.ย. (5)
- 22 มิ.ย. (5)
- 19 มิ.ย. (5)
- 18 มิ.ย. (5)
- 17 มิ.ย. (4)
- 16 มิ.ย. (4)
- 15 มิ.ย. (6)
- 12 มิ.ย. (5)
- 11 มิ.ย. (4)
- 10 มิ.ย. (4)
- 09 มิ.ย. (4)
- 08 มิ.ย. (4)
- 05 มิ.ย. (5)
- 04 มิ.ย. (4)
- 03 มิ.ย. (1)
- 28 พ.ค. (4)
- 27 พ.ค. (4)
- 26 พ.ค. (6)
- 25 พ.ค. (6)
- 22 พ.ค. (8)
- 21 พ.ค. (5)
- 20 พ.ค. (4)
- 19 พ.ค. (3)
- 14 พ.ค. (3)
- 13 พ.ค. (2)
- 12 พ.ค. (2)
- 11 พ.ค. (5)
- 07 พ.ค. (3)
- 06 พ.ค. (4)
- 30 เม.ย. (4)
- 29 เม.ย. (5)
- 28 เม.ย. (4)
- 24 เม.ย. (4)
- 23 เม.ย. (4)
- 22 เม.ย. (4)
- 20 เม.ย. (3)
- 17 เม.ย. (4)
- 16 เม.ย. (4)
- 10 เม.ย. (5)
- 09 เม.ย. (3)
- 08 เม.ย. (7)
- 07 เม.ย. (7)
- 05 เม.ย. (4)
- 03 เม.ย. (7)
- 02 เม.ย. (8)
- 01 เม.ย. (8)
- 31 มี.ค. (5)
- 30 มี.ค. (6)
- 29 มี.ค. (4)
- 28 มี.ค. (2)
- 27 มี.ค. (9)
- 26 มี.ค. (8)
- 25 มี.ค. (4)
- 24 มี.ค. (6)
- 23 มี.ค. (7)
- 20 มี.ค. (6)
- 19 มี.ค. (9)
- 18 มี.ค. (6)
- 17 มี.ค. (6)
- 16 มี.ค. (7)
- 13 มี.ค. (3)
- 12 มี.ค. (3)
- 11 มี.ค. (5)
- 10 มี.ค. (8)
- 09 มี.ค. (7)
- 05 มี.ค. (7)
- 04 มี.ค. (6)
- 03 มี.ค. (3)
- 02 มี.ค. (5)
- 27 ก.พ. (5)
- 26 ก.พ. (2)
- 25 ก.พ. (5)
- 18 ก.พ. (2)
- 17 ก.พ. (3)
- 16 ก.พ. (2)
- 12 ก.พ. (2)
- 11 ก.พ. (3)
- 09 ก.พ. (1)
29 มิถุนายน 2552
ครึ่งปีหลังรุ่งราคาน้ำมันหนุน
โดย Mboy เวลา 09:26
ป้ายกำกับ: คอลัมน์หุ้น, ตลาดหุ้นไทย, บทความหุ้น
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น