25 มิถุนายน 2552

มูดี้ส์หั่นเรทติ้ง ทหารไทย-ธสน.

มูดี้ส์หั่นเรทติ้ง ทหารไทย-ธสน.

มูดี้ส์สรุปผลทบทวนเรทติ้งแบงก์ไทย หั่นเครดิตตราสารหนี้สกุลเงินต่างประเทศ "ธสน." เป็น 'Baa1' จากเดิม 'A3' พร้อมลดเรทติ้งเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศแบงก์ทหารไทย
เหลือ 'Baa3/Prime-3' จาก 'Baa2/Prime-2' ส่วนเงินฝากระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศแบงก์นครหลวงไทยได้เรทติ้งเพิ่มเป็น 'P-2' จากเดิม 'P-3'

มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส หรือมูดี้ส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลกจากสหรัฐ ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ ธสน. และเรทติ้งเงินฝากธนาคารทหารไทย

ขณะเดียวกันได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากของธนาคารนครหลวงไทย โดยการประกาศครั้งนี้ ถือเป็นการสรุปผลการทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือ ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 27 เดือนพ.ค.ปีนี้ โดยมูดี้ส์ทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารไทย และให้แนวโน้มเป็นการปรับลดอันดับลง

ทั้งนี้มูดี้ส์ได้ลดเรทติ้งตราสารหนี้สกุลเงินต่างประเทศของเอ็กซิมแบงก์ลงสู่ระดับ 'Baa1' จากเดิม 'A3' และแนวโน้มเชิงลบ พร้อมปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศของธนาคารทหารไทยอยู่ที่ระดับ 'Baa3/Prime-3' จากเดิม 'Baa2/Prime-2' ให้แนวโน้มมีเสถียรภาพ และมูดี้ส์ยังได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศของธนาคารนครหลวงไทยขึ้นมาอยู่ที่ 'P-2' จากเดิม 'P-3' ส่วนแนวโน้มมีเสถียรภาพ

โดยการเพิ่มเรทติ้งเงินฝากให้ธนาคารนครหลวงไทยนั้น สอดคล้องกับการให้อันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะยาวแก่ธนาคารนครหลวงไทยที่ระดับเดียวกัน และสะท้อนศักยภาพธนาคารในการชำระคืนหนี้ระยะสั้นนั้น อยู่ระดับสูง

รายงานให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ มูดี้ส์ใช้เพดานเงินฝากสกุลเงินท้องถิ่น (LCDC) หรือแอลซีดีซีเป็นเกณฑ์หลัก ในการประเมินความสามารถของรัฐบาลชาติใดชาติหนึ่งในการสนับสนุนธนาคารในประเทศ และแม้การใช้เกณฑ์แอลซีดีซี มีความเหมาะสมในหลายๆ สถานการณ์ เมื่อพิจารณาถึงการกันสำรองสภาพคล่องของสถาบันการเงินในระยะเวลาสั้นๆ แต่เกณฑ์ดังกล่าวอาจให้ตัวเลขคาดการณ์สูงไปเทียบความสามารถของธนาคารกลาง ในการสนับสนุนสถาบันการเงิน หากเกิดวิกฤติธนาคารกลายเป็นปัญหาทั้งระบบและยืดเยื้ออย่างแท้จริง

สำหรับแนวทางข้างต้นระบุไว้ในบทวิเคราะห์ชิ้นพิเศษ (Special Comment) ในหัวข้อ "วิกฤติการเงินเชื่อมโยงมากขึ้นกับความเสี่ยงสินเชื่อแบงก์และเรทติ้งรัฐบาลในกลุ่มประเทศไม่ได้ Aaa" (Financial Crisis More Closely Aligns Bank Credit Risk and Government Ratings in Non-Aaa Countries) ซึ่งเผยแพร่ในเดือนพ.ค.ปีนี้

ในบทวิเคราะห์ชิ้นพิเศษของมูดี้ส์ ระบุว่าการจัดอันดับอ้างอิงเหมาะสมกับความสามารถของรัฐบาล ในการให้การสนับสนุนภาคธนาคาร ท่ามกลางวิกฤติที่ยืดเยื้อและลุกลามออกไปนั้น จะถูกปรับให้สอดคล้องหรือถูกจำกัดจากอันดับความน่าเชื่อถือด้านตราสารหนี้ของรัฐบาล

อย่างไรก็ดี มูดี้ส์เชื่อว่าอันดับความน่าเชื่อถือสามารถปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งปกติมักจะเป็นแง่บวก เพื่อสะท้อนมาตรการที่ไม่ใช่ทางการคลัง ซึ่งธนาคารกลางและรัฐบาลของหลายประเทศสามารถนำไปใช้เพื่อพยุงภาคธนาคารได้ และการพิจารณาที่สอดคล้องกับเกณฑ์วิเคราะห์ในรายงานดังกล่าวและสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งแนวโน้มในอนาคตของไทย

มูดี้ส์ยังสรุปด้วยว่าจากปัจจัยสนับสนุนด้านระบบ สำหรับอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารไทย สมควรปรับลดลงสู่ 'a2' จาก 'aa2' โดยอันดับ'a2' อยู่สูงกว่าอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้สกุลเงินบาทของรัฐบาลที่ 'baa1'อยู่ 2 ขั้น

ด้านธนาคารทหารไทย วานนี้ได้ชี้แจงกรณีมูดี้ส์ลดเรทติ้งธนาคารจาก Baa2/Prime 2 มาเป็น Baa3/Prime 3 ว่าอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารหลังถูกปรับลดแล้ว ยังคงอยู่ในระดับน่าลงทุน (investment grade)

โดยปัจจุบันธนาคารทหารไทยมีฐานเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง มีระดับเงินกองทุนเพียงพอตามกฎหมายที่ 14.1% สูงกว่าระดับที่กฎหมายกำหนดที่ 8.5% นอกจากนี้ธนาคารได้ทำการปรับปรุงระบบการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ให้ทัดเทียมระบบสากล และยังได้ขายสินเชื่อไม่ก่อเกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ออกไปจำนวน 15,000 ล้านบาท ในเดือนพ.ค.ปีนี้

อีกทั้งยังกำลังดำเนินแผนกลยุทธ์เพื่อเสริมสร้างฐานธุรกิจ ซึ่งรวมถึง การปรับปรุงระบบดำเนินงานของสาขา (branch transformation) การปรับปรุงระบบบุคลากร (HR transformation) และการพัฒนาธุรกิจรายย่อยสู้ระบบมาตรฐานสากล ปัจจุบันธนาคารไทยมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 601,379 ล้านบาท โดยมี กระทรวงการคลังถือหุ้น 26.1% และ ไอเอ็นจี กรุ๊ป 25.2%


โต้มูดี้ส์ยันฐานแบงก์ทหารไทยแข็งแกร่ง
อยู่ในระดับน่าลงทุน


นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวยืนยันว่า ธนาคารทหารไทย ไม่มีปัญหาเรื่องฐานะ แม้ทางบริษัทจัดอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ อินเวสเตอร์เซอร์วิสได้ ทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารจาก ระดับ Baa2/Prime 2 มาเป็น Baa3/Prime 3

ทั้งนี้ปัจจุบันธนาคารทหารไทย กองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) ณ เดือนพ.ค. 14.59% เทียบกับทั้งระบบที่อยู่ที่ 15% ถือว่ายังสูง ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดเหลือ 14% จาก 15% ของสินเชื่อ ขณะที่มีระดับการกันสำรองหนี้เอ็นพีแอลสูงถึง 1.1 เท่าตามที่กฎหมาย กำหนดที่ 8.5% หรือ 61% ของยอดเอ็นพีแอลทั้งหมด

นอกจากนั้นในส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคาร ทั้งจากกระทรวงการคลัง ธนาคารดีบีเอส และกลุ่มไอเอ็นจียังไม่มีปัญหาอะไร แม้ว่ากระทรวงการคลังจะมีการลดสัดส่วนการถือหุ้น แต่เป็นการลดสัดส่วนเพื่อเปิดทางให้ทางกลุ่มไอเอ็นจี เข้ามาถือหุ้น

“แบงก์ชาติเคยชี้แจงเรื่องนี้กับมูดี้ส์แล้ว แต่เขาไม่ฟัง ซึ่งเราก็ยืนยันว่าปัจจุบันฐานะธนาคารแข็งแกร่งมาก” นายสรสิทธิ์ระบุ

ด้านธนาคารทหารไทย ชี้แจ้งว่าอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคาร ยังคงอยู่ในระดับน่าลงทุนหรือinvestment grade นอกจากนี้ ธนาคารได้ทำการปรับปรุงระบบการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ให้ทัดเทียมระบบสากล และยังได้ขาย NPL ออกไปจำนวน 15,000 ล้านบาท ในเดือนพ.ค.2552 อีกทั้งยังกำลังดำเนินแผนกลยุทธ์เพื่อเสริมสร้างฐานธุรกิจ ซึ่งรวมถึง การปรับปรุงระบบดำเนินงานของสาขา การปรับปรุงระบบบุคลากร และการพัฒนาธุรกิจรายย่อยสู่ระบบมาตรฐานสากล


0 ความคิดเห็น:

Template by - Abdul Munir | Blogging4